วันที่ 25 พพฤษภาคม ศูนย์ประชามติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 2,003 คน เกี่ยวกับผลกระทบของข่าวการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อความรู้สึกของประชาชนในยามวิกฤตเศรษฐกิจ พบว่า ร้อยละ 68.8 เห็นว่า ความพยายามให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม ร้อยละ 17.0 ไม่มีความเห็น และร้อยละ 14.2 เห็นว่าเป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน
ทั้งนี้ มีกลุ่มตัวอย่างมากถึงร้อยละ 92.6 คิดว่า ปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลควรทำในขณะนี้ คือ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ มีเพียงร้อยละ 4.5 ที่คิดว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอีกร้อยละ 2.9 เห็นว่าการปฏิรูปสื่อมวลชนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำ ทั้งนี้ ร้อยละ 65.1 ไม่เห็นด้วยกับกรณีที่นายกรัฐมนตรีจะอนุมัติงบประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อให้ประชาชนลงประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึงความรู้สึกที่มีต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน พบว่า ร้อยละ 77.3 ตอบว่าเบื่อหน่าย หมดหวัง ท้อแท้ ร้อยละ 20.7 เฉยๆ และร้อยละ 2.0 รู้สึกสนุก โดยร้อยละ 46.3 เห็นว่าความขัดแย้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำให้ประเทศไทยอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงมากที่สุด ร้อยละ 34.0 เห็นว่าปัญหาน้ำมันแพง และร้อยละ 19.8 เห็นว่าคำปาฐกถาของนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีข่าวว่ามีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
ส่วนบุคคลในคณะรัฐมนตรีที่จะทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองมากที่สุดในขณะนี้ ร้อยละ 60.5 คิดว่านายสมัคร สุนทรเวช ร้อยละ 27.4 คิดว่า นายจักรภพ เพ็ญแข ร้อยละ 8.2 คิดว่าร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และร้อยละ 3.9 คิดว่านายไชยา สะสมทรัพย์
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต