x close

เหตุผลที่ห้ามกะเทยเรียน - ห้ามใส่กระโปรง

นักศึกษา


มหาวิทยาลัย - ตุ๊ดแจงห้ามกะเทยเรียน

          เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่สกอ. นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการกกอ. ให้สัมภาษณ์กรณีนักวิชาการเปิดเผยในเวทีสัมมนาของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เกี่ยวกับคณะแพทย์บางแห่งไม่รับกะเทยเข้าเรียน หรือมหาวิทยาลัยบางแห่งห้ามน.ศ.กะเทยที่แต่งหน้าหรือใส่กระโปรงเข้าสอบ ว่า การจัดการศึกษาต้องคำนึงสิทธิมนุษยชนเป็นหลักอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามแต่ละสาขาวิชาจะกำหนดระเบียบเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะของนักศึกษาที่ไม่ขัดต่อวิชาชีพนั้น โดยสาขาวิชาต้องมีเหตุผลที่สามารถตอบได้

          เช่น กรณีคณะแพทยศาสตร์ไม่สามารถรับผู้พิการแขนและขา หรือตาบอดสีเข้าเรียนได้ เป็นต้น ในอดีตมีการเรียกร้องหลังจากสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ไม่รับผู้หญิง ส่วนพยาบาลก็ไม่รับผู้ชาย กระทั่งปัจจุบันเปิดกว้างให้นักศึกษาชาย-หญิงเข้าเรียนได้

          ผู้สื่อข่าวถามว่าการปิดกั้นกะเทย หรือเพศที่ 3 เข้าเรียนคณะแพทย์ขัดต่อสิทธิมนุษยชนหรือไม่ นายสุเมธกล่าวว่า ไม่ขอออกความเห็น เพราะขึ้นกับการพิจารณาออกระเบียบด้านวิชาชีพของแพทยสภา ต้องขึ้นกับเหตุผลการไม่รับนักศึกษาเพศที่ 3 ว่าจะมีผลกระทบต่อการประกอบวิชาชีพอย่างไร ซึ่งสกอ.ไม่มีอำนาจหน้าที่ลงรายละเอียดถึงการจัดการศึกษา

          ด้านน.พ.อาวุธ ศรีศุกรี เลขาธิการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า โดยปกติโรงเรียนแพทย์ไม่มีปัญหาเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว หากพฤติกรรมดังกล่าวไม่เกินขอบเขตและส่งผลกระทบต่อบุคคล สังคม หรือวิชาชีพ ตนเห็นแพทย์ที่มีลักษณะเช่นนี้ปฏิบัติหน้าที่ได้ดี หากกำหนดห้ามที่ชัดเจนอาจเป็นนักเรียนแพทย์ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า(วพม.) เพราะผลิตนักเรียนแพทย์ทหารที่ต้องมีระเบียบกฎเกณฑ์ความเป็นทหารคุมเข้มมากขึ้น แม้แต่น้ำหนัก ส่วนสูง โรคทั่วไปบางโรคก็กำหนดห้ามชัดเจน

          "ปัจจุบันเป็นช่วงรอยต่อระหว่างกลาง จากเดิมที่สังคมไม่ยอมรับเพศที่สามก็ยอมรับมากขึ้น แต่ในทางปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆก็ยังมีความลักลั่น การนำเรื่องสิทธิมนุษยชนมาปนกับทุกเรื่องจนบางครั้งตีความหมายไปในทางที่ผิดๆ เพราะบางเรื่องเป็นกฎเกณฑ์เฉพาะขององค์กรหรือสถาบัน หากนำหลักสิทธิมนุษยชนไปเกี่ยวข้องทุกเรื่อง ก็คงบอกยากว่าสมควรหรือไม่สมควร เพราะต้องพิจารณาถึงประเพณีวัฒนธรรมที่ปฏิบัติกันมานานด้วย" น.พ.อาวุธกล่าว

          น.พ.อดิศร ภัทราดูลย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ยังไม่เคยพบคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ปฏิเสธนักเรียนตุ้งติ้งเข้าเรียน เพราะคนเหล่านี้สามารถดูจากพฤติกรรมภายนอกได้ง่ายว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ในกระบวนการสอบสัมภาษณ์ จะมีทีมนักวิชาการและจิตแพทย์ สังเกตพฤติกรรม หากไม่แสดงพฤติกรรมบ่งบอกถึงความผิดปกติอย่างรุนแรง ทางคณะไม่สามารถคัดเด็กเหล่านี้ออกได้

