สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ม็อบพันธมิตรฯ เรือนหมื่นปักหลักเชิงสะพานมัฆวานฯ "จำลอง" ประกาศเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่จะต้องเอาชนะ เผยรัฐเตรียมงัดกฎหมายความมั่นคงจับ 5 แกนนำ
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งปักหลักชุมนุมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทศักราช 2550 ที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ มาตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ต่อเนื่องเช้าวันจันทร์ ยังคงรวมกลุ่มกันเหนียวแน่น มีการเตรียมเต็นท์สนามไว้ถึง 62 หลัง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดถนนราชดำเนินนอกทุกช่องจราจรตั้งแต่แยกมิสกวันจนถึงแยกกองทัพบก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบยังคงตรึงกำลังอยู่นับร้อยเช่นกัน
ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำขึ้นปราศรัยว่า ตนมีความชำนาญบนถนนสายนี้มากกว่าตำรวจที่มาเฝ้าดู ซึ่งนี่จะเป็นการสู้ครั้งสุดท้ายที่จะต้องเอาชนะ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนรักษาแนวทางให้ดี และเมื่อตำรวจแทรกเข้ามาในกลุ่มก็ให้เชิญออกไป และหากตำรวจลุยเข้ามาก็จะสู้
พร้อมกันนี้ พล.ต.จำลอง ยังได้กล่าวกับผู้ร่วมชุมนุมว่า มีข่าวด่วน นายทหารคนหนึ่งโทรศัพท์มาหา และแจ้งว่ารัฐบาลเตรียมจะใช้กฎหมายรักษาความมั่นคงภายในจัดการกับ 5 แกนนำ และจะเอาเข้าคุกให้ได้
ทันทีที่ทราบข่าวดังกล่าว ศ.ระพี สาคริก ราษฎรอาวุโส เขียนจดหมายให้กำลังใจแกนนำพันธมิตรฯ ระบุว่า "ผมได้ข่าวว่าจะมีการสั่งจับแกนนำทั้ง 5 คน ทำให้รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ถ้าข่าวนี้เป็นความจริง คงเกิดจากคนที่หลงอำนาจ ทำให้ไม่สามารถมองปัญหาไกลกว่าปลายจมูกตัวเอง
"มันเคยมีตัวอย่างมาแล้วในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา ซึ่งขณะนั้นเรามีหน่วยเสรีไทย ญี่ปุ่นเคยสั่งจับหัวหน้าเสรีไทย แต่แล้วนายพลญี่ปุ่นคนหนึ่งได้ทักท้วงเอาไว้ ทำให้ต้องยกเลิกคำสั่งกะทันหัน พ่อตาผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยถูกสั่งจับตัวด้วย คำสั่งดังกล่าว ถ้าหากมีจริงคนที่ยังไม่ได้มาร่วมจะลุกฮือทั้งประเทศ เหตุการณ์ 14 ตุลาคม เกิดขึ้นก็เพราะเหตุนี้ ไม่เชื่อก็ลองถามคุณธีรยุทธ บุญมี ดู ผมไม่อยากเห็นเหตุการณ์ที่รุนแรงยิ่งกว่านี้ เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ถ้าคนที่ถือพุทธอย่างแท้จริงจะไม่หลงอำนาจ เหตุการณ์ครั้งนี้คงแก้ไขได้ไม่ยาก"
ยังมีหนังสือให้กำลังใจจาก รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย รองศาสตราจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุตอนหนึ่งว่า "การต่อสู้ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของชาวพันธมิตรฯ จะไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่เป็นการตีงูให้กากิน แล้วก็เกิดเป็นวงจรอุบาทว์ใหม่ ที่สลับกันครองอำนาจระหว่างเผด็จการทหารไร้น้ำยาไร้วิสัยทัศน์ กับเผด็จการรัฐสภาสามานย์ เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้ของชาวพันธมิตรฯ จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อทำลายวงจรอุบาทว์อันนี้เสีย แล้วเปิดทางให้กับการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ได้บังเกิดขึ้นกับสังคมนี้จริงๆ"
ด้าน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.จำลอง กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่ามีทหารนายหนึ่งมาบอกว่ารัฐบาลจะใช้กฎหมายรักษาความมั่นคงภายใน นั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้นายสมัครปฏิเสธว่ายังไม่ได้คิด
"ผมก็ไม่เคยคาดคิดว่าอยู่ดีๆ จะมีเหตุการณ์แบบนี้ออกมา ผมก็หวังในใจว่าประชาชนทั้งบ้านเมืองคงจะเห็นว่าใครเป็นคนทำให้บ้านเมืองเสียหายไม่มีเหตุผล"
พร้อมกันนี้ นายสมัคร ยังขอให้พันธมิตรฯ รอการลงประชามติว่าใครแก้หรือไม่แก้ รอก่อนว่าจะแก้หรือไม่แก้ รอไม่ได้หรือ 45 วัน มันมีเหตุผลอยู่แล้วว่าจะลงประชามติหากเสียงส่วนใหญ่ทั้งประเทศไม่แก้เขาก็ไม่แก้ หากเสียงส่วนใหญ่แก้กลุ่มพันธมิตรฯ จะว่าอย่างไร
"ผมก็ไม่อยากให้ใครมาชี้หน้าด่าผมว่าเป็นเผด็จการ ฉะนั้น ตำรวจมีหน้าที่ต้องจัดการต่อไป ผมบอกได้เพียงว่าวันนี้ที่เสียใจคือท่านทูต3 ประเทศบอกว่าจะมีนักธุรกิจมาลงทุนภายในสัปดาห์หน้า หากเป็นแบบนี้แล้วจะให้ทำอย่างไร" นายกฯ ย้ำ
ข้อมูลจาก
