x close

ปะทะเดือดแล้ว! ฝ่ายต้านไล่ตีพันธมิตรฯเลือดนองราชดำเนิน

ม็อบพันธมิตร



          ฝ่ายต้านไล่ตีพันธมิตรฯปะทะเดือด! เลือดนองถนนราชดำเนิน ดุเดือดแยกมิสกวัน 2ฝ่ายเจ็บระนาว ตร.หายหัวไปหมด ปาหินพิธีกรASTVเลือดอาบ ขณะพันธมิตรนับหมื่นเคลื่อนขบวนบุกทำเนียบฯกลางดึก ตร.เตรียมกำลัง1,500นายสกัดม็อบ พันธมิตรเตรียมตั้งเวทีที่แยกสะพานมัฆวาน

  ตร.ปล่อยกลุ่มต้านตามมาปะทะเดือดแยกมิสกวัน เจ็บระนาวหามส่งรพ.

          ล่าสุดเกิดเหตุปะทะกัน โดยในเวลา 22.45 น. ขณะที่ท้ายขบวนพันธมิตรฯมาถึงหน้ากระทรวงคมนาคม ตำรวจได้ปล่อยให้กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯออกจากจุดสกัดบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ จนมาทันกลุ่มพันธมิตรฯที่หน้ากระทรวงทั้งสองฝ่ายระดมขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำ และสิ่งของใส่กัน ต่างฝ่ายต่างใช้ไม้ ท่อนเหล็ก แป๊บ กรูเข้ามาตะลุมบอนกันอย่างดุเดือด ทำให้ฝ่ายต่อต้านพันธมิตรฯอายุ 30 และ 50 ปีถูกรุมตีจนสลบ ระหว่างนั้นแก๊งมอเตอร์ไซด์ประมาณ 30-40 คันเข้ามาช่วยฝ่ายต่อต้านซึ่งมีประมาณ 100 คน ขณะที่พันธมิตรฯมีประมาณ 500 คน

          ทั้งสองฝ่ายปะทะกันจนมาถึงแยกมิสกวัน หน้าโรงเรียนนายร้อย จปร. มีการขว้างระเบิดควันใส่กัน รวมถึงใช้อิฐหนอนปูพื้นถนนขว้างใส่กันราวห่าฝน มีการดึงป้ายจราจร ป้ายบอกทางมาใช้เป็นอาวุธ การปะทะกันกินเวลานาน 20 นาที มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งศรีษะแตก แขนหัก แพทย์วชิระพยาบาลต้องลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากจุดเกิดเหตุ ผู้ไม่เกี่ยวข้องพยายามหลบอยู่ข้างทาง การจราจรติดขัดอย่างหนัก ระหว่างนั้น ไม่มีตำรวจในเครื่องแบบเข้ามาระงับเหตุแต่อย่างใด

  พันธมิตรนับหมื่นบุกยึดทำเนียบฯชุมนุมยืดเยื้อ เช้านัดไปสภาถอดส.ส.

          การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเวลา 19.30 น. คืนวันที่ 25 พฤษภาคม ทางพันธมิตรได้ประกาศแถลงการณ์ ฉบับที่ 10 "เคลื่อนไหวต่อเนื่อง เพื่อกำจัดผู้ล้มล้างรัฐธรรมนูญ" โดยสาระสำคัญ คือ พันธมิตรมีมติเคลื่อนมวลชนคืนนี้เวลา 21.00 น. เพื่อเดินทางไปหน้าทำเนียบรัฐบาล และปักหลักพักค้างอย่างต่อเนื่อง และเช้าวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม เวลา 06.00 น. ตัวแทนของพันธมิตรจะร่วมเดินทางไปพร้อมกันกับพี่น้องประชาชนไปที่หน้ารัฐสภา เวลา 07.00 น. เพื่อยื่นถอดถอนส.ส.-ส.ว. ที่ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ

