สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ที่บ้านพักเมืองทองธานี นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช แถลงข่าวกรณีสมาชิกรัฐสภาเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า วิกฤติของบ้านเมืองในขณะนี้เรื่องข้าวยากหมากแพง ไม่ใช่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ประสานกับผู้ใหญ่หลายคนในพรรคพลังประชาชน รวมถึง "นายเก่า" ของพรรคไทยรักไทย ได้รับการยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกรณีเสนอญัตติดังกล่าว และขอยืนยันด้วยประสบการณ์การเมืองกว่า 30 ปี ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ เชื่อว่าที่สุดแล้ว ส.ส. จะทยอยถอนชื่อจนญัตติดังกล่าวตกไปแน่นอน
"มันเป็นเรื่องของ ส.ส. บางกลุ่มอยากจะเอาใจนาย โดยไม่ดูเหตุผลว่ามันทำไม่ได้ ถามว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาลมีใครรู้บ้าง แม้แต่พี่บรรหาร (นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย) ก็ไม่รู้ จึงถูกต้องที่จะออกมาโวยวาย แม้แต่ผมก็ไม่ได้รับการประสานในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเหมือนกับตอนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และคนที่ออกมานั่งแถลงเรียงกันยังไม่เห็นมีใครที่จะมีศักยภาพทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ ดูแล้วมีผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือพอมีศักยภาพทำงานใหญ่ได้บ้างไหมถึงจะมาวางกติกาของประเทศ"
"ผมไม่ได้ดูถูก แต่รู้ดีว่าแต่ละคนศักยภาพมีมากน้อยแค่ไหน หรือใครไหว้วานให้ทำหรือไม่ ผมเอาหัวเป็นประกันว่าเรื่องนี้ทำไม่ได้หรอก และไม่มีทางผ่านรัฐสภาแน่นอน เพราะแม้แต่ในพรรคพลังประชาชนเท่าที่ถามดูมีไม่น้อยกว่า 50 คน ที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนพรรคร่วมไม่ต้องพูดถึง หากยังเดินหน้าต่อก็ขายหน้า ไม่มีทางผ่าน และผมจะเป็นคนหนึ่งที่จะลุกขึ้นมาอภิปราย" นายเสนาะกล่าว
เมื่อถามว่า "นายเก่า" พรรคไทยรักไทยที่คุยด้วยหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่ นายเสนาะตอบว่า เอาเป็นว่าตรงหรือตรงไม่รู้ แต่ถึงแม้ไม่ได้คุยโดยตรงก็เป็นคนที่เหมือนคุยตรงก็แล้วกัน คนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่โง่หรอก ถ้าดึงดันทำท้ายที่สุดปัญหาก็ไปลงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอนที่นั่งกินข้าวกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ครั้งล่าสุดนายสมัครก็บอกว่าไม่แก้รัฐธรรมนูญ ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกัน ตอนนี้เขาพอใจแล้วที่ได้กลับบ้านมาต่อสู้คดีในประเทศไทย แค่นี้ก็สาธุแล้ว
นายเสนาะกล่าวว่า ต้องให้ทุกฝ่ายร่วมหารือและให้มาจับเข่าคุยกัน ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 40 อะไรเป็นปัญหาก็แก้ ส่วนรัฐธรรมนูญปี 50 ตรงไหนที่เห็นลิดรอนสิทธิที่ไม่เป็นธรรมก็แก้ แต่ในยามวิกฤติอย่างนี้ยังไม่ควรนำเรื่องรัฐธรรมนูญมาพูด อยากให้เคี่ยวเข็ญรัฐบาลแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจดีกว่า
เมื่อถามว่านายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว บุตรชายนายเสนาะ ได้ร่วมลงชื่อในญัตติเสนอแก้รัฐธรรมนูญด้วย นายเสนาะตอบว่า เป็นชื่อที่ลงไว้ในการหารือในฐานะวิปรัฐบาลว่าจะร่างหรือไม่ร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ไม่ได้เคยไปร่วมลงชื่อในญัตติ และทันทีที่นายสรวงศ์เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์หน้า จะมีการถอนชื่อออกจากญัตติแน่นอน
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