          วันเดียวกันนายตรีชฎา เพชรรัตน์ หรือน้องปอย อดีตมิสทิฟฟานี ยูนิเวิร์ส นักศึกษานิติศาสตร์ เอแบค กล่าวว่า เข้าใจทั้งนักศึกษาและมหาวิทยาลัย แต่ระเบียบที่เกิดขึ้นคิดว่าเกิดจากการที่มหาวิทยาลัยปล่อยอิสระมากเกินไป ทำให้นักศึกษาแต่งกายผิดระเบียบ หากสาวประเภทสองที่เรียนมหาวิทยาลัยแต่งกายแบบหญิงใส่กระโปรงแต่แต่งให้ถูกระเบียบของมหาวิทยาลัยแล้ว มหาวิทยาลัยคงไม่ว่า เพราะตอนนี้เหมือนกับว่ามหาวิทยาลัยต้องการจัดระเบียบเท่านั้น สำหรับตนปัจจุบันใส่ชุดนักศึกษาหญิงมาเรียนถูกต้องตามระเบียบ ไม่เคยผิดระเบียบ

          อดีตมิสทิฟฟานี กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หากระเบียบการแต่งกายต้องตรงตามเพศจริงๆ แล้ว รู้สึกเห็นใจคนที่เหมือนผู้หญิงจริงๆ เช่น มีหน้าอก ผมยาว หากแต่งกายแบบชายก็คงเหมือนตัวตลก เช่นเดียวกับคนที่ยังไม่แปลงเพศ ผมสั้น แต่ใส่ชุดนักศึกษาหญิงก็คงดูตลกเหมือนกัน อยากให้มหาวิทยาลัยดูความเหมาะสมมากกว่า ส่วนที่บางคณะไม่รับกะเทยเข้าเรียนนั้น เป็นการจำกัดสิทธิมากไป ควรเปิดกว้างด้านการศึกษา

          นายยลลดา เกริกก้อง สวนยศ อดีตนักศึกษาธรรมศาสตร์ ประธานกลุ่มผู้หญิงข้ามเพศแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากพูดตามเนื้อผ้าแล้วตนไม่เห็นด้วย เพราะในส่วนของสิทธิส่วนบุคคลของแต่ละคนก็มี ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ ปิดกั้นมากเกินไป หากจำกัดเพียงไม่ให้นักศึกษาแต่งตัวโป๊ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เรื่องนี้ต้องขอทราบเหตุผลในการห้ามไม่ให้กะเทยนุ่งกระโปรง หรือเหตุผลของคณะแพทย์บางแห่งไม่รับกะเทย หากมีเหตุผลสมควรยอมรับได้ อย่างไรก็ตามเท่าที่ดูไม่มีเหตุผลอะไรในการมาจำกัดสิทธิเช่นนี้ ทางแก้ไขควรมองเป็นกรณีไป เช่น หากกะเทยคนไหนแต่งแบบน.ศ.หญิงแต่เป็นไปตามระเบียบก็ไม่น่าเสียหาย แต่ถ้าออกแนวโป๊ตนก็ไม่เห็นด้วย ขอให้แยกให้ออกอย่าเหมารวมทั้งหมดว่าน.ศ.กะเทยใส่กระโปรงไม่ได้

          "หากมีเรื่องใดเกี่ยวข้องกับเรา ขอให้ได้แสดงความเห็นบ้าง เรายินดีให้ข้อมูล เพราะต้องเข้าใจว่าผู้ที่ออกกฎเป็นชายหรือหญิงแต่ไม่ได้ข้ามเพศ ฉะนั้นจะไม่เข้าใจหัวอกเรา แต่ก็ยอมรับว่าอาจมีนักศึกษากะเทยบางคนแต่งล่อแหลมหรือเว่อร์เกิน เป็นปัญหาให้มหาวิทยาลัยคิดตัดไฟแต่ต้นลม อย่างไรก็ตามหากมหาวิทยาลัยหรือคณะแพทย์ที่ไม่รับนักศึกษากะเทยเข้าเรียน ไม่มีเหตุผลยอมรับได้ คงต้องหารือกันภายในกลุ่มและเคลื่อนไหวอย่างหนึ่งอย่างใดแน่นอน" นายยลลดา กล่าว



ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- โวยห้าม นักศึกษากะเทย - ใส่กระโปรงไปเรียน



ข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เหตุผลที่ห้ามกะเทยเรียน - ห้ามใส่กระโปรง โพสต์เมื่อ 22 พฤษภาคม 2551 เวลา 09:32:38 11,650 อ่าน
TOP