เสี่ยรวย 100 ล้านดับ เมียร้องถูกจับขังคุก ชี้บ้านผัวใส่ร้ายวางยา หวังฮุบสมบัติไว้เอง

             เกี่ยวกับเรื่องนี้ (25 กรกฎาคม 2565) รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้ตายคือ เสี่ยเก่ง เป็นเจ้าของโรงงานอาหารสัตว์ ซึ่งภรรยายืนยันว่าถูกครอบครัวสามีใส่ร้าย เพื่อหวังจะเอามรดกกว่า 100 ล้านบาท โดยเสี่ยเก่งเสียเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 จากนั้นเธอก็โดนจับในวันที่ 1 ธันวาคม ก่อนที่ในวันที่ 9 ธันวาคม แม่ของเสี่ยเก่งจะเข้ามาเป็นผู้จัดการมรดก และโยกย้ายทรัพย์สินและเข้ามาควบคุมโรงงานแทน ส่วนพี่ชายเสี่ยเก่งก็ขอรับลูกของเธอทั้ง 2 คน ไปเป็นบุตรบุญธรรม เธอต้องอยู่ในเรือนจำ 3 เดือน โดยไม่ได้ตั้งตัว เพราะถูกแจ้งข้อหาวางแผนฆ่าสามีโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

             โดยใบคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 ของ สภ.กรับใหญ่ จ.ราชบุรี ระบุว่า เสี่ยเก่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์ และใบแจ้งตายจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า พบสารเมลามีน สารอันตรายทางการเกษตรสำหรับกำจัดแมลง ซึ่งผลสืบสวนระบุว่า ภรรยาเป็นผู้วางแผนวางยาฆ่าสามี ด้วยการผสมยากับเครื่องดื่มชูกำลัง จึงถูกจับติดคุก


             ทว่า เจ้าตัวได้รับการประกันตัวออกมาในวงเงิน 500,000 บาท เมื่อเดือนมีนาคม 2565 หลังจากทนายความได้รับเอกสารผลการชันสูตรพลิกศพของสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ครั้งที่ 2 ฉบับวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ระบุตอนหนึ่งว่า ไม่พบสารพิษจำพวกยาฆ่าแมลง แต่พบแพนโทพราโซล เป็นตัวยาสำหรับรักษาโรคกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร

พี่ชายโต้หวังฮุบสมบัติน้อง - ตำรวจแจงปมผลตรวจ 2 ครั้งไม่ตรง เพราะ ?

             ขณะที่พี่ชายเสี่ยเก่ง ปฏิเสธให้ข้อมูลเรื่องคดีความ เพราะเรื่องอยู่ในขั้นตอนของศาล ตนเองเชื่อมั่นในพยานหลักฐานฝ่ายตนเอง ไม่ขอก้าวก่ายภรรยาน้องชายว่าจะให้ข่าวอย่างไร และไม่ขอแก้ข่าว ซึ่งธุรกิจของเสี่ยเก่งทำร่วมกับน้องชายอีกคน ทำมา 2 - 3 ปี และหลังจากที่เสี่ยเก่งเสียชีวิต ธุรกิจก็ยังทำต่อ ยืนยันว่าไม่ได้วางแผนหวังฮุบสมบัติน้องชายแต่อย่างใด
             ทั้งนี้ พ.ต.อ. วีรศักดิ์ กลั่นเกิด ผกก.สภ.กรับใหญ่ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งฟ้องภรรยาผู้เสียชีวิตนั้น เนื่องจากมีการรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วน ส่วนประเด็นที่ผลการชันสูตรทั้ง 2 ครั้ง ไม่ตรงกัน เนื่องจากการตรวจเลือดครั้งแรกคือวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เป็นวันแรกที่ผู้เสียชีวิตแอดมิต พอเสียชีวิต ก็ได้มีการเก็บตัวอย่างเลือดอีกครั้งในวันที่ 30 พฤศจิกายน หลังเสีย 1 วัน ไปตรวจ ซึ่งที่ผลตรวจออกมาไม่ตรงกันคาดว่าเกิดจากระยะเวลาในการเก็บเลือดที่เก็บกันคนละวัน

             ขณะเดียวกัน ภรรยาของเสี่ยเก่ง ยอมรับในรายการโหนกระแสว่า ตอนนี้ยังเข้าบ้านไม่ได้เพราะถูกห้ามเอาไว้ ตอนนี้อยากกอดลูกมาก โดยมีลูกกับเสี่ยเก่งด้วยกัน 2 คน คนหนึ่งอายุ 16 ปี อีกคนหนึ่งอายุ 9 ขวบ


ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์