ย้อนชีวิต ครูเทียม จากกรรมกรแบกหามสู่ครูสอนเต้น เป็นคนไม่เที่ยวสีลม จนอนาจารเด็ก 16

           ย้อนคำสัมภาษณ์ ครูเทียม ชุติเดช ทองอยู่ ครูสอนเต้นและคอมเมนเตเตอร์รายการดัง ชีวิตจากลูกคนรวย ต้องกลายเป็นกรรมกร ก่อนเดินทางตามฝัน ทำงานวงลูกทุ่ง จนเป็นครูสอนเต้นระดับประเทศ รับชีวิตนี้ไม่เที่ยวสีลม พัฒน์พงษ์ จนกระทั่งมีข่าว อนาจารเด็ก 16 ปี

           จากกรณีสุดฉาวของ ครูเทียม ชุติเดช ที่ถูกตำรวจจับและค้นบ้าน พร้อมมีความเห็นส่งฟ้องอัยการใน 3 ข้อหาคือ พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งพบว่าเหยื่อนั้นเป็นอดีตคนที่เคยไปออกรายการโทรทัศน์ และครูเทียมได้พามาที่บ้าน อนาจารเด็กและเด็กไม่ยินยอม

           ทั้งนี้ ครูเทียม เคยออกรายการคุยแซ่บโชว์ และยอมรับว่าตนเคยร่วมงานกับนักร้องลูกทุ่งทั้งแผ่นดิน ตั้งแต่สายัณห์ สัญญา, เอกชัย ศรีวิชัย, รุ่ง สุริยา, ไผ่ พงศธร, ต่าย อรทัย, ไมค์ ภิรมย์พร, ตั๊กแตน ชลดา เรียกได้ว่าถ้าอยู่วงการลูกทุ่ง ต้องเคยผ่านมือครูเทียม ล่าสุดกับคอนเสิร์ตของต่าย อรทัย ไผ่ พงศธรมาร่วมงานด้วย ครูเทียมก็บอกว่าช่วยซับเหงื่อให้ไผ่ "ผู้ชายเขาดูแลตัวเองไม่ได้หรอก ผู้หญิงเขาทำเองได้ มันเป็นแบบนั้นแหละ"

จากลูกคนรวย ชีวิตพลิกเพราะพ่อเสีย ต้องมาทำงานแบกหาม จนได้ไปสมัครงานในวงดนตรีลูกทุ่ง

           ครูเทียมยอมรับว่า ตนเป็นลูกคหบดี คุณพ่อเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คุณพ่อมีเงิน ที่บ้านมีรถขับ ตนเป็นลูกเมียน้อย มีพี่น้อง 6 คน ส่วนเมียหลวงของพ่อมีลูก 2 คน ได้เรียนเมืองนอก  เมื่อคุณพ่อเสียชีวิต ตนที่อยู่ในสถานะลูกเมียน้อย ก็เรียกร้องอะไรไม่ได้ แม่ก็หอบลูก 6 คนไปอยู่ต่างอำเภอในบ้านนอก จากคนในเมืองนั่งรถ ก็ต้องมาขี่หลังควาย เรียนหนังสือบ้านนอก แต่ก่อนต้องไปแจกของกับพ่อ ชีวิตก็พลิกต้องมารับของแจกเอง กางเกงปะแล้วปะอีก

           เมื่อขึ้นวัยมัธยม ครูเทียมที่โตแล้วเริ่มรับรู้ว่าครอบครัวลำบาก ไปเรียนก็ไกลมาก แม่ต้องดูแลลูก 6 คน จึงอยากแบ่งเบาภาระคุณแม่ ด้วยการที่ปิดเทอม ก็ไปทำงานก่อสร้าง เป็นกรรมกร ทั้งหมู่บ้านมาหมด สภาพก็ต้องโหนแออัดยัดเยียดเข้า กทม. ทำให้ตอนนี้เวลาเจอคนต่างด้าวที่แออัดมาทำงานใน กทม. โหนรถกันเข้ามา ตนมองไม่ได้ น้ำตาซึมทันที

           อย่างไรก็ตาม ตอนที่คุณพ่อยังอยู่ เนื่องจากตนเป็นลูกข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ครูเลยมักคัดเลือกให้ตนได้ออกมาเต้น และพ่อก็ส่งไปเรียนรำกับพี่สาว พี่รำไม่จบ ตนรำได้จบ 300 รอบ และพอมีงานวัดแถวบ้านนอก ตนก็ไปร้องเพลง และตนใช้จุดที่เคยมีพื้นฐานตรงนี้ ไปสมัครงานที่ซอยบุปผาสวรรค์ ซึ่งเป็นซอยหนึ่งใน ถ.จรัญสนิทวงศ์ มีวงดนตรีลูกทุ่งเต็มไปหมด แต่ตอนนั้นไม่ได้สมัครเป็นนักเต้น สมัครเป็นนักร้องอย่างเดียว และมีความฝันอยากดังเหมือนยอดรัก สายัณห์ แต่สมัครกับที่ไหนก็ไม่รับ เขาจะบอกว่าเต็ม จนถึงวงสุดท้ายคือ วงศรเพชร ศรสุพรรณ ที่บอกว่าไม่รับนักร้องแล้ว เต็มเหมือนกัน แต่ครูเทียมไม่ท้อ และถามว่าถ้าไม่เป็นนักร้องจะพอทำอะไรได้บ้าง ตอนนั้นรู้สึกว่าผีถึงป่าช้า ไม่เผาก็ต้องฝัง หันหลังกลับไม่ได้ เขาก็ให้เป็น "คอนวอย" ซึ่งจริง ๆ คือเด็กยกของ แบกตู้ ทุกอย่าง

           เมื่ออยู่ในวงดนตรี ก็เห็นหางเครื่องเต้น ครูเทียมก็โยกตาม และมีโอกาสเมื่อคนขาด คนสอนเต้นเห็นครูเทียมก็ถามว่าจะมาเต้นด้วยกันไหม แถมได้เต้นกับคุณตุ่ม เมียศรเพชร ศรสุพรรณ และด้วยความอินเนอร์บนเวที ลงมาจากเวทีก็ทำเอาศรเพชรและเมียทะเลาะกัน หาว่ากิ๊กกัน

ภาพจาก คุยแซ่บShow

ภาพจาก คุยแซ่บShow

ภาพจาก คุยแซ่บShow