น่าสังเกตุว่า ยังคงมีเด็กนักเรียนที่เรียนเก่งแต่ครอบครัวไม่มีปัญหาส่งเรียนโผล่มาอีกเรื่อยๆ ล่าสุดสอบติดคณะแพทยศาสตร์ แต่ครอบครัวไม่มีเงินส่งเสีย เนื่องจากการเรียนแพทย์ต้องใช้เงินทุนสูงครั้งนี้
นายสุรนิตย์ มงคลวงศ์ อายุ 52 ปี อดีตข้าราชการครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอำนาจเจริญ อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.7 ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ เข้าร้องต่อสื่อมวลชนว่า บุตรชายคือ นายปกรณ์พล มงคลวงศ์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนอำนาจเจริญ สามารถสอบแอดมิดชั่นเข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้พร้อมกับเพื่อนๆอีกรวม 7 คน แต่ครอบครัวของตนเดือดร้อนไม่สามารถส่งเสียให้เรียนจนจบหลักสูตรได้ จึงขอผู้ใจบุญช่วยเหลือ
นายสุรนิตย์ กล่าวว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งตับ ส่วนภรรยาที่เป็นครูก็ป่วยเป็นโรคลิ่มเลือดแข็ง เมื่อทำงานไม่ได้ทั้งสองคนจึงขอลาออกจากราชการมาอยู่บ้าน โดยยังได้เงินค่าตอบแทนอยู่ รวมกันสองคนประมาณเดือนละ 10,000 กว่าบาท แต่ครอบครัวมีลูก 3 คน คนโตกำลังเรียนที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธา ม.อุบลราชธานี คนที่สองเรียนที่คณะพยาบาลศาสตร์ศิริราช ม.มหิดล และคนสุดท้ายคือ นายปกรณ์พล ที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ ม.อุบลราชธานี ซึ่งลูกทั้งสามคนต้องใช้เงินทั้งนั้น เกรงว่าเงินที่มีอยู่จะไม่เพียงพอ อีกทั้งพ่อแม่ก็ป่วยไม่สามารถทำงานหาเงินส่งเสียได้
"ขอฝากถึงผู้ใจบุญทั่วประเทศได้ช่วยครอบครัวของผมด้วย เพราะอยากจะให้เขาเรียนในสาขาที่เขาสอบได้ แม้ว่าจะแลกด้วยการให้ลูกชายของผมไปอยู่ด้วยเพื่อเลี้ยงเขาเป็นลูกบุญธรรมก็ยอม เพราะอยากจะให้ลูกได้เรียนหนังสือ" นายสุรนิตย์ บอก
นางสวาท แม่ของนักเรียนรายนี้ กล่าวว่า อยากจะให้ลูกยืมเงินกู้ยืมเพื่อเรียนหนังสือ แต่กลับยืมไม่ได้ เพราะโครงการเงินกู้ยืมเรียนมีเงื่อนไขว่า ห้ามครอบครัวที่มีรายได้เกิน 150,000 บาทต่อปีกู้เงิน จึงทำให้ลูกชายหมดสิทธิ์กู้ยืมเรียน ทั้งที่ความจริงพ่อแม่แม้จะมีเงินรายได้เกิน 150,000 บาท ต่อปี แต่ต้องแบกภาระส่งเสียลูกหลายคน และ มีหนี้สินอีก ซ้ำเจ็บป่วย ไม่รู้เมื่อไหร่จะเสียชีวิต เกรงว่าจะส่งเสียลูกเรียนไม่จบ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก