คุ้มไหม !? ข้าราชการเซลฟี่ มือถือหลุดมือจมเขื่อน สั่งสูบน้ำจนแห้ง งมเจอแต่งานเข้า

           ด้วยความที่โทรศัพท์เครื่องนี้เพิ่งจะถูกซื้อมาเพียงไม่กี่เดือน ส่งผลให้ ราเชศ เกิดความเสียดายที่จะปล่อยให้มันจมอยู่เช่นนั้น เขาพยายามให้ชาวบ้านมาช่วยกันงมหาแต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากขณะนั้นเขื่อนมีปริมาณน้ำสูงถึง 3 เมตร โดยชาวบ้านบอกว่า ถ้าน้ำเหลือความลึกสัก 1 เมตร คงน่าจะจะพอมีโอกาสงมขึ้นมาได้

           ภายหลังเดินหน้าสูบน้ำอย่างต่อเนื่องถึง 2 วัน ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดการทรัพยากรน้ำเข้ามาสั่งให้ระงับการสูบน้ำออกจากเขื่อน เนื่องจากทางหน่วยงานได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน และไม่พบว่าจะมีเกษตรกรรายไหนได้ประโยชน์มากนักจากปริมาณน้ำเยอะเช่นนี้ นอกจากนักท่องเที่ยวซึ่งมาปิกนิกที่เขื่อนได้ใช้น้ำในการอาบน้ำเท่านั้น

           ในที่สุด ราเชศ ก็งมโทรศัพท์ขึ้นมาจากเขื่อนได้สำเร็จ แต่ก็พบว่ามือถือนั้นอยู่ในสภาพที่พังไปแล้ว ขณะเดียวกัน สิ่งที่ตามมาก็คือคำสั่งพักงานราเชศอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าการไต่สวนจะเสร็จสิ้น หลังการสูบน้ำทิ้งไปเปล่า ๆ ถึง 2 ล้านลิตร

            เบื้องต้น ราเชศ อ้างว่าสาเหตุที่จำเป็นต้องล้ำเส้นเพื่องมมือถือเครื่องนี้ขึ้นมาให้ได้จริง ๆ เพราะภายในเครื่องมีข้อมูลอ่อนไหวของรัฐบาลอยู่ และจำเป็นต้องเก็บกู้กลับมา

           อย่างไรก็ดี ประเด็นดังกล่าวกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงในสังคม โดยเฉพาะผู้คนที่รับไม่ได้กับพฤติกรรมเห็นแก่ตัวของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านและปศุสัตว์ต้องเดือดร้อนเสี่ยงขาดแคลนน้ำในช่วงสภาพอากาศร้อนจัด

           ล่าสุด เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำที่อนุญาตให้ ราเชศ ทำการระบายน้ำออกจากเขื่อนดังกล่าว ก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนการลงโทษทางวินัย โดยทางการนั้นเรียกร้องให้เข้าชี้แจงถึงเรื่องการตัดสินใจดังกล่าว ขณะเดียวกันมีรายงานว่า มีจดหมายส่งถึงเลขาธิการกรมทรัพยากรน้ำ เรียกร้องให้ราเชศและเจ้าหน้าที่ชดใช้ค่าเสียหายสำหรับปริมาณน้ำที่สูญเสียไป

           ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก BBC, Mothership