x close

ชีวิตธรรมดาๆ กับดวงตาที่เห็นความรัก ชมพู่ อารยา


ชมพู่ อารยา


          ด้วยต้นทุนทางหน้าตาเธอได้รับการทาบทามถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ และด้วยความแรงที่ฉุดไม่อยู่ เธอกลายเป็นนางเอกละครโทรทัศน์ จากดาวรุ่งมุ่งสู่มืออาชีพ ด้วยละครกว่า 20 เรื่องภายใน 8 ปี เธอกลายเป็นนางเอกแถวหน้าของช่อง 7 ที่มีแฟนคลับติดตามงานแสดงอย่างล้นหลาม

          ชมพู่เคยได้รับตำแหน่งสาวที่เซ็กซี่ที่สุดแห่งปีจากนิตยสาร FHM โค่นแชมป์เก่าอย่าง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ จนเกิดกระแสนางเอกเซ็กซี่เซ็ง ปัจจุบันเธอหันมาจับงานพิธีกร และเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว ส่วนในเรื่องงานแสดง เธอกำลังพลิกบทบาทครั้งสำคัญ บทบาทที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า เธอไม่ได้มีดีแค่หน้าตา First จึงบุกเข้าไปถึงห้องแต่งหน้า เพื่อถามไถ่ถึงที่มาที่ไป อนาคตในวงการมายา และเส้นทางในวงการธุรกิจของซูเปอร์สตาร์สาวคนนี้

ความฝัน

          ชมพู่ : ตอนเด็กเคยอยากเป็นคอลัมนิสต์ แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอโตมากลับไม่ค่อยชอบเขียนหนังสือ อ่านก็ไม่ได้อ่านมาก ชมพู่ว่าคนที่จะเขียนหนังสือเก่ง จำเป็นต้องเป็นคนที่มีพื้นฐานในการอ่านมาก พอมองดูตัวเองอีกทีเทียบกับคุณสมบัติที่ว่า ก็เลยคิดว่ายังไม่ใช่ สักพักก่อนจะเข้าวงการก็มีความฝันใหม่ เริ่มคิดแบบวัตถุนิยมแล้ว คือทำงานอะไรก็ได้ที่ได้เงินเยอะๆ ก็เลยอยากเป็นแอร์โฮสเตส เคยคิดนะว่า ถ้าชมพู่ไม่เข้าวงการ ป่านนี้คงกำลังสงครามนางฟ้าอยู่แน่ๆ (หัวเราะ)

เข้าสู่วงการ

          ชมพู่ : ก็เริ่มจากการถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา เหมือนเด็กทั่วไป จนได้มาเล่นละคร เพราะมีผู้ใหญ่ที่ทำงานอยู่ดาราวีดีโอ คือเขาเป็นคนเขียนบทละครให้ช่อง 7 ด้วยความที่เขาเป็นเพื่อนกับอาจารย์ที่โรงเรียน ก็เลยชวนชมพู่มาเล่นละคร ละครเรื่องแรกเลยก็เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เรื่อง "เพลงพราย" ฉายทางช่อง 7 เล่นคู่กับพี่บี๋-สวิช เพชรวิเศษศิริ

ครอบครัวว่าไงบ้าง

          ชมพู่ : ตอนแรกคุณพ่อก็ไม่ค่อยสนับสนุนหรอกค่ะ สมัยตอนเริ่มแคสงานโฆษณา คุณพ่อจะโวยวายประจำเลย แต่คุณแม่กลับสนับสนุน และชมพู่ก็อยากทำด้วย ทำไปทำมาก็มาเป็นนางเอก เขาก็ห้ามไม่ทันแล้ว ซึ่งตอนนี้คุณพ่อก็ภูมิใจกับชมพู่นะ คือท่านไม่ได้บอกตรงๆ หรอก แต่เรารู้

ทำงานหนักดูแลตัวเองอย่างไร

          ชมพู่ : ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดแปลกไปจากคนอื่นมากนัก หลักๆ คือพยายามนอนให้พอ ไม่สบายก็ไปหาหมอ น้ำหนักก็พยายามดูแลอยู่เรื่อยๆ แต่เวลาจะรับประทานอะไร ชมพู่ก็เต็มที่นะ เพราะรู้สึกว่าเราทำงานเหนื่อย เราต้องให้รางวัลตัวเราเองสักหน่อย แต่ช่วงนี้อายุมากขึ้น การเผาผลาญมันก็จะไม่เหมือนเดิมกับตอนเด็ก แต่ก็ยังรักที่จะรับประทานเหมือนเดิมน่ะ จึงต้องมีการออกกำลังกายเพิ่มเข้ามา ส่วนในเรื่องการออกกำลังกายนี่ อาทิตย์หนึ่งชมพู่พยายามจะเล่นโยคะให้ได้ประมาณสักวันถึงสองวันค่ะ

งานที่ทำอยู่ในปัจุจบัน

          ชมพู่ : ทำงานทุกวัน บางวันก็ทำ 20 ชั่วโมง บางวันก็ทำ 10 ชั่วโมง บางวันก็ทำ 3-4 ชั่วโมง คือ มันไม่แน่นอนในแต่ละวัน ตอนนี้ก็มีงานพิธีกรกับละครเรื่องใหม่ ชื่อเรื่อง "ดาวเปื้อนดิน" เป็นละครผู้หญิงเลย แบบผู้หญิงสองคนแย่งผู้ชายกัน เนื้อหามีเท่านี้เลย แต่มันเข้มข้นมาก ละครเรื่องนี้ชมพู่พลิกมาเล่นเป็นตัวร้าย ประกบคู่กับคุณนุ่น (วรนุช วงษ์สววรค์) เป็นการเล่นครั้งแรก เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันสนุกมาก แล้วท้าทายจริงๆ เพราะบทที่ได้ ตัวละครตัวนี้ร้ายมาก ร้ายจริงๆ ถ้าแบบร้ายคิกขุ ร้ายหน่อมแน้ม คงไม่รับเล่น และเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในละครเท่านั้น ในชีวิตจริงไม่ได้ร้ายอย่างนั้นแน่ (หัวเราะ) คือถ้าใครเคยชม แรมพิศสวาท ทางช่อง 3 ที่พี่หน่อย (บุษกร พรวรรณะศิริเวช) เล่น เรื่องนี้ก็จะออกมาเป็นประมาณนั้น แต่จะดูทันยุคทันสมัยมากกว่า คือเวอร์ชั่นที่เป็นปัจจุบัน ตอนนี้ก็ถ่ายไป 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว ดูบทแล้วชมพู่คิดว่าโอเคนะ อ่านบทแล้วแรงสุดๆ น่าจะดังเพราะบทมันแซบมาก คาแร็กเตอร์จะเป็นผู้หญิงที่ทะเยอทะยาน เอาตัวเข้าแลกเพื่อทุกอย่าง และเก็บผู้ชายทุกคนในเรื่องเลย (หัวเราะ) แค่ผู้ชายที่เป็นตัวเมนของเรื่องก็ 3 คนไปแล้ว สำหรับคนที่เล่นเป็นสามีของชมพู่ เท่าที่รู้ตอนนี้ก็มีพี่วี (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์), อ้วน(รังสิต ศิรนานนท์), บอล(อัศนัย เทียนทอง) ยังไม่นับตัวเล็กๆ อีก ถือว่าเป็นบทที่แรงที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา

กลัวเสียภาพลักษณ์หรือเปล่า

          ชมพู่ : ไม่ค่ะ เวลาทำอะไรต้องทำให้เต็มที่ ถ้าคนดูเชื่อว่าชมพู่เป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ชมพู่จะรู้สึกดีมากๆ เพราะถือว่าเราสอบผ่าน อีกอย่างชมพู่เชื่อว่านักแสดงรุ่นก่อนเราทุกคนก็ผ่านจุดนี้มาแล้ว มันเป็นโอกาสที่จะได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองด้วย แล้วพี่ที่เขียนบทเรื่องนี้เป็นคนเดียวกับที่เขียน "แรมพิศวาส" เนื้อเรื่องเข้มข้นแนวตลาด ชมพู่คาดว่าละครฉายเมื่อไหร่ คงจะเดินตลาดไม่ได้ด้วย (หัวเราะ)

บทเลิฟซีนที่จะเล่นมีลิมิตแค่ไหน

          ชมพู่ : ด้วยลิมิตของละครที่จะออกอากาศทางทีวีคงทำอะไรไม่ได้ มากอยู่แล้ว แต่ชมพู่เชื่อว่าจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเหตุผลของการแสดง

มีภาพลักษณ์เป็นสาวเซ็กซี่ด้วย

          ชมพู่ : ค่ะ ก็เฉพาะในงานบางงานเท่านั้นนะคะ ในละครส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะได้เซ็กซี่อะไร ชมพู่มองว่ามันเป็นแค่โจทย์ในการทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการภ่ายภาพนิ่งในนิตยสารต่างๆ แต่ตัวตนจริงๆ กับบทบาทอื่นๆ ไม่ได้นำเสนอตัวเองว่าเป็นสาวเซ็กซี่เลย ก็เป็นคนปกติ ที่จริงความเซ็กซี่มันไม่ใช่สาระสำคัญ อย่าคิดว่าความเซ็กซี่เป็นของดีของลูกผู้หญิง มันไม่พอหรอกค่ะ ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย อย่างเรื่องความรู้ความสามารถ การวางตัว และอื่นๆ อีกสารพัด แต่ก็ถือเป็นเสน่ห์นะคะ สำหรับผู้หญิงที่มีความเซ็กซี่อยู่ในตัวเอง แต่ผู้หญิงเราสวยได้หลายแบบค่ะ ชมพู่ไม่อยากให้เข้าใจผิด โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ความเซ็กซี่หรือการเป็นเซ็กซี่สตาร์ไม่ใช่เป้าหมายปลายทาง มันไม่ได้เหมาะกับทุกๆ คน และไม่เป็นได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เป็นอย่างอื่นก็ได้ค่ะ อยู่ที่ความสามารถของเรา จะเห็นว่าผู้หญิงเก่งๆ หลายคน เขาก็ไม่ได้พรีเซ็นต์เรื่องความเซ็กซี่เลยนะคะ แต่สังคมยกย่องในสิ่งที่เขาทำ ในบทบาทที่เขาเป็น ความเซ็กซี่กับชมพู่ มันก็แค่บทบาทหนึ่งและในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง

เคยโดนตำหนิ เมื่อครั้งถ่ายหวือหวาในนิตยสารฉบับหนึ่ง

          ชมพู่ : ค่ะ แต่ก็นานพอสมควรแล้วนะ คือชมพู่ถ่ายไปแล้ว คงแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่มันก็ให้บทเรียน ถ้าเราทำอะไรแรงๆ กระแสตอบรับมันก็จะแรง แต่ชมพู่ไม่อยากใช้คำว่าเสียใจ เพราะมันไม่ใช่ความรู้สึกเสียใจ แต่มันอาจจะทำให้ใครบางคนที่เขาคาดหวัง ว่าเราจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ผิดหวัง ชมพู่ก็โอเค ชมพู่ขอโทษ

การตัดสินใจรับงานหลังจากนั้นเลยคิดมากขึ้น

          ชมพู่ : ก็คิดมากขึ้น แต่ไม่ใช่ตอนนั้นไม่คิดนะคะ คิดแล้ว แต่เสียงวิจารณ์ที่เกิดขึ้นมันกลับมากกว่าที่ชมพู่คิด ก็เป็นบทเรียนให้ได้เรียนรู้

มีแฟชั่นหวือหวาติดต่อมาอีกหรือเปล่า

          ชมพู่ : มีเรื่อยๆ แต่เราเลือกที่จะรับ หรือไม่รับ ถ้าเราถ่ายแล้วบวกก็โอเค ถ้าเสี่ยงก็ไม่ถ่ายดีกว่า คือต่อจากนี้ไป จะไม่มีทางแรงเท่านั้นอีกแล้ว ไม่มีแน่นอน เพราะชมพู่มองไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะถ่าย ชมพู่ว่าที่ผ่านมามันเพียงพอแล้ว เราอาจจะยังไม่จำเป็นมาก การถ่ายแบบไม่ได้ทำให้เรารวยอยู่แล้ว และเรื่องเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักของชมพู่ด้วย

อยู่ในวงการมีทั้งข่าวดีและไม่ดีมีวิธีตั้งรับกับมันอย่างไร

          ชมพู่ : เราต้องมีสติ เข้าใจธรรมชาติของวงการ เข้าใจธรรมชาติของข่าว คิดซะว่าอีกวันก็มีข่าวคนอื่นแล้ว (หัวเราะ) แต่ถ้าเราอยู่อย่างเข้าใจวงการ เราก็จะไม่โกรธใคร อย่างคนเขียนข่าว ชมพู่ก็ไม่นึกโกรธเขาเลย

มีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วย

          ชมพู่ : ธุรกิจที่ทำ ก็จะมีร้านทำผม กับร้านขายรองเท้า ทำกับเพื่อนทั้งสองร้านเลย เป็นเพื่อนกลุ่มเดิม เขามาชวนทำ ซึ่งมันก็เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้สตางค์มากนัก อย่างร้านแรกเลย คือ ร้านทำผม ก็มองว่ามันเจ๊งยาก ความเสี่ยงน้อย เพราะมันเหมือนเป็นปัจจัยที่ห้าเลยนะ ผู้หญิงยังไงก็ต้องทำผม แล้วไปอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 คนเยอะ ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ทำเลดีมาก น่าจะไปรอด คือ ถ้ามันเจ๊งจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องของการบริหารจัดการมากกว่า แล้วร้านรองเท้า อันนี้ก็ใช้สตางค์น้อยมากกว่าร้านแรกอีก ซึ่งเราก็ไม่ค่อยคิดมากอะไร แต่ธุรกิจอีกอย่างหนึ่งที่กำลังคิดจะทำอยู่ ใช้สตางค์ค่อนข้างเยอะ ก็คิดว่าจะชวนเพื่อนกลุ่มที่ทำกันมาหุ้น แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไร เดี๋ยวมีคนเลียนแบบ แต่บอกนัยๆ ได้ว่า เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับของฟุ่มเฟือย เกี่ยวกับความชอบ ตลาดก็จะเจาะไปที่คนที่ชอบจริงๆ ถึงจะสนใจ

ครอบครัวคิดอย่างไรกับธุรกิจที่ทำ

          ชมพู่ : คือต้องบอกก่อนว่า ที่บ้านไม่มีใครมีพื้นฐานการทำธุรกิจมาก่อน คุณแม่ก็เป็นแม่บ้าน ส่วนคุณพ่อก็มีลักษณะเป็นพนักงานเงินเดือนมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นเวลาที่ชมพู่จะทำอะไร ตัดสินใจอะไร ที่บ้านก็จะค่อนข้างห่วง

ทำธุรกิจ ถ่ายแฟชั่น เล่นละคร และเป็นพิธีกร ชอบงานไหนที่สุด

          ชมพู่ : จริงแล้วก็ชอบหมดนะ แต่เราเริ่มมาจากงานแสดง ดังนั้นคนจะจดจำเราว่าเราเป็นนักแสดง เพราะฉะนั้น เมื่อคนเรียกเรามองเราเป็นนักแสดง เราก็ต้องรักในอาชีพเรา แต่สิ่งใหม่ที่เข้ามาในชีวิต เรียกได้ว่าเป็นอีกภาพเลย ซึ่งปีนี้เราก็จะได้รายการใหม่ คือ รายการ 7 กะรัต ที่รูปแบบรายการจะทำให้เราเป็นพิธีกรได้เต็มตัวกว่า รายการคันปาก เพราะจะเป็นรูปแบบรายการทอล์คโชว์ ซึ่งเราก็มองว่า มันก็เป็นอย่างนึงที่เราอยากทำมานาน แล้วเราก็ค่อนข้างจะทุ่มเท อยากจะทำให้เต็มที่ เพราะเราก็รู้สึกว่า คำว่า นางเอก มันไม่ได้อยู่กับเราไปได้ตลอดหรอก เพราะเราก็โตขึ้นทุกๆ วัน เราอายุ 40 ก็เป็นนางเอกไม่ได้หรอก แต่งานพิธีกร ยิ่งแก่ก็ยิ่งเก๋า เราเลยคิดว่าตรงนี้มันน่าจะอยู่ได้ และเราก็อยากอยู่กับมันนานๆ อยากลงทุนกับมัน และที่สำคัญทุกคนก็ใช่ว่าจะได้โอกาสแบบนี้เหมือนกับเรา ในเมื่อเราได้โอกาสก็อยากจะทำให้ดีที่สุด

เรื่องของความรัก...

