รพ. แจง หมอมีนไม่ได้อยู่เวรคนเดียว - ส่องเส้นทางทำไมเกิดอุบัติเหตุ พบไม่ใช่เคสแรก

          รอง ผอ. โรงพยาบาลพหลพยุหเสนา แจง การอยู่เวรของหมอจบใหม่ จะไม่ได้อยู่เวรคนเดียว ย้ำ หมอมีนอยู่เวร 3-4 เวรต่อเดือน ตกสัปดาห์ละ 1 วันเท่านั้น ไม่ได้ทำงานหนักเกินไป ขณะที่ตรวจสอบเส้นทางทำไมเกิดอุบัติเหตุ พบเป็นจุดอันตรายเกิดเหตุบ่อยครั้ง


          จากกรณีข่าว หมอมีน แพทย์จบใหม่ ที่เพิ่งเริ่มปฏิบัติงานในตำแหน่งแพทย์เพิ่มพูนทักษะ ได้เพียง 23 วัน ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหลังจากลงเวร ซึ่งบุคลากรในวงการแพทย์ ได้ออกมาไว้อาลัยรวมถึงตั้งข้อสังเกตว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดจากความอ่อนเพลียของหมอที่ต้องทำงานติดต่อกันถึง 4 กะจนไม่มีเวลาพักผ่อนหรือไม่ ซึ่งทางพ่อของหมอมีน ไม่รู้ว่าลูกเข้าเวรติดต่อกันถึง 4 กะจริงไหม พร้อมวอนให้ สธ. ดูแลจัดตารางเวรหมอให้เหมาะสมด้วย นั้น

          อ่านข่าว : อาลัย หมอมีน หมอสาวจบใหม่ เพิ่งเริ่มทำงาน 23 วัน ประสบอุบัติเหตุ หลังออกเวร

          อ่านข่าว : พ่อไม่รู้ หมอมีนควงเวร 4 กะ จริงไหม เผยความมุ่งมั่นลูก ช่วยคนไข้พื้นที่ห่างไกล

          ล่าสุด (26 มิถุนายน 2566) ข่าวเช้าช่องวัน รายงานว่า นพ.รักษ์พงศ์ เวียงเจริญ รอง ผอ. โรงพยาบาลพหลพยุหเสนา ที่หมอมีนทำงานอยู่ ออกมาชี้แจงกรณีการเข้าเวรของหมอมีนก่อนจะประสบอุบัติเหตุซึ่งเป็นการเข้าเวรปกติ


          โดยระบุว่า หมอมีนอยู่ที่แผนกศัลยกรรม เข้าเวรในคืนวันที่ 21 มิถุนายน ผู้ป่วยในคืนนั้นมีไม่เยอะ และเช้าวันต่อมาวันที่ 22 มิถุนายน หมอมีนมาเข้าวอร์ดอุบัติเหตุ มีคนไข้ประมาณ 15 คน ตอนทำงานที่วอร์ดนี้หมอมีนทำงานอยู่กับสตาฟฟ์และแพทย์ประจำบ้าน ซึ่งการเกิดเหตุเกิดขึ้นหลังเลิกงานแล้ว หมอมีนขับรถไปทำภารกิจส่วนตัว และพออุบัติเหตุเกิดขึ้น หมอมีนถูกส่งตัวกลับมาที่โรงพยาบาล อาจารย์หมอทุกคนมาช่วยกันผ่าตัดเต็มกำลังความสามารถ แต่สุดท้ายหมอมีนเสียชีวิต

          ส่วนเรื่องการอยู่เวรของหมอจบใหม่ จะไม่ได้อยู่เวรคนเดียวจะให้อยู่กับหมอเฉพาะทาง ซึ่งที่แผนกที่หมอมีนประจำอยู่ จะมีหมอมีนและหมอฝึกหัด ฝึกทักษะอยู่ประมาณ 4 คน ดังนั้นหมอมีนจะอยู่เวร 3-4 เวรต่อเดือน ตกสัปดาห์ละ 1 วันเท่านั้น จึงไม่น่าจะเป็นการทำงานโอเว่อร์โหลดหรือควงกะติดกันมากเกินไป ซึ่งโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจ ถือเป็นความสูญเสียที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น

ส่องเส้นทางที่หมอมีนเกิดอุบัติเหตุ พบเป็นเส้นทางอันตรายเกิดเหตุบ่อย

          จากคำสัมภาษณ์พ่อของหมอมีน ทางพ่อไม่ได้โทษเรื่องของการลากเวรติดกันจนทำให้ลูกสาวเกิดอุบัติเหตุ แต่อาจเป็นเพราะลูกสาวไม่ชินเส้นทางมากกว่า โดยหลังจากออกเวรช่วงเย็นหมอมีนได้ขับรถออกจากโรงพยาบาล เพื่อจะไปดูโรงพยาบาล 2 แห่งที่จะไปฝึกงานต่อ และพบว่าเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างอันตราย

          รายงานระบุว่า จากการตรวจสอบเส้นทางจุดที่บ้านหนองผักแว่น ต.สมเด็จเจริญ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ถนนจะเป็นเลนสวน 2 เลน และเป็นเนินสูงทำให้เวลาขับรถขึ้น-ลงเนิน หรือขับสวนกัน อาจทำให้บางครั้งไม่เห็นรถที่ขับสวนมา

          อีกทั้งถนนเส้นนี้ช่วงทางลงด้านซ้ายจะมีซอยทางแยก ทำให้บางครั้งจะมองไม่เห็นรถที่ขับออกมาจากทางแยกอีกด้วย จึงเป็นจุดที่อันตรายสำหรับคนไม่ชินเส้นทาง ซึ่งควรจะมีป้ายบอกทางขนาดใหญ่ หรือสัญญาณไฟกะพริบ แต่ปรากฏว่าพบแค่ป้ายบอกทางขนาดเล็กเท่านั้น ซึ่งเคสหมอมีนไม่ใช่อุบัติเหตุครั้งแรก เพราะชาวบ้านบอกว่า จุดดังกล่าวเรียกว่าเนินซอย ม.6 เขย นั้นอันตรายและเกิดเหตุบ่อยครั้ง

          ส่วนเรื่องคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี สรุปสาเหตุว่ามาจากความประมาทและไม่ชินเส้นทาง รถหมอมีนวิ่งขึ้นเนินด้วยความเร็วและลงเนินเขาเป็นทางโค้ง รถจึงเสียการทรงตัวและล้ำไปอีกเลนจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว



ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวเช้าช่องวัน