ส.ส.ชาติไทยยื่น จ.ม. เปิดผนึกถึงนายกฯจี้ปรับ "จักรภพ" พ้นครม. ชี้พฤติกรรมกระทบความรู้สึกปชช. ส.ส.พปช.ข้องใจพรรคร่วมไม่ประสานก่อน "ณัฐวุฒิ" ปัดข่าวอดีตนปก. นัดหารือ เผยอาจลาหยุดพักต่ออีก "จตุพร" โต้ "มาร์ค" ชี้ "นายกฯ ม.7" อันตรายกว่า ตั้งทีมงานตามข่าวเตรียมฟ้องหมิ่น
นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี รองเลขาธิการพรรคชาติไทยได้ทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เรียกร้องให้นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีพร้อมทั้งไม่เห็นด้วยกับการใช้เงิน 2,000 ล้านไปทำประชามติ โดยจดหมายเปิดผนึกมีใจความสำคัญว่า เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและตระหนักว่าการแสดงออกบางครั้งบางเรื่องต้องระมัดระวังมิให้เกิดความระแวงและขัดแย้งกัน แต่ก็ไม่อาจละเลยต่อภารกิจที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน เสถียรภาพของชาติย่อมอยู่เหนือกว่าเสถียรภาพของรัฐบาล
"โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ซึ่งอยู่คู่กับประเทศเรามา ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยทั้งชาติ ดังนั้นการกระทำของรัฐมนตรีที่อยู่ร่วมในรัฐบาลโดยการนำของนายสมัคร แม้ว่าจะยังไม่ได้ข้อยุติในกระบวนการยุติธรรมก็ตาม พฤติกรรมเยี่ยงนี้ก็กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง"
"สมควรที่จะเร่งแสดงออกให้สังคมได้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่านายกฯมีความจงรักภักดีอย่างยิ่งยวดและปฏิบัติตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ โดยการให้นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถอยออกมาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก่อนด้วยการลาออก น่าจะดีที่สุดเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น หรือการปรับออก แสดงให้เห็นว่ามิได้พยายามปกป้องผู้กระทำดังกล่าว น่าจะส่งผลดีต่อทั้งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและนายกรัฐมนตรีแน่นอน แม้ว่าภายหลังจะมีคำพิพากษาว่ามิได้กระทำผิด ก็จะมีแต่ได้รับการยกย่องและมีความสง่างามเพิ่มขึ้น" ใจความจดหมายระบุ
ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีให้ปรับนายจักรภพออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ว่า เป็นสิทธิที่ ส.ส.หรือประชาชนคนไทยจะทำได้ เพราะทราบว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทางพรรคชาติไทย เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว แต่ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะทำอะไรก็ควรถามในพรรคก่อนแล้วทางพรรคก็ประสานให้ เพราะการทำอะไรเดี่ยวๆ อย่างนี้ ไม่รู้ว่าทางพรรคชาติไทยจะคิดอย่างไร ซึ่งตนไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะในพรรคชาติไทยนั้นลูกพรรคพูดไปทาง หัวหน้าพรรคพูดไปอีกทาง
ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล วันเดียวกัน ถึงกระแสข่าวแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) นัดหารือกับนายจักรภพ เพื่อเตรียมการดีเบตกับตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ว่า แกนนำ นปก.ไม่ได้มีการนัดหมายที่จะพบกับนายจักรภพแต่อย่างใด รวมทั้งยังไม่ได้หารือกันว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับการแถลงของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทั้งประเด็นเรื่องคำแปลและการดีเบต ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ดุลพินิจของนายจักรภพ
"คำแปลของพรรคประชาธิปัตย์และของนายจักรภพ เป็นธรรมดาที่จะแตกต่างกัน เพราะทั้งสองฝ่ายเห็นไม่ตรงกันมาตั้งแต่ต้น แต่คนที่จะประเมินในเรื่องนี้ก็คือประชาชนที่ติดตามข่าว ซึ่งจะได้เปรียบเทียบคำแปลการให้ความหมายในแต่ละชุดเพื่อใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ส่วนประเด็นทางกฎหