พาต้า สวนใส่กระทรวงปมค่าตัวบัวน้อย 30 ล้าน ยันไม่เคยมีใครติดต่อซื้อ ด้านสรปุกร่วมยำ จะพากลับบ้านทำเพื่อ ถ้าปล่อยป่ามีขิตแน่ ๆ
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีแผนนำพาบัวน้อย กอริลลาที่ห้างสรรพสินค้าพาต้า ซึ่งอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 30 ปี กลับไปสัมผัสดินแดนที่ประเทศเยอรมนีบ้านเกิดช่วงบั้นปลายชีวิต แต่อุปสรรคสำคัญคือ ทางสวนสัตว์พาต้าบอกว่า ราคาขายเจ้าบัวน้อยอยู่ที่ 30 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุที่มีแผนพาบัวน้อยกลับบ้าน เพราะทางกระทรวงและองค์การสวนสัตว์ มักได้รับการร้องเรียนจากประชาชนบ่อยครั้ง เรื่องสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของบัวน้อย ที่อยู่ในกรงมา 30 ปี อยากให้มันมีชีวิตที่ดีกว่านี้ อยากให้สัมผัสกับสัตว์สายพันธุ์เดียวกัน ดีกว่าตายอย่างโดดเดี่ยวในกรง
ล่าสุด วันที่ 22 ตุลาคม 2565 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กระทรวงตั้งเป้าว่า จะต้องพาบัวน้อยคืนถิ่นให้ได้ เนื่องจากบัวน้อยเกิดที่นั่น แต่ตนเพิ่งได้ยินตัวเลข 30 ล้านวันนี้ ถือเป็นเงินที่สูงมาก และคิดว่าการที่เจ้าของเลี้ยงบัวน้อยมา 30 ปี ก็น่าจะทำรายได้มากกว่านี้แล้ว หลังจากนี้คงต้องหารือกันว่า จะทำยังไงต่อ เอาเงินมาจากไหน ซึ่งตนก็ไม่อยากทำกิจกรรมแบบวิ่งเพื่อรับเงินบริจาค มันพร่ำเพรื่อและดราม่า
นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องพาบัวน้อยกลับบ้าน เป็นเพราะได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงสภาพความเป็นอยู่ที่โดดเดี่ยวมานานกว่า 30 ปี อยากให้มันมีชีวิตที่ดีกว่านี้ คงไม่ถึงขั้นปล่อยป่า ถ้าทำแบบนั้นบัวน้อยคงอยู่ไม่ได้
เรามีกิจกรรมเพื่อปล่อยบัวน้อย เช่น วิ่ง โดยมีการรวบรวมเงินบริจาค อยากให้มันมีบั้นปลายชีวิตที่ดี แต่ปัญหาคือ เจ้าของไม่ยอมขาย และแม้จะขายก็ตั้งราคาสูงเกินไป กระทรวงจึงทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นสมบัติส่วนตัว และเจ้าของก็ได้มาก่อนที่ประเทศไทยจะประกาศใช้กฎหมายการซื้อขายสัตว์ป่าและพืชป่าชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์
สำหรับบัวน้อย เป็นกอริลลาที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ในฐานะเป็นกอริลลาคู่แรกที่ได้รับการจัดแสดงในประเทศไทย เข้าไทยในปี 2535 ราคา 3 ล้านกว่าบาท แต่ภายหลังตัวผู้ตายลง บัวน้อยก็ยังคงได้รับความสนใจจากผู้คน
สวนสัตว์พาต้า สวนกลับจุก ๆ แซะคนคิดโครงการไม่เคยศึกษาความเป็นไปได้
ด้านเฟซบุ๊ก สวนสัตว์พาต้า มีการแถลงถึงเรื่องนี้ว่า ผู้บริหารของห้างพาต้าในปัจจุบัน เข้ามาบริหารงานในวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ขอยืนยันว่า ไม่เคยเจรจาซื้อขายบัวน้อยกับผู้ใดและหน่วยงานใด และขอปฏิเสธการเคลื่อนย้ายบัวน้อยตามที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เคยสอบถามและได้ตอบกลับไปอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ด้วยสาเหตุที่ไม่มั่นใจในการปรับตัวของบัวน้อย ลิงกอริลลาในวัยชราที่ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ด้วยความคุ้นเคยต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดเชื้อโรคใด ๆ เป็นเวลากว่า 30 ปี
นอกจากนี้ ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีผู้ใดหรือหน่วยงานใดเข้ามาเพื่อใช้เวลาศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลจากสถานที่ ตัวตนที่แท้จริงของบัวน้อย โดยเฉพาะคนให้สัมภาษณ์หรือคนคิดโครงการใด ๆ ไม่เคยศึกษาความเป็นไปได้ถึงโครงการก่อนนำเสนอ เรื่องนี้ถือเป็นความละเอียดอ่อนที่ต้องเลี้ยงกอริลลาให้อยู่รอดในสวนสัตว์ ที่ผ่านมาถือเป็นความสำเร็จที่ประเทศไทยมีศักยภาพเป็นที่พิสูจน์ได้ จนวันนี้บัวน้อยอยู่ในวัยชรา บั้นปลายสุดท้ายของชีวิตตามอายุขัยแล้ว
ส่วนมุมมองที่ต้องการให้บัวน้อยกลับไปตายที่บ้านเกิด ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป แต่การที่ผู้มีอำนาจมาบอกว่า ติดคุก ก็ไม่สมควรที่จะใช้คำนี้กับสัตว์ในสวนสัตว์เช่นกัน
เรื่องสนธิสัญญาไซเตส (CITES) ที่ห้ามซื้อขายสัตว์ต้องห้ามบางจำพวก กรณีนี้จะไม่มีการพูดถึง แต่ขอพูดแค่ว่า ที่ผ่านมาสวนสัตว์พาต้าให้ความรักและการดูแลเอาใจใส่กับบัวน้อยอย่างดีที่สุด แม้ช่วงหลังจะมีภาวะขาดทุนต่อเนื่อง แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่เจ้าหน้าที่่ฝ่ายบริหารจะเจรจาหรือตั้งราคาบัวน้อยให้ได้ผลกำไรกับสิ่งที่เรารักและหวงแหนมากที่สุด
สรปุก ชี้ บัวน้อยเกิดในศูนย์เพาะ จะส่งกลับบ้านทำไม
เฟซบุ๊ก Pook Sukonta Berthebaud หรือ สรปุก อินฟลูเอนเซอร์ด้านการสรุปข่าวดัง ๆ ชื่อดัง โพสต์ถึงประเด็นดังกล่าวที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับบัวน้อยว่า อ่านข่าวแล้วก็โมโหที่หน่วยงานรัฐผุดโครงการพาบัวน้อยกลับบ้านเกิด ส่วนคอมเมนต์บางคนก็บอกว่า อยากให้บัวน้อยไปวิ่งเล่นในป่า ลามปามไปจนถึงด่าเจ้าของสวนสัตว์
แต่ความจริงคือ บัวน้อยไม่ได้เกิดในป่าตามธรรมชาติ เกิดในศูนย์เพาะ ดังนั้นถือเป็นหนึ่งในกอริลลาที่เลี้ยงในห้องแอร์อายุมากที่สุดในโลก หมายถึง เขาเลี้ยงดีมาก พื้นในกรงก็สะอาด บางทีเอี่ยมกว่าบ้านคนอีก ถ้าหากพาบัวน้อยกลับบ้านไปปล่อยป่า รู้หรือไม่ว่าบัวน้อยสู้เชื้อโรคในดินไม่ไหว
นอกจากนี้ สวนสัตว์ยังขาดทุนมาตลอด เขาก็ไม่เคยดึงดราม่า ดูแลบัวน้อยอย่างดี ญี่ปุ่นเคยขอซื้อบัวน้อย 50 ล้านเขายังไม่ขาย และดราม่าบัวน้อยจะมาเรื่อย ๆ ทุก ๆ ปี แต่ยังดีที่เดี๋ยวนี้คนเข้าถึงข่าวมากขึ้น ทำให้มีดราม่าน้อยลง
