x close

แนะ บิ๊กอาย ดูแลไม่ดี ติดเชื้อแทรกซ้อนสูง

กาวต่อขนตา

กระดาษกาวปิดขนตาล่าง


          ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน ความสวยความงามเป็นของคู่กับผู้หญิงเสมอมา เหมือนกับสุภาษิตคลาสสิคที่ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" บรรดาสาวๆ ต่างสรรหาวิธีนานามาแต่งเสริมเติมสวย ยิ่งในปัจจุบันที่เป็นยุคเทคโนโลยีก้าวหน้าก็มีวิธีเสริมความงามหลากหลาย ทั้งการศัลยกรรม ผ่าตัด สักคิ้ว การใช้คลื่นแม่เหล็ก หรือสารเคมี ซึ่งเทคนิกต่างๆ ที่ว่ามานั้นบางครั้งก็มีผลเสียต่อร่างกายเราเช่นกัน และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้เทคนิกเสี่ยงต่ออันตรายดังกล่าว จึงหันมาใช้การแต่งหน้าเพิ่มสวยหรือ "เมคอัพโอเวอร์" แทนการศัลยกรรม


          นอกจากนี้ ปัจจุบันมีสินค้ามากมายที่ออกมาช่วยเสริมความงามตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็น ขนตาปลอม ทั้งแบบถาวรและไม่ถาวร ที่ดัดขนตาไฟฟ้า เลนส์บิ๊กอาย คอนแทคเลนส์ชนิดสี และกาวทำตา 2 ชั้น เป็นต้น ซึ่งวัยรุ่นทั่วไปยอมรับว่าใช้แล้วทำให้สวย-หล่อขึ้น และยังไม่เป็นอันตรายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าปลอดภัยจริง


          ผศ.พญ.เพ็ญพรรณ วัฒนไกร หน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ให้ความเห็นถึงกาวทำตา 2 ชั้น ว่า ถ้าเป็นของที่ได้มาตรฐาน และไม่เกิดอาการแพ้ก็ไม่มีอันตรายอะไร แต่สำคัญคือต้องไม่เข้าตาและใช้ให้ถูกต้อง ถูกวิธี เนื่องจากตาเป็นอวัยวะที่ละเอียดอ่อน อันตรายน่าจะอยู่ที่คนทำมากกว่า


          "ช่างที่ทำเป็นใครก็ไม่รู้บางทีทำไปกินไป ไม่รู้ว่าตั้งใจทำหรือเปล่า ถ้าเกิดพลาดไปหยดกาวเข้าตาก็มีปัญหา ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ดี ดูอย่างไรก็รู้ว่าเป็นของปลอม อีกทั้งถ้าเราไม่รู้ว่าของที่ใช้เอามาทำได้มาตรฐานหรือไม่ก็เป็นความเสี่ยงไม่จำเป็นไม่ควรทำเพราะอาจผิดพลาดได้ ต้องชั่งดูว่าประโยชน์ที่ได้รับกับความเสี่ยงนั้นคุ้มหรือไม่ เพราะจริงๆ แล้วแค่แพ้ แดง หรือมีรอยคล้ำก็ถือว่าแย่แล้วกับสิ่งที่เราต้องการให้สวยขึ้น"ผศ.พญ.เพ็ญพรรณ กล่าว


          ส่วนเรื่องการแต่งหน้านั้น ผศ.พญ.เพ็ญพรรณ กล่าวว่า การทำศัลยกรรมอาจมีความเสี่ยงมากกว่าอยู่แล้ว แตกต่างจากการใช้เครื่องสำอางเพราะอยู่ภายนอกร่างกาาย แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกซื้อควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว และต้องมีฉลากบอกวิธีใช้และผู้ผลิตที่ชัดเจน ส่วนคนไข้ส่วนใหญ่ที่มีปัญหามักเกิดจากการใช้เครื่องสำอางไม่ถูกวิธี เช่น ล้างเครื่องสำอางออกไม่หมด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ประเภททำความสะอาดผิวเยอะเกินไป ทั้งการการขัด หรือสครับ  


          ผศ.พญ.เพ็ญพรรณ กล่าวต่อว่า ส่วนเครื่องสำอางควบคุมที่มีวิธีการใช้ที่ค่อนข้างเฉพาะ อย่างเช่นน้ำยาดัดหรือย้อมผม ปัญหาที่เจอบ่อยคืออาการแพ้ หนังศีรษะมีน้ำเหลืองไหล ถ้าแพ้มากก็อาจมีหนังตาบวมปิดได้ ซึ่งทั้งหมดนี้คนไข้ส่วนใหญ่จะไม่ใช่ว่าใช้ครั้งแรกแล้วถึงแพ้ การแพ้ต้องใช้เวลาทำหลายครั้งกว่าจะเกิดการแพ้ได้ คนไข้เลยมักจะคิดว่ามันไม่ใช่ ทำมาหลายครั้งแล้วทำไมเพิ่งมาเป็น ซึ่งจริงๆ แล้วการแพ้นั้นจะไม่เป็นทันที จะค่อยเป็นค่อยไปและจะมากขึ้นเรื่อยๆ
 

          อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังเครื่องสำอางที่มีสารผสมประเภทที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางทั่วไป เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน กรดวิตามินเอ ซึ่งอาจจะมีผู้ที่ลักลอบขายหรือการใช้โดยไม่มีผู้แนะนำการใช้ที่ถูกวิธีก็อาจเกิดปัญหาได้ อย่างตอนนี้มีโบท็อกซ์ของจีน เกาหลี ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน หรือมีคนหิ้วมาขายเถื่อนๆ ซึ่งจริงๆ แล้วของนำเข้านั้นต้องดูว่ามีสถานที่ผลิตและมีชื่อบริษัทนำเข้าที่ชัดเจน ซึ่งหากไม่มีหรือผู้ใช้อ่านไม่ออกก็จะเป็นความเสี่ยง อีกทั้งไม่สามารถจะร้องเรียนใครได้เมื่อเกิดปัญหา
 

          ส่วนความเห็นจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตา โดย นพ.ณวัฒน์ วัฒนชัย จักษุแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงปัญหาจากการใส่คอนแทคเลนส์ชนิดสี ว่า ความเสี่ยงนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา แต่ข้อควรระวังคือใครๆ ก็สามารถหยิบมาใส่ได้ ซึ่งคนที่จะหยิบมาใส่มักจะมีความระมัดระวังในการใช้น้อยกว่าคนที่ใช้ในเรื่องปัญหาทางสายตา 


          ส่วนบิ๊กอายก็คล้ายๆ กัน แต่ด้วยขนาดของเลนส์ที่ใหญ่กว่าก็จะเป็นปัญหาในการใส่เข้าออก หรือคนที่ใส่ไม่ใช่คนที่เคยใส่มาก่อนเลย พอนิยมขึ้นมาก็มีคนจำนวนมากที่นำไปใส่โดยไม่ระมัดระวัง ไม่รู้ว่ามีปัญหาแทรกซ้อนได้ ส่วนมากแล้วคนไข้ที่มาหาจะเกิดจากการติดเชื้อแทรกซ้อน ที่เจอบ่อยคือดูแลใส่ไม่ถูกวิธี เช่น การใส่นอนหรือใส่เกินวันละ 12 ชั่วโมง ใส่แล้วทำความสะอาดไม่ดี บางคนถอดออกมาแล้วเอาน้ำยาถูแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ก็มี  
 

          นายแพทย์ณวัฒน์ได้ให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาตาแห้งว่า วิธีแก้อาจจะปรับที่ตัวเราเอง เช่นเปลี่ยนมาใช้แว่นกันลมกรอบกว้าง หรือเลิกใช้คอนแทคเลนส์เลย อีกวิธีคือ การใช้น้ำตาเทียมซึ่งสามารถซื้อใช้เองได้ ส่วนกรณีน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ที่มีคุณสมบัติหยอดตาได้นั้นสามารถใช้ได้ แต่อาจมีผลเสียในแง่ที่บางคนอาจจะแพ้ส่วนประกอบในนั้น


          ด้านนายชรรร ลันสุชีพ ผู้ใช้คอนแทคเลนส์ประเภท "บิ๊กอาย" กล่าวว่า ตนมีปัญหาสายตาสั้นและใส่คอนแทคเลนส์ มานานแล้ว แต่ที่มาลองใส่บิ๊กอาย เพราะดูโทรทัศน์เห็นนักร้อง-นักแสดง ใส่กันแล้วรู้สึกว่าดูดี อีกทั้งมีเพื่อนแนะนำว่าถ้าใส่บิ๊กอายจะแก้ไขบุคลิกให้ดีขึ้น เพราะนอกจากสายตาสั้นแล้วตนยังเป็นคนตาลอย คือตาดำลอยชิดด้านบนทำให้เหลือพื้นที่ตาขาวด้านล่างมาก เมื่อใส่แล้วก็รู้สึกพอใจ รู้สึกว่าตาโตขึ้นจริงๆ คนรอบข้างก็ทักว่าดูดีขึ้น ส่วนอาการแพ้ไม่มี เพียงแต่ดูแลรักษาความสะอาดไม่ดีก็จะเคืองตา แต่ยอมรรับว่าราคาค่อนข้างสูงกว่าเลนส์ปกติธรรมดาทั่วไปหลายเท่าตัว


          ขณะที่ น.ส.เปร์ริญชน์ จงศรีงาม หรือ "ปุ้ย" ช่างแต่งหน้าสาวฟรีแลนซ์ ผู้คลุกคลีอยู่ในวงการศิลปะความงาม ให้ความเห็นว่า เรื่องตาโตช่วงนี้ฮิตกันสุดๆ โดยเฉพาะ "คอนแทคเลนส์ตาโต" หรือ "บิ๊กอาย" และคอนเทคเลนส์แบบสีด้วย แต่ที่จริงการแต่งหน้าให้ตาสวยก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งคอนแทคเลนส์ เทคนิคคือการใช้ลายเส้นและแสงเงานิดหน่อยเท่านั้น แต่ถ้าวันไหนยุคตาโตหมดมาเน้นยุคหมวยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย ส่วนการติดขนตาถาวรนั้นช่วงนี้ก็นิยมกันมาเช่นกัน แต่ราคาค่อนข้างแพงและอยู่ได้ไม่นาน ต่างจากการใช้มาสคาร่าปัดให้หนาและยาว ซึ่งปลอดภัยมากกว่าและประหยัดด้วย




ข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แนะ บิ๊กอาย ดูแลไม่ดี ติดเชื้อแทรกซ้อนสูง โพสต์เมื่อ 26 พฤษภาคม 2551 เวลา 10:48:44 3,555 อ่าน
TOP