  แกนนำ แถลงประณามกลุ่มป่วน

           นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯขึ้นกล่าวบนเวทีอ่านแถลงการณ์ของแกนนำพันธมิตรฉบับที่ 10/2551 เรื่อง "เคลื่อนไหวต่อเนื่องเพื่อกำจัดผู้ล้มล้างรัฐธรรมนูญ" ว่า พันธมิตรขอประกาศกำหนดเป้าหมายต่อไปดังต่อไปนี้ 1. พันธมิตรขอแถลงผลการดำเนินการว่าการชุมนุมครั้งนี้มีประชาชนผู้รักชาติ ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เข้าร่วมชุมนุมจำนวนหลายหมื่นคน ด้วยความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ แม้ว่าจะถูกอันธพาลที่ถูกจ้างมาจากคนในฝ่ายรัฐบาลทำการยั่วยุ ขว้างปาสิ่งของ และทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ก็ตาม ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมก็ยังคงมีจิตใจที่มุ่งมั่นแสดงพลังของประชาชนต่อไป เพื่อคัดค้านการทำงานของรัฐบาลที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อวิกฤตการณ์ของ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ จงใจและตั้งใจล้มล้างรัฐธรรมนูญที่มาจากการลงประชามติประชาชนส่วนใหญ่ของ ประเทศกว่า 14 ล้าน 7 แสนเสียง เพียงเพื่อลบล้างความผิดของตัวเอง ตัดตอนกระบวนการยุติธรรมอย่างไร้จริยธรรม

  ชุมนุมยืดเยื้อที่ทำเนียบไล่รบ.

          2. พันธมิตรมีมติที่จะเคลื่อนมวลชนในคืนนี้เวลา 21.00 น. เพื่อเดินทางไปหน้าทำเนียบรัฐบาล และปักหลักพักค้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกร้องและกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และคณะรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบ ต่อความมุ่งหมายที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดของคนในระบอบทักษิณ เพียงอย่างเดียว จนเกิดจากภัยคุกคามต่อ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ล้มเหลวต่อการบริหารราชการแผ่นดิน จนเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง จนประชาชนเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสไปทั่วประเทศ

          3. พันธมิตรขอเชิญชวนพี่ น้องประชาชนทั่วประเทศให้มารวมตัวกันเพิ่มมากขึ้น เพื่อไปยื่นหนังสือแจ้งความจำนงต่อประธานวุฒิสภาในการถอดถอนสมาชิกรัฐสภา ที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญ ในเช้าวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2551 ในตอนเช้าเวลา 06.00 น. ณ หน้าทำเนียบรัฐบาล หลังจากนั้นตัวแทนของพันธมิตรจะร่วมเดินทางไปพร้อมกันกับพี่น้องประชาชนไป ที่หน้ารัฐสภา เวลา 07.00 น.

  "หนุ่มวัย20" โดนตีกระดูกหัก

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีรายงานผู้บาดเจ็บจากการปะทะกันเพิ่มอีก 1 ราย ชื่อ นายจารุวัฒน์ บาลนคร อายุ 20 ปี ผู้มาร่วมชุมนุมกับฝ่ายพันธมิตร ถูกตีด้วยไม้ที่หน้าขา จนกระดูกหัก ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล

          ด้าน พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวว่า สันติบาลประเมินยอดผู้ชุมนุมเวลา 20.45 น.  มีประมาณ 8,000-9,000 คน ประเมินสถานการณ์แล้วไม่มีอะไรมีปัญหา มีเพียงการเคลื่อนขบวน คงไม่มีปัญหาอะไรน่ากังวล ส่วนกลุ่มที่มาก่อกวนเล็กๆ น้อย ก็ควบคุมได้ มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว ตำรวจจัดการได้

  ตร.เตรียมกำลัง1,500นาย ปักหลักสกัดพันธมิตร

          ข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้กำลังตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-2-7 จำนวนทั้งหมด 1,500 นาย เข้าประจำการเพื่อรอการสั่ง อยู่ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกำลังตำรวจจำนวน 1 กองร้อย ได้ตรึงกำลังอยู่บริเวณทำเนียบรัฐบาลแล้ว ภายหลังจากที่แถลงการณ์ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่า จะเคลื่อนพลไปชุมนุมกันที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตำรวจได้สั่งการให้มีการดูแลรักษาความปลอดภัยกลุ่มพันธมิตรฯอย่างใกล้ชิด

          รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ตำรวจค่อนข้างวิตกในการเคลื่อนพลของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนขบวนผ่านบริเวณกองบัญชาการกองทัพบก อาจจะมีเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ โดยได้จัดเตรียมกำลังไว้ควบคุมสถานการณ์จำนวนหนึ่งด้วย

  "ยุทธิยง" พิธีกรASTV ถูกหินปาหน้าเลือดอาบ

          เวลา 21.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่หัวขบวนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกตำรวจสกัดอยู่ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้านั้น ที่ท้ายขบวน ซึ่งควบคุมการเคลื่อนไหวโดยนายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที พิธีกรของเอเอสทีวี ถูกกลุ่มผู้ต่อต้าน ที่ข้ามฝากมาจาก หน้าภัตตาคารเมธาวลัย ศรแดง มาปักหลังบริเวณหน้าศึกษาภัณฑ์พาณิชย์นั้น นายยุทธิยง ถูกขว้างด้วยของแข็งเข้าบริเวณโหนกแก้มขวาจนแตกเลือดอาบ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปปฐมพยาบาลในเบื้องต้นแล้ว

          อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณท้ายขบวนนั้น กลุ่มผู้คัดค้านการชุมนุม ได้ขว้างปาสิ่งของ ทั้งน้ำส้มสายชู น้ำปลาร้าที่เตรียมมาเข้าใส่ท้ายขบวน รวมทั้งได้เข้าไปกระโดดถีบผู้ร่วมขบวน โดยที่ไม่มีตำรวจเข้าไปดูแล จนกระทั่งนายยุทธิยง ถูกขว้างปาจนโหนกแก้มแตก ทางตำรวจคอมมมานโด จึงเข้าไปควบคุมสถานการณ์

  ตร.ขวางไม่ให้ไปทำเนียบ พันธมิตรเตรียมตั้งเวทีแยกมัฆวาน

          เวลา 22.00 น. ตำรวจยอมเปิดทางให้กลุ่มพันธมิตรฯเคลื่อนจากสะพานผ่านฟ้าฯไปได้จนถึงสะพาน มัฆวานรังสรรค์ โดยมีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ และแนวร่วมรัฐบาล เคลื่อนขบวนตามติดไปตลอด

          เวลา 22.30 น. เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 8,000 คน มาถึงสะพานมัฆวานฯ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำพันธมิตรฯ ใช้ไมโครโฟนพูดบนรถนำขบวน เพื่อต่อรองขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลประมาณ 500 คน ยอมเปิดทางให้ผ่านไปยังทำเนียบฯ สำหรับตำรวจอยู่ในชุดพร้อมจะสลายปืนกระสุนยาง กระบอง โล่พลาสติก และแก๊สน้ำตา ซึ่งทางพันธมิตร หากเคลื่อนขบวนไม่ได้เตรียมตั้งเวทีปักหลักที่ แยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยท้ายแถวอยู่แยกมิสกวัน

  พันธมิตร "แต่งเหลือง" ชุมนุม

          ก่อนหน้านี้ เวลา 14.00 น. วันที่ 25 พฤษภาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มพันธมิตรเริ่มกิจกรรมชุมนุมอย่างเป็นทางการ โดยตั้งเวทีขนาดใหญ่บนถนนราชดำเนินกลาง บริเวณหน้าสภาทนายความ หันหลังให้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หันหน้าไปทางสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กลุ่มแรกที่มาปักหลักบนถนนเป็นสมาชิกกองทัพธรรมของสำนักสันติอโศกประมาณ 300 คน ตามมาด้วยกลุ่มพัทยานาเกลือบ้านบึง, กลุ่มพันธมิตรภูเก็ต, พันธมิตรเพชรบุรี, พันธมิตรสระบุรี และกลุ่มรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ รวมแล้วประมาณ 1,000 คน ส่วนใหญ่นำอาหารเย็นเครื่องดื่มมารับประทานเอง

          กลุ่มผู้ ชุมนุมส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีเหลืองมีตราสัญลักษณ์ครบรอบ 60 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โพกศีรษะและผูกผ้าพันคอสีเหลืองพิมพ์คำว่า "กู้ชาติ" นอกจากนี้ ยังมีเสื้อยืดสีขาวสกรีนคำว่า "หยุดทรราชล้มรัฐธรรมนูญ" จำหน่าย มีการตั้งจุดล่ารายชื่อประชาชนยื่นถอดถอน ส.ส. และ ส.ว.ที่ลงชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญบริเวณหน้าอาคารสภาทนายความ

  ตร.ต้องปิดการจราจรตั้งแต่ถ.ดินสอ - ราชดำเนินกลาง

          กลุ่มพันธมิตรยังจัดกิจกรรมเผาพริกเผาเกลือ เผารูปภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้รถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 20 คน ขับรถวนรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ชูป้ายและตะโกนว่า "จะคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ"

          ทางด้านการจราจรนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดถนนดินสอตั้งแต่เสาชิงช้าถึงสะพานวันชาติ และบริเวณถนนราชดำเนินกลางขาเข้าตั้งแต่สี่แยกคอกวัวจนถึงสะพานผ่านฟ้า มีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 300 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย

  มติพันธมิตรนับหมื่น ปักหลักถึงเช้า

          เวลา 16.30 น. มีประชาชนจำนวนประมาณ 10,000 คน มาร่วมชุมนุม จนต้องปิดถนนราชดำเนินฝั่งหนึ่งไปโดยปริยาย ทางด้านโฆษกเวทีพันธมิตรได้ประกาศเป็นระยะๆ ขอให้ผู้ชุมนุมคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญใจเย็นๆ อดทนต่อการยั่วยุของฝ่ายตรงข้าม ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ควบคุมความสงบ

          ต่อมา นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร เปิดเผยผลการหารือของแกนนำพันธมิตร ว่าจะชุมนุมค้างคืน และยืดเยื้ออย่างน้อยไปจนถึงเวลา 10.00 น. วันที่ 26 พฤษภาคมนี้ จากนั้น จะไปยื่นหนังสือถอดถอน ส.ส. และ ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อประธานวุฒิสภา

  ชุลมุนรอบ2ขวดไม้ปลิวว่อน

          เวลา 18.00 น. กลุ่มพันธมิตรและฝ่ายต่อต้านยังเผชิญหน้ากันอยู่ตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเพิ่มกำลังอีก 1 กองร้อย พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นระหว่างกันเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งอีก กลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายพันธมิตรมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และนั่งบนถนนราชดำเนินกลางจนยาวเหยียดไปจนถึงสะพานผ่านพิภพลีลาศ

          เวลา 19.30 น. นายสำราญ รอดเพชร ประกาศบนเวทีถามผู้ชุมนุมว่าจะเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ ผู้ชุมนุมปรบมือตะโกน "เดินๆๆ" พร้อมปรบมือตอบรับดังกึกก้อง นายสำราญจึงกล่าวว่า เมื่อมีมติเช่นนี้ พันธมิตรก็จะเดินไปทำเนียบในเวลา 21.00 น.

          ในเวลาไล่เรี่ยกันนั้นเอง ได้เกิดเหตุกลุ่มต่อต้านพันธมิตรได้ระดมขว้างปาสิ่งของใส่ผู้ชุมนุมกลุ่ม พันธมิตรส่วนใหญ่เป็นขวดน้ำพลาสติค ขวดแก้ว และไม้ ฝ่ายพันธมิตรก็ขว้างของกลับมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามห้าม และไล่ตะครุบตัวผู้ก่อเหตุ เกิดความชุลมุนวุ่นวายเป็นเวลานานหลายนาที

  "ประชา" ขู่ใช้3มาตรการเล่นงาน

          สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ปรากฏว่า เวลา 15.00 น. ที่ท้องสนามหลวง ฝั่งศาลฎีกา นายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำกลุ่มฅนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เปิดเวที "สภาสนามหลวงต่อต้านพันธมิตรเผด็จการและความไม่เป็นธรรม" พร้อมกางเต๊นท์ ตั้งตู้ลำโพงกลางท้องสนามหลวง ปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรที่ชุมนุมคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 มีผู้ฟัง 60-70 คน มีตำรวจในและนอกเครื่องแบบประมาณ 30 นาย คอยดูแล

          นาย ประชา ประสพดี แกนนำกลุ่มมหาประชาชนฯให้สัมภาษณ์ว่า ตนและทีมงานประจำการอยู่ที่รถตู้ "วอร์รูม" จอดอยู่บริเวณสนามหลวง ในรถมีอุปกรณ์บันทึกเทป คอมพิวเตอร์ออนไลน์ คอยสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ใช้กฎหมายจัดการกับแกนนำ ได้แก่ 1.จับตาดูว่าหากนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรปราศรัยหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง จะบันทึกเทปเสียงใช้ยื่นคำร้องขอให้ศาลยกเลิกการปล่อยตัวชั่วคราว 2.ขอมติจากประชาชนทั่วประเทศดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การประณาม ประจาน ต่อต้านโดยสงบ อาจขอประชามติโดยใช้ช่องทางผ่านไปรษณียบัตร 3.หากกลุ่มพันธมิตรปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเมื่อใด จะดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรขั้นเด็ดขาด คือนัดชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงขับไล่ทันที

  ฝ่ายต้านฝ่าตร.ประชิดพันธมิตร

          เวลา 16.00 น. กลุ่มต่อต้านพันธมิตร อันประกอบด้วย กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.), กลุ่มฅนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ, กลุ่มมหาประชาชนเพื่อพิทักษ์ประชาธิปไตย ภายใต้การนำของนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน รวมแล้วประมาณ 100 คน ได้เคลื่อนขบวนจากสนามหลวงไปตามถนนราชดำเนินกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัดกั้นกลุ่มก่อกวนดังกล่าวให้หยุดอยู่แค่บริเวณ สี่แยกคอกวัว แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถควบคุมได้ จนต้องปล่อยให้เข้ามาตั้งเวทีย่อยบนรถ 6 ล้อที่หน้าบริษัท เบนซ์ธนบุรี ใกล้กับจุดชุมนุมพันธมิตร

          ต่อมา กลุ่มธรรมาธิปไตยฯได้ทำพิธีเผาหุ่น 5 แกนนำพันธมิตร นำผ้าพันคอ "กู้ชาติ" ของกลุ่มพันธมิตรมาเผาไฟ พร้อมตั้งเวทีปราศรัยโจมตีอย่างต่อเนื่อง

  ปา "ขวดน้ำ-ถุงฉี่" ปะทะเจ็บ2

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคนของกลุ่มต่อต้านพันธมิตรพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามายั่วยุกลุ่ม พันธมิตร มีการขว้างปาขวดน้ำและถุงใส่ปัสสาวะเข้าใส่ผู้มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตร จนเกิดการขว้างปาขวดน้ำใส่กัน และตะลุมบอนเล็กน้อย มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อเพียงรายเดียวคือ นายวีรยุทธ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อายุ 48 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะกกหูด้านซ้าย ตำรวจเข้ามาระงับเหตุ และนำตัวนายวีรยุทธออกมาส่งให้เจ้าหน้าที่พยาบาลรับตัวไปดูแล

          เป็นที่ น่าสังเกตว่า แม้กลุ่มคนดังกล่าวพยายามยั่วยุฝ่ายพันธมิตร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เข้าไปสลายกลุ่มก่อกวนดังกล่าวแต่อย่างใด อ้างว่ายังไม่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา

  "ประชา" ยันไม่เกี่ยวตะลุมบอน

          นายประชา ประสพดี กล่าวถึงการปะทะกันว่าแกนนำกลุ่มพันธมิตรพยายามยั่วยุอารมณ์ของผู้เข้าร่วมชุมนุมให้ร้อนแรงขึ้น จนทำให้เกิดการตะลุมบอน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 2 คน ขอยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่ฝีมือกลุ่มมหาประชาชนฯหรือกลุ่มอื่นๆ แน่นอน แต่เป็นฝีมือ "นอมินี" ของกลุ่มพันธมิตร ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ขึ้น ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามดูแลอย่างเข้มงวด ไม่เช่นนั้นประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมดังกล่าวอีก สำหรับการปิดถนนราชดำเนินฝั่งหนึ่งนั้น คงจะมีคนไปแจ้งความอย่างแน่นอน

  "รัตนพล" ยกพวกไปสมทบ

          หลังเกิดเหตุปะทะกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทางด้านสนามหลวง มีคนมาแจ้งข่าวในหมู่ผู้ชุมนุมว่า กลุ่มพันธมิตรก่อเหตุทำร้ายร่างกายกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลได้รับบาดเจ็บ และตะโกนชักชวนให้ไปช่วยเหลือเพื่อนที่สี่แยกคอกวัว แต่ผู้นำบนเวทีประกาศให้ตรวจสอบข่าวก่อน กลัวจะตกหลุมพรางของมือที่ 3 จนกระทั่งผู้นำบนเวทีตรวจสอบข่าวแล้วแจ้งว่า เป็นเหตุชกต่อยกันตัวต่อตัว ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย เหตุการณ์ยุติแล้ว แต่มีบางส่วนรวมถึงรัตนพล ส.วรพิณ อดีตนักมวยสากลแชมป์โลกที่มาฟังปราศรัยด้วยไม่เชื่อฟัง จึงพาผู้ชุมนุมประมาณ 40-50 คน ไปสี่แยกคอกวัว จนเหลือคนฟังเพียงไม่ถึง 20 คน