          ชมพู่ : ตอนนี้ก็ยังโสด ทำแต่งาน ไม่มีเวลาเจอผู้ชายเลย (หัวเราะ) แต่ชมพู่ก็เชื่อว่าถ้าจะเจอมันก็คงเจอ แน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนก็อยากที่จะมีคนรัก แต่เราก็เป็นคนที่เคยมีความรักมาก่อน ก็รู้ว่า...ถ้ามันมีแล้วมันไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เราคิดว่า อยู่คนเดียวดีกว่า แต่ถามว่า ท้ายที่สุดแล้วอยากมีคนมาดูแลไหม คือ มันแน่นอน เราอยากสบาย อยากมีคนคอยดูแลเอาใจใส่

ประสบการณ์ความรักที่ผ่านมามันสอนอะไรบ้าง

          ชมพู่ : สอนเยอะมาก เช่น สอนเราว่า ถ้าอะไรที่มันไม่ได้มันก็คือไม่ได้ เราต้องหันมองอะไรที่เป็นจริง อยู่ในความเป็นจริง

รู้มาว่าชมพู่เป็นคนที่รักใครก็รักจริง อย่างช่วงที่คบกับแฟนคนก่อนก็ไม่เคยมองใครเลย

          ชมพู่ : นั่น...ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้มีใครไม่ได้นะ คือความรักครั้งก่อน มันผ่านไปแล้ว มันไม่ใช่เป้าหมายที่ชมพู่เอามาคิดในหัวอีกต่อไป พอเราโตขึ้น ก็เรียนรู้ได้ ว่าจะไม่เอาความรู้สึกอย่างเดียวแล้ว การที่ทุกวันนี้ยังว่างอยู่ ไม่ได้หมายความว่าปักใจ หรือว่ารอเขาอยู่ เพียงแต่เราโตขึ้น เราใช้สมอง เราถี่ถ้วนขึ้น ไม่วู่วามกับเรื่องแบบนี้ ถ้านิสัยก็ยังเหมือนเดิม ก็คือมั่นคง

ณ ตอนนี้ทำให้มุมมองความรักเปลี่ยนไปเยอะไหม

          ชมพู่ : อย่างที่บอกว่า ตอนนี้เลิกเพ้อฝันแล้ว (หัวเราะ)

ตอนนี้มีคนเข้ามาจีบหรือเปล่า

          ชมพู่ : ก็มีบ้าง ที่ยังไม่เปิดใจรับ เพราะเราก็ถี่ถ้วนขึ้น ไม่ใช่หลับหูหลับตา ถามว่าสเปกเปลี่ยนไปมั้ย เราเรียนรู้ว่าแบบนี้มันไม่เวิร์ก ประสบการณ์มันสอนให้คิดมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หวาดระแวง คือเราก็โตมาประมาณหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราเห็นอะไรในความเป็นจริง แล้วเราคิดว่าเราไม่น่าจะไปกันได้ ก็อย่าไปฝืน ดูความเป็นจริง และองค์ประกอบ อย่างที่บอกว่าเราเป็นคนจริงจัง

เคยมีเป้าหมายชีวิตช่วงที่มีคนคบอยู่ แต่ตอนนี้ชมพู่ไม่มีใคร เป้าหมายชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง

          ชมพู่ : เป้าหมายของชมพู่ยังอยู่ เพียงแต่ว่าตอนนี้เดินคนเดียว ที่ผ่านมาเรามีเป้าหมายร่วมกับใครบางคน แต่บางทีคนที่อยู่ข้างๆ เรา เขาอาจจะไม่เดินไปทางนี้ คือเดินไปกับเราไม่ได้ มันเหมือนเดินไปไม่ถึง

ที่บอกว่าเป้าหมายยังอยู่นั้นคืออะไร

          ชมพู่ : ถ้าโดยส่วนตัว ชมพู่ไม่ได้หวังสูง ตอนนี้เป้าหมายที่มองคือ เป้าหมายแบบคนโสด เพราะมัวคิดว่าจะมีครอบครัว มีคนมาดูแลเรา มีราชรถมาเกย แล้วถ้าไม่ใช่ขึ้นมา เราดันไม่ได้เตรียมตัวอะไรไว้สำหรับตัวเอง สำหรับชีวิตที่มีเราคนเดียว เราก็จะแย่ คือตอนนี้ชมก็มีเป้าหมายส่วนตัวของชมพู่เอง มันอาจจะไม่สูงมาก คือให้คุณพ่อคุณแม่สบาย แล้วตัวเรามีที่อยู่ มีเงินใช้ ก็แค่นั้น

