x close

พฤติกรรมการฆ่าตัวตาย ระบาดหนังในสังคมไทย




          ชีวิตแร้นแค้นลง คนที่เคยรวย ไม่สามารถทำใจยอมรับความเปลี่ยนแปลง ของฐานะที่ทรุดลงไปได้ ถือว่าเป็นที่อับอายทางสังคม...    ส่วนคนที่มีฐานะแร้นแค้นยากจน ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวยากหมากแพง หาเช้าไม่พอกินในตอนค่ำ ครอบครัวทนทุกข์ทรมาน เพราะอดอยากยากแค้น


          เครียดหนัก ในความเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่พลิกผัน จากคนเคยรวย มาเป็นคนจน และจากครอบครัวคนจน ที่หาทางออกของชีวิตไม่ได้ 


          ทางออกของสถานะสองรูปแบบ คือฆ่าตัวตาย ด้วยการยิงตัวตาย หรือมอมยาพิษแบบฆ่าล้างครัว ลูกเมีย พ่อ รวม 5 ศพบ้าง หรือ 3-4 ศพบ้าง   การกระทำแบบฆ่าล้างครัวมีมานานตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำ เมื่อปี 2540 เพราะธุรกิจล้มละลาย คนทำใจไม่ได้...  แล้วสภาพของการเลียนแบบจากความเครียดหาทางออกไม่ได้ก็ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน


          เป็นการเลียนแบบในพฤติกรรมที่คิดสั้น ๆ ว่า ตายเสียดีกว่า ที่จะมีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้น และทนทุกข์ทรมานจากการล้มละลายของชีวิต  ความคิดสับสนเปราะบางอยู่ในวงแคบเฉพาะหน้าขาดการเสริมสร้างกำลังใจให้แก่ตนเอง เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและมีความหวัง 


          หวังว่าถ้าจิตใจแข็งแกร่ง และยืนหยัดสู้กับพายุร้ายที่โหมกระหน่ำชีวิต เมื่อพายุร้ายผ่านไปแล้ว ความหวังใหม่คงจะต้องเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง


          ชีวิตที่เปราะบาง ขาดความอดทนอดกลั้น ขาดการปลุกพลังใจ ขาดความนับถือตนเอง มักจะหาทางออกด้วยวิธีการที่ชาวบ้านทั่วไปกล่าวถึงกัน คือเป็นกลุ่มคนที่คิดสั้น...


          ในกลุ่มเยาวชนของชาติทั้งชาย และหญิง ก็มีปัญหาเรื่องฆ่าตัวตาย ที่ตกเป็นข่าวเพิ่มมากขึ้น เพราะความผิดหวัง, ในเรื่องของความรัก เรื่องของการงาน และที่กำลังตกเป็นข่าวคือ ความผิดหวังในเรื่องของการเรียน...


          บางประเภทอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะดี การเรียนอยู่ในระดับเกรดสูง แต่เมื่อเกรดการเรียนลดลง เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ..ฆ่าตัวตายหนีความผิดหวัง ถ้าไม่เอาปืนพ่อแม่ยิงตัวตาย ก็โดดตึก แขวนคอ หรือดื่มยาพิษปลิดชีพตนเอง 


          ก่อนเปิดเทอมภาคแรก เมื่อสอบเข้าคณะต่าง ๆ ได้ แต่ฐานะยากจนไม่สามารถเรยนต่อได้ก็เกิดความกลัดกลุ้ม ... ทางออกของชีวิตคือการฆ่าตัวตายด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่จะปลิดชีพตนเองให้หนีพ้นจากความอับโชคไปได้


          ทิ้งความโศกสลด รันทดใจไว้ให้พ่อแม่ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง ตลอดทั้งครูบาอาจารย์ที่เคยอบรมสั่งสอนมา


          สภาวะเช่นนี้ เหตุการณ์เช่นนี้ อาจจะเพิ่มพูนทวีขึ้น หรือลดน้อยลงในอนาคต ... เพราะดูเหมือนจะเริ่มกลายเป็นวัฒนธรรมแผนใหม่ ในการหาทางออกให้แก่ชีวิตที่ไม่ถูกต้องของคนไทย เด็กไทยบางส่วนเสียแล้ว...


          เป็นปัญหาที่ทางศาสนา นักวิชาการ นักจิตวิทยา องค์กรในสังคมจิตแพทย์ สถานศึกาาควรประสานมือกัน เพื่อช่วยเผยแพร่ทางออกให้มีสติ ระลึกได้ เตือนตนเอง และยับยั้งชั่งใจ ไตร่ตรองหาเหตุผละผล รู้จักปลุกปลอบใจตนเองให้ลุกขึ้นสู้


          คิดตามแนวทางความเป็นจริงของชีวิต ที่นักปราชญ์ทางศาสนาท่าสให้แง่คิดเอาไว้ เพื่อเป็นกำลังใจ ...

เมื่อมองสูง เราเป็นคนต่ำ
เมื่อมองต่ำลงไป เราเป็นคนสูง


          เป็นข้อเปรียบเทียบในความเป็นไปของชีวิตที่อยู่โดยรอบ โดยไม่ลำเอียงเข้าข้างตนเอง 


          ในความเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ รวมทั้งการเมืองปัจจุบัน มีปัญหาร้อยแปดพันเก้า ให้เครียดและคิดเตลิดฟุ้งซ่านไปไกล พลังของการแข่งขัน ช่วงชิง ไขว่คว้าให้เป็นผู้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการมีสูงทั้งในด้านถูกต้องชอบธรรม และในด้านฉ้อฉลที่ไม่ชอบธรรม  ที่ได้มาก็ปลาบปลื้มชื่นชมยินดี จนเคยชินเป็นนิสัย คือนิสัยประเภท "ต้องได้" ต้องเป็นผู้ชนะ และครอบครองให้ได้


          วันหนึ่งถ้าพลาด ไม่ได้อย่างหวังก็เครียด คิดมาก และหลงคิดว่าเป็นความพ่ายแพ่ ทางออกคือฆ่าตัวตาย เพราะหลงคิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับตนคือความเที่ยงแท้แน่นอน ทั้ง ๆ ที่มันเป็นอนิจจัง...


ที่มา : หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ฉบับวันที่ 20 พฤษภาคม 2551

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พฤติกรรมการฆ่าตัวตาย ระบาดหนังในสังคมไทย โพสต์เมื่อ 20 พฤษภาคม 2551 เวลา 16:18:03 2,563 อ่าน
TOP