เผยเป็นกลุ่มคนที่มาจาก จ.อุบลราชธานี สั่งทีมประกบตัว หากพบการกระทำผิดจับทันที ด้าน "หนุ่มเมียงู" ยังอาลัยเก็บไข่เมียงูใส่ตู้กระจก เฝ้าไม่ยอมห่าง ชาวบ้านยังแห่ดูตลอดวัน
ยังคงเป็นข่าวฮือฮาที่สร้างความสนใจได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับหนุ่มเมียงู ที่ต้องพรากจากกัน เนื่องงูเหลือมดังกล่าวเลื้อยหายไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เมษายน บรรยากาศที่บ้านพักของ นายเสถียร เคนกุดรัง เลขที่ 82 บ้าน ดอนย่านาง ตำบลนาข่า อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ยังคงคึกคักเหมือนทุกวัน โดยนายเสถียรยังตั้งความหวังว่า "เมียงู" จะกลับมา จึงเฝ้ารออยู่ที่เรือนหอกรงงูหน้าบ้าน ซึ่งนายเสถียรนำเอาไข่ที่เชื่อว่า เป็นของเมียงูไข่ทิ้งไว้ก่อนจากไปเก็บรักษาไว้ในตู้กระจก ภายในได้นำดินรองพื้นไว้ พร้อมปฏิเสธที่จะให้บุคคลอื่นเข้าไปดูในกรงดังกล่าว
ส่วนบริเวณหน้าบ้านของหนุ่มเมียงูพบว่า ชาวบ้านจำนวนหลายคนยังจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีพ่อค้าตั้งเต็นท์จำหน่ายอาหาร และยังจำหน่ายวีซีดีพิธีแต่งงานของนายเสถียรกับเมียงู ในราคาแผ่นละ 100 บาทเช่นเดิม ขณะที่ชาวบ้านบางคนนำเอาไข่จระเข้มาเปรียบเทียบกับไข่ที่เชื่อว่าเป็นของเมียงู เนื่องจากชาวบ้านบางส่วนไม่เชื่อ พร้อมกล่าวหาว่านายเสถียรเอาไข่สัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่น หรือไข่จระเข้ มาหลอกลวง จึงต้องนำมาเปรียบเทียบให้หายสงสัย
ด้านนายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตอนแรกที่ข่าวนายเสถียรจัดพิธีแต่งงานกับงูแพร่ออกไปนั้น ส่วนตัวเห็นว่า หากเป็นความต้องการที่จะอยู่กับงูก็ไม่เป็นไร สามารถอยู่ด้วยกันได้ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นความเชื่อส่วนบุคคล จึงไม่อยากเข้าไปทำอะไรมากนัก แต่ต้องฝากเตือนชาวบ้านทุกคนไม่ให้เชื่อในลักษณะงมงาย ส่วนการดำเนินการอื่นๆ เช่น ทำวีซีดีขายนั้น เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบลงพื้นที่ชี้แจงแล้วว่า อะไรที่ทำได้ และทำไม่ได้ แต่หลังจากงูหนีหายไปนั้น กลับเปิดประเด็นใหม่ในเรื่องพบไข่งู และยังบอกว่าเป็นไข่ที่เมียงูทิ้งไว้ก่อนหนีไป จากนั้นนำไข่มาไว้ที่บ้าน และจุดธูปบูชา เพื่อขอหวย ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง
"เรื่องนี้ผมได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่แล้ว เชื่อได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อหาผลประโยชน์ โดยมีขบวนการที่แอบแฝงเข้ามา ผมทราบแล้วว่าคนกลุ่มนี้มาจากอุบลราชธานี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ติดตามประกบตัว ถ้าหากมีการกระทำผิดปรากฏขึ้นให้ดำเนินการจับกุมทันที" ผู้ว่าฯ อุดรธานีกล่าว
ด้านนายปรียะวุฒิ วัชรานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.ขอนแก่น กล่าวว่า ตามธรรมชาติแล้วงูเหลือมจะออกไข่ในที่รกและแห้ง ครั้งละประมาณ 20 ฟองขึ้นไป ซึ่งอุณหภูมิมีผลต่อเพศของลูกงู คือ ถ้าอุณหภูมิสูงจะเกิดเป็นงูตัวเมีย ส่วนลักษณะของไข่ จะมีลักษณะยาว รี เปลือกไข่จะหยาบ เหนียว ที่สำคัญไข่ของสัตว์เลื้อยคลานนั้น เปลือกจะไม่เต่ง และแข็งเหมือนสัตว์จำพวกเป็ด และไก่
นายปรียะวุฒิกล่าวอีกว่า การนำไข่งูมาฟักเป็นไปได้ แต่ต้องระมัดระวังคือ ไข่ของสัตว์เลื้อยคลานจะต่างจากไข่ของสัตว์ชนิดอื่น คือ เมื่อเก็บไข่มาในลักษณะใดก็ต้องวางไข่ที่เก็บมาในทิศทางเดิม ถ้าพลิกไข่แล้วจะทำให้ตัวอ่อนที่อยู่ภายในตาย ซึ่งไม่เหมือนกับไข่เป็ด หรือไข่ไก่ที่สามารถพลิกได้ และเท่าที่เคยนำไข่งูเหลือมมาฟักจะใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์ขึ้นไป ส่วนกรณีของหนุ่มเมียงูที่เอาไข่มาใส่ในตู้กระจก และใส่ดินลงไปด้วยนั้นเป็นไปได้ที่ไข่จะฟักเป็นตัวออกมา แต่ไข่ที่หนุ่มเมียงูนำมาฟักยังไม่ได้เห็นด้วยตา ซึ่งอาจจะเป็นไข่ของงูจริงๆ หรือเป็นของไข่สัตว์ชนิดอื่นก็เป็นไปได้ทั้งหมด แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้นคือ ไข่ดังกล่าวนั้นจะเกิดจากคนกับงู
ข้อมูลจาก