รสชาติของชีวิตโสดเป็นอย่างไรบ้าง

          ชมพู่ : จริงๆ ชมพู่ไม่ได้บอกว่าโสดมันจะดีกว่าเสมอไป มันขึ้นอยู่กับว่ารูปแบบความสัมพันธ์ตอนที่เราไม่โสดมันเป็นยังไง ถ้าเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้มันเวิร์กกว่า สำหรับชมพู่มันดี แต่บางคนอาจจะเหงา สำหรับชมพู่มันแฮปปี้ มันดีกว่าจริงๆ (หัวเราะ)

ข้ามผ่านชีวิตช่วงเลิกรามาได้อย่างไร

          ชมพู่ : ก็ทำงาน มันช่วยได้ แล้วมันสอนเราด้วย ว่าไอ้สิ่งที่เราทำงกๆ อยู่นี่ คือเรายืนคนเดียวเลย ซึ่งเราก็ทำได้ แล้ว จะเรียกร้องหาอะไรอีก

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากย้อนอดีตไปแก้ไขอะไรไหม

          ชมพู่ : ทุกอย่างในวันนี้มันก็ไปเป็นตามเหตุปัจจัยที่มันมีมาตั้งแต่เมื่อก่อน ถ้าวันนี้เราแฮปปี้ เราก็ต้องให้เครดิตกับที่ผ่านมาด้วย มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีวันนี้

ชายในฝัน

          ชมพู่ : ชมพู่ค่อนข้างคาดหวังสูง แต่ก็รู้สึกว่า เราก็เหนื่อยกับชีวิตมาประมาณหนึ่ง เราทำงานตั้งแต่เด็ก เรารับผิดชอบแล้ว เพราะฉะนั้นอีกคนที่จะเข้ามาในชีวิตเรา จะต้องเข้ามาช่วยเกื้อกูลกัน ไม่ใช่ว่ามาช่วยกันเพิ่มภาระ เพิ่มห่วง คือเราจะต้องดูแลกัน ทั้งทางกาย และทางใจ ผู้ชายคนนั้นคงจะต้องเป็นคนเก่ง เพราะถ้าไม่เก่ง เราก็คงไม่ศรัทธา คือเราสังเกตจากเพื่อนๆ นะ แบบเวลาผู้หญิงที่ทำงานมากๆ แล้วเก่งนี่ เจอกับผู้ชายที่อยู่นิ่งๆ อยู่กับที่ มันจะกลายเป็นความไม่ศรัทธา และจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมา เราเชื่อว่า ยังไงเราก็ไม่อยากเป็นช้างเท้าหน้า อาจจะเป็นเท้าหลัง หรือเดินไปพร้อมๆ กันก็ได้ คือผู้หญิงต้องการผู้ชายที่มีความเป็นผู้นำ เพื่อที่จะทำให้เราศรัทธา

แสดงว่าความรักครั้งใหม่ต้องเฟอร์เฟ็กต์

          ชมพู่ : ก็ไม่เชิงนะ แต่ก็อยากได้คนที่เขาพร้อมมากกว่า คือพอเราโตขึ้นมันเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว ก็อยากให้เขาคนนั้นพร้อมที่จะดูแลเรา เกื้อกูลกัน คือมันต้องเดินเคียงคู่กันไป ไม่ใช่แค่ผิวเผิน หรือว่าแบบหมาหยอกไก่อะไรอย่างนี้ ไม่เอา... คือ ถ้าเป็นแบบนั้นเสียเวลาเปล่า เขาก็เสียเวลา ชมพู่ก็เสียเวลา แล้วอีกอย่าง ความรักมันก็ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงด้วย

ดูชมพู่จริงจังกับความรักมาก

          ชมพู่ : ค่ะ จริงจัง คือคนที่จะเข้ามาจริงๆ เขาก็ต้องจริงจังมากๆ เหมือนกัน ไม่งั้นก็ไม่เอาด้วย

คิดว่าความรักให้อะไรกับชีวิตเรามากที่สุด

          ชมพู่ :  ให้หลายอย่าง ดูที่เราใช้มันถูกวิธีหรือเปล่า บางคนมี ความรัก แล้วเป็นสุข แต่บางคนมีทุกข์ เพราะเค้าใช้มันผิดวิธี แต่จริงๆ มันควรจะทำให้เรามีความสุขนะ การที่ได้มีคนมายืนเคียงข้างเรา เข้าใจเรา รับฟังปัญหา คอยช่วยเหลือ มันเหมือนกับช่วยเติมพลังชีวิตให้นะ คือไม่ว่าจะเป็น ความรัก แบบครอบครัว เพื่อน หรือว่าในเชิงชู้สาว มันทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีจุดหมายนะ ทำให้เรารู้ว่าเราทำไปเพื่ออะไร เพื่อใคร มีคนคอยยินดีไปกับเราในวันที่เราประสบความสำเร็จ เคียงข้างเราได้ในวันที่เราทุกข์ แค่นี้ก็ทำให้ชีวิตเรามีความสุขแล้วค่ะ

อนาคต...

          ชมพู่ : ทุกวันนี้ก็คุยกับแม่ว่าจะซื้อคอนโดมิเนียมตรงนั้นตรงนี้ในกรุงเทพฯ แต่แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวแก่ตัวลงกว่านี้จะคิดอีกแบบ ตอนนี้แม่ก็ไปอยู่จันทบุรี ปลูกผลไม้ ไปเที่ยวน้ำตก เราก็คิดว่าคงไม่มีทางทำแบบนั้น แต่จริงๆ แล้วมันก็ไม่แน่ วันนึงเมื่อเราแก่ตัวขึ้นอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ตอนนี้ก็คิดแค่ว่าเก็บสตางค์ไว้เยอะๆ เพราะเราไม่อยากเหนื่อยตอนแก่


อ่าน เรื่องย่อละคร ดาวเปื้อนดิน คลิกเลย


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

- รูปภาพ ชมพู่ อารยา ใน ชุดว่ายน้ำ sexy จัดๆ จาก LIPSLUXE
- รูปภาพ ชมพู่ อารยา รูปชมพู่ อารยา แฟชั่น ถ่ายแบบ ดารา เซ็กซี่ มากๆ
- รูปภาพ ชมพู่ อารยา นางเอก สาวสวย เซ็กซี่ ดารา น่ารัก
- รูปภาพ ชมพู่ อารยา ดารา สาวสวย ถ่ายแฟชั่น เซ็กซี่ สไตล์ ชมพู่
- รูปภาพ ชมพู่ อารยา และ รอยสัก เท่ห์ๆ บนเรือนร่างของ ชมพู่ อารยา กับการ ถ่ายแบบ ปก
- รูปภาพ ชมพู่กับแตงโม เห็นแล้วหัวใจละลาย
- รูปภาพ ชมพู่ mars


รูปภาพวอลล์เปเปอร์ที่เกี่ยวข้อง

- รูปภาพ wallpaper ชมพู่ - แตงโม จาก Lisa
- ภาพ wallpaper ชมพู่ จาก in
- ภาพวอลล์เปเปอร์ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต จาก Mix
- ภาพวอลเปเปอร์ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต จาก Exray


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ชมพู่ ร้ายลึก ตบ นุ่น กระตุกเรทติ้ง
- ชมพู่ เล่นบทฮิสทีเรีย ไม่หวั่นกระแสต้าน ปัดแตกคอ เอมมี่
- ชมพู่ งามล้ำ ทำไมไร้แฟน?
- ชมพู่ ลุ้นพลิกเล่นร้าย ใน ดาวเปื้อนดิน แย้มอยากดูตัวเอง
- เล่นร้ายครั้งแรก ชมพู่ ไม่สนถูกมอง นางรอง
- ชมพู่ สลัดผ้าโชว์หวิว เชื่อไม่โป๊มาก
- ชมพู่ บอกหาผู้ชายพันธุ์ดีไม่ได้ จะยอมขึ้นคาน
- ชมพู่ ยี้รักฉาบฉวย คบเดี๋ยวด๋าวเปลืองตัว
- ชมพู่ เบรกหวือ! ยันไม่ขอยึดติดตำแหน่ง FHM
- ปีทองของ "ชมพู่"


ข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชีวิตธรรมดาๆ กับดวงตาที่เห็นความรัก ชมพู่ อารยา โพสต์เมื่อ 26 พฤษภาคม 2551 เวลา 10:59:20 13,619 อ่าน
TOP