  สาวใหญ่ร้องโดนตบหน้า

          น.ส.ระรินทิพย์ ฐิตานุวงศ์ อายุประมาณ 50 ปี กล่าวว่า ขณะเดินผ่านโรงเรียนสตรีวิทยาจะกลับบ้านได้ถูกชายวัยกลางคนคนหนึ่งเข้ามาทำ ร้ายร่างกายด้วยการตบหน้าโดยไม่รู้สาเหตุ หลานสาวพยายามเข้ามาช่วย แต่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คน เตรียมจะเข้ามารุมทำร้าย ตำรวจไม่น้อยกว่า 5 นาย เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด แม้หลานได้ตะโกนเรียกตำรวจแล้วก็ตาม แต่ตำรวจไม่สนใจ และว่า ที่มาวันนี้มาเพียงลงชื่อสนับสนุนการถอดถอน ส.ส.-ส.ว.ที่ร่วมลงญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

  ยุ "ตื้บเลย" ไม่ต้องกลัวถูกจับ

          นายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ปราศรัยบนเวทีที่ท้องสนามหลวง ซึ่งมีคนฟังประมาณ 80 คนว่า หากกลุ่มพันธมิตรเคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาล กลุ่มตนจะเดินไปยึดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแทน

          อย่างไรก็ตาม มีผู้นำปราศรัยบางคนได้พูดจาสนับสนุนและยั่วยุให้ผู้ชุมนุมใช้กำลังกับ กลุ่มพันธมิตรหากเผชิญหน้ากัน พร้อมบอกว่าให้เตรียมขวด ก้อนอิฐ หรือไม้ติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันตัว ตีได้เลย กระทืบได้เลย ไม่ต้องกลัวตำรวจจับ ถ้าจับไม่ต้องบอกว่าอยู่ฝ่ายไหน

  ตร.ใช้ดาวเทียมเฝ้าระวังม็อบ

          ส่วนการเตรียมพร้อมของตำรวจ เพื่อรับมือกับม็อบทั้ง 2  ฝายนั้น ปรากฏว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกการจราจรในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย ที่นัดรวมตัวแสดงพลังคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และล่ารายชื่อถอดถอน ส.ส. ส.ว.ที่ยื่นญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มี พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พร้อมนายตำรวจในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 1 และ กทม. ร่วมประชุม

          พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวก่อนเข้าประชุมว่า ถ้ามีการเผชิญหน้าจนเกิดการกระทำผิดหรือทำร้ายกันก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่างเด็ดขาด ตำรวจขอใช้โรงเรียนสตรีวิทยาที่อยู่ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นศูนย์อำนวยการควบคุมสั่งการ จะพยายามขอร้องไม่ให้ชุมนุมยืดเยื้อ กฎหมายไม่อนุญาตให้ชุมนุมบนถนน

          ด้าน พล.ต.ท.อัศวินกล่าวว่า จะพยายามพูดคุยกับผู้ชุมนุมให้ปิดถนนเพียงครึ่งเดียว หากปิดหมดจะทำให้การเดินรถต้องปิดไปโดยปริยาย ทำให้ผู้ใช้ถนนเดือดร้อนได้ ฝนจะเป็นตัวทำให้ผู้ชุมนุมเดินทางมาร่วมน้อยและไม่ยืดเยื้อ

          รายงาน ข่าวแจ้งว่า นอกจากติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทั่วบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว บช.น.จะใช้กล้องผ่านดาวเทียมเพื่อติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อีกทางหนึ่งด้วย

  เตรียม 1พัน สกัดม็อบบุกทำเนียบ

          เวลา 12.30 น. หลังการประชุม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี แถลงว่า เป้าหมายหลักคือไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ละเมิดผู้อื่น กรณีมีการทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายกัน จะมีชุดการจับกุมให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลายหรือลุกลามออกไป เพื่อไม่ให้ตำรวจตกเป็นจำเลยสังคมเสียเอง ในชั้นนี้ตำรวจดูแลได้ ไม่ต้องใช้กำลังฝ่ายทหารเข้ามาช่วย

