x close

มติเอกฉันท์ยึดทรัพย์ ทักษิณ 7.66 หมื่นล้าน

ทักษิณ ชินวัตร


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

         เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการคตส. และนายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมการคตส. แถลงผลการประชุมคตส.ชุดใหญ่ เกี่ยวกับผลสรุปการไต่สวนคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจตนเองและพวกพ้อง ประกอบด้วย ข้อกล่าวหาเรื่องการถือครองหุ้นธุรกิจสัมปทาน (คดีซุกหุ้นภาค 2) ข้อกล่าวหาการใช้อำนาจหน้าที่ในการออกมาตราเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจตนเอง และข้อกล่าวหาคดีได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควร (คดียึดทรัพย์) 

         ทั้งนี้ นายสัก กล่าวว่า ที่ประชุมคตส.มีมติเป็นเอกฉันท์ ตามที่คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้ ที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการคตส. เป็นประธาน ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ยึดทรัพย์สินจำนวน 76,621,603,061.05 บาท ที่คนในครอบครัวชินวัตรได้รับจากการขายหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "ชินคอร์ป" จากกลุ่มเทมาเส็ก ตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 80 หลังจากพบหลักฐานชัดเจนว่า ระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ได้คงถือครองหุ้นชินคอร์ปไว้ และใช้อำนาจหน้าที่ สั่งการมอบนโยบาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐ ภายใต้การบังคับบัญชา หรือกำกับดูแล อันเป็นการเอื้อประโยชน์ ให้แก่บริษัทชินคอร์ป และบริษัทในเครือ

        นายสัก กล่าวต่อว่า เมื่อได้ประกาศใช้บังคับ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2549 ได้ขายหุ้นให้กับกลุ่มเทมาเส็ก รวมจำนวนเงิน 7.6 หมื่นล้านบาท เงินจำนวนนี้จึงถือเป็นทรัพย์สินที่ได้มาเนื่องจากการกระทำที่ขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล และประโยชน์ส่วนรวม และเป็นกรณีได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควรสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ 

         "คตส.จึงมีมติส่งรายงาน เอกสาร หลักฐานพร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป รวมถึงรายละเอียดรายการทรัพย์สินที่ คตส.มีคำสั่งอายัดไว้ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 รวมจำนวนเงินทั้งหมด 6.2 หมื่นล้านบาทด้วย คาดว่าจะสามารถจัดส่งให้อัยการสูงสุดได้ภายในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ส่วนมูลคดีอาญาของผู้เกี่ยวข้องที่ตรวจสอบพบนั้น เห็นสมควรให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาโดยเร็ว" นายสัก กล่าว


ข้อมูลจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มติเอกฉันท์ยึดทรัพย์ ทักษิณ 7.66 หมื่นล้าน โพสต์เมื่อ 27 พฤษภาคม 2551 เวลา 10:53:57 14,885 อ่าน
TOP