x close

หนุ่มทุ่มสินสอดเป็นล้าน รู้ความลับเจ้าสาวคืนก่อนแต่ง ช้ำหลอกทำสัญญาไม่คืนเงิน


          หนุ่มทุ่มสินสอดเป็นล้าน ดันมารู้ความลับเจ้าสาวคืนก่อนแต่ง เจ้าบ่าวโดนหลอกไม่พอ ยังมีสัญญาไม่คืนเงิน

หลอกแต่งงาน
ภาพจาก Weibo

          วันที่ 17 มีนาคม 2566 เว็บไซต์ Phu Nu & Phap Luat หยิบเรื่องราวสุดช้ำใจของชายรายหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนมาเผยแพร่ นายหลี่ เคยเป็นว่าที่เจ้าบ่าว ซึ่งกำลังจะแต่งงานกับเจ้าสาวที่มีค่าสินสอดสูงเป็นล้าน แต่ก่อนวันแต่งงาน เขาเพิ่งได้รู้ความลับของเจ้าสาวที่ถูกปิดบังเอาไว้ มันทำให้เขาตกใจมากจนถึงขั้นจะล้มเลิกงานแต่ง ทว่าดันเจอกับดักสัญญาซาตาน ที่เขาเคยตกลงเอาไว้ว่า "จะไม่คืนเงินค่าสินสอด"

          นายหลี่เป็นคนที่ทำงานยุ่งมาก จนไม่มีเวลาหาคนรัก จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมา เขาอายุ 30 ปี ได้รับคำแนะนำให้รู้จักกับหญิงสาววัย 32 ปี เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว มีการศึกษา เรียนจบมหาวิทยาลัยที่ดี อีกทั้งยังมีรูปร่างดีและหน้าตาสวยงาม ในการเจอกันครั้งแรก หลี่ก็สนใจเธอทันที ส่วนครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็เห็นดีเห็นงาม

          เมื่อเป็นเช่นนั้น การศึกษาดูใจของทั้งสองคนจึงรวดเร็วมาก เป็นเวลาเพียง 21 วัน นับตั้งแต่ที่ได้เจอกัน พวกเขาก็ตกลงจดทะเบียนสมรสกัน และเตรียมตัวจัดงานแต่งงาน ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ซึ่งทางครอบครัวของนายหลี่ ได้มอบเงินค่าสินสอดให้กับฝ่ายเจ้าสาวตามที่ร้องขอ เป็นจำนวนเงินถึง 200,000 หยวน หรือราว 1 ล้านบาท

          ทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัว จนกระทั่งคืนก่อนที่จะถึงงานแต่งงาน ทั้งสองครอบครัวได้ไปเยี่ยมชมการตกแต่งที่เรือนหอ ซึ่งเป็นบ้านที่ครอบครัวของเจ้าบ่าวซื้อให้สำหรับนายหลี่และว่าที่ภรรยา ทว่าในระหว่างที่กำลังเดินดูรูปภาพพรีเวดดิ้งสวยงามที่นำมาติดประดับ อยู่ ๆ เจ้าสาวก็เกิดอาการประหลาด

          "เธอยกมือขึ้นเหนือศีรษะ ตบมืออย่างแรงแล้วตบศีรษะ เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ มีอาการคุ้มดีคุ้มร้ายอย่างเห็นได้ชัด และเธอยังพูดคำหยาบต่อหน้าทุกคน"

          ครอบครัวนายหลี่ตกใจมาก ไม่คาดคิดว่าหญิงสาวที่ดูสง่างามและอ่อนโยนจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ ทว่าทางแม่ของฝ่ายหญิงกลับบอกกับครอบครัวฝ่ายชายว่า "ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกตกใจไป เธอจะไม่เป็นอะไรตราบใดที่กินยาตรงเวลา"

          ในเวลานั้นทางครอบครัวของหลี่รู้ได้แน่ชัดว่า ว่าที่ภรรยาของลูกชายเป็นผู้ป่ายที่มีการทางจิต และจะมีอาการกำเริบเป็นครั้งคราว พวกเขาเชื่อว่าทางครอบครัวของฝ่ายหญิงจงใจปกปิดเรื่องนี้ จึงต้องการที่จะยกเลิกงานแต่งงาน เพราะรับไม่ได้ที่ลูกสะใภ้ป่วยทางจิต แต่ทางครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ยอม จึงเกิดการปะทะโต้เถียงกันดุเดือด

          ทางครอบครัวของฝ่ายหญิงอ้างเรื่องสัญญาที่ทั้งสองครอบครัวได้เซ็นไว้ร่วมกัน ในนั้นมีข้อตกลงที่ระบุว่า ทางครอบครัวของฝ่ายหญิงจะไม่คืนเงินค่าสินสอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ซึ่งตอนนั้นทางญาติฝั่งเจ้าบ่าวรีบลงนามไปโดยที่ไม่ทันได้ตรวจสอบให้ถี่ถ้วน แต่การที่มีเงื่อนไขข้อนี้ ทำให้ครอบครัวฝ่ายชายมั่นใจว่า มันคือกับดัก

          เมื่อไม่รู้จะทำเช่นไร นายหลี่จึงขอความช่วยเหลือจากนักข่าวให้นำเสนอเรื่องที่เขาอ้างว่าโดนหลอกนี้ จนกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม อย่างไรก็ดี ทางครอบครัวของฝ่ายหญิง อ้างว่า ตอนนี้ทั้งสองเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย แค่ยังไม่ได้จัดพิธีฉลองการสมรส หากฝ่ายชายต้องการหย่าร้าง ก็ไม่ใช่ความผิดของฝ่ายหญิง โดยยืนยันว่า "เธอไม่ได้ป่วยทางจิต แค่ตื่นเต้นกับงานแต่งงานมากเกินไปเท่านั้น"

หลอกแต่งงาน
ภาพจาก Weibo

          นายหลี่ไม่ยอมแพ้ เพราะครอบครัวทำงานหนักมาทั้งชีวิตเพื่อเก็บเงินก้อนนี้ให้เขาแต่งงาน เขาจึงพยายามหาทางออกและพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ จึงแจ้งกับครอบครัวฝ่ายหญิงว่า ให้เธอไปตรวจที่โรงพยาบาลให้แน่ชัดว่าเธอป่วยจริงหรือไม่ หากเขาเข้าใจผิดไปเอง ก็ยินดีที่จะขอโทษ และจัดงานแต่งงานต่อไปตามเดิม ทว่าทางครอบครัวของเธอกลับไม่ยอมทำตาม

          นอกจากนี้ เพื่อนของนายหลี่ยังไปสืบเจอข้อมูลสำคัญว่า ผู้หญิงคนนี้เคยเข้าศูนย์ฟื้นฟูสภาพจิตใจในปี 2560 โดยในแฟ้มบันทึกระบุว่าเธอมีอาการนี้มาตั้งแต่ปี 2554 และนอกจากนั้น ยายและลูกพี่ลูกน้องของเธอ ก็มีประวัติของโรคนี้เช่นกัน

          ท้ายที่สุด ทางครอบครัวของนายหลี่จึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากทนายความ ให้ช่วยดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมาย ให้ศาลช่วยพิจารณาตัดสินความชอบธรรม ซึ่งรายงานระบุว่า หากทางฝ่ายหญิงป่วยทางจิตจริง นายหลี่สามารถหย่า และเรียกร้องเงินค่าสินสอดคืนได้


ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่


ขอบคุณข้อมูลจาก Phu Nu & Phap Luat


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หนุ่มทุ่มสินสอดเป็นล้าน รู้ความลับเจ้าสาวคืนก่อนแต่ง ช้ำหลอกทำสัญญาไม่คืนเงิน อัปเดตล่าสุด 20 มีนาคม 2566 เวลา 17:34:27 33,817 อ่าน
TOP