          ผู้สื่อข่าวถามว่า พันธมิตรมีแผนจะเคลื่อนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อกดดัน พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า คงทำไม่ได้ถึงขั้นนั้น ตำรวจเตรียมกำลังไว้กว่า 1 พันนาย และสำรองเอาไว้เสริมอีก หากจำเป็นต้องเข้าไประงับเหตุ

  "อัศวิน" ให้เคลื่อนได้แต่อย่าป่วน

          ด้าน พล.ต.ท.อัศวิน ผบช.น. กล่าวว่า ฝ่ายข่าวกองทัพภาคที่ 1 ได้ส่งตัวแทนมาร่วมประชุมด้วย ถ้ามีข่าวใดก็จะประสานแจ้งให้ตำรวจทราบ ส่วนใหญ่ขอความร่วมมือเฉพาะเรื่องการข่าวเท่านั้น เพราะตำรวจเอาอยู่ รับมือได้ ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ ตำรวจได้เจรจากับพันธมิตรไว้แล้วระดับหนึ่งเพื่อขอไม่ให้เคลื่อนขบวน พันธมิตรพูดว่าถ้ามีความจำเป็นต้องเคลื่อนขบวน ตนได้บอกว่า ถ้าเคลื่อนก็อย่าให้เกิดความเดือดร้อน เพราะวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม เป็นวันทำงาน

          "เราไม่หนักใจเรื่องเคลื่อนขบวน จะพยายามแยกสองฝ่ายไว้ บางครั้งอาจจะมีไม่เจตนา แต่ถ้ามีการยั่วยุขึ้นมาก็อาจเป็นเหตุให้เกิดเรื่องลุกลามได้ ผมยังบอกกลุ่มพันธมิตรด้วยว่าหากการชุมนุมยืดเยื้อไป สิ่งที่จะได้ก็จะไม่ได้อะไร ประชาชนจะเดือดร้อนเรื่องทางสัญจรไปมา จะเป็นฝ่ายเสียเปล่าๆ" พล.ต.ท.อัศวินกล่าว และว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. เป็น ผบ.เหตุการณ์ มีอำนาจตัดสินใจแทนทั้งหมดขณะที่ตนไม่อยู่

  กอ.รมน. "ตั้งวอร์รูม" เฝ้า

          พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวว่า กอ.รมน.ได้ตั้งวอร์รูมรับรายงานสถานการณ์การชุมนุมจากหน่วยงานต่างๆ หากมีเหตุไม่สงบขึ้น บช.น.เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ทุกข้อมูลจะรายงานมาที่ กอ.รมน.ส่วนกลางก่อนรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ จากการรายงานยังไม่พบข้อมูลมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ในส่วนแต่ละเหล่าทัพคงเฝ้าดูสถานการณ์ ไม่ได้เตรียมกำลังอะไร เพราะขณะนี้ไม่มีอะไรที่กองทัพต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว

  ปชป.ไฟเขียวส.ส.ร่วมพันธมิตร

          ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ยกระดับการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ให้เป็นเรื่องหลักเทียบเท่ากับการคว่ำบาตรการเลือกตั้ง พ.ศ.2549 และการต่อสู้คดียุบพรรค พรรคมีมติตั้งคณะทำงานยุทธศาสตร์เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน และตั้งคณะทำงานศึกษาข้อมูลร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน เป็นประธาน ส.ส.ทั้ง 164 คน จะผนึกกำลังต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์กรประชาชนที่มีแนวความคิดต่อต้านการแก้ไข รัฐธรรมนูญ เบื้องต้นพรรคสนับสนุนให้สมาชิกพรรคเข้าร่วมกิจกรรมวิชาการของกลุ่มต่างๆ และจะไม่ปิดกั้น ส.ส.เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรแต่ต้องเป็นในนามส่วนตัว

          "รัฐบาลคงเคยชินกับการใช้เงินซื้อทุกอย่าง ผมคิดว่ารัฐบาลใช้เงิน 2,000 ล้านบาททำประชามติรัฐธรรมนูญ เพื่อเอาทรัพย์สินที่ถูกอายัดจำนวน 70,000 ล้านบาทคืน ถือเป็นการใช้กุ้งฝอยตกปลากะพง" นายเทพไทกล่าว




ข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปะทะเดือดแล้ว! ฝ่ายต้านไล่ตีพันธมิตรฯเลือดนองราชดำเนิน โพสต์เมื่อ 26 พฤษภาคม 2551 เวลา 00:02:06 7,170 อ่าน
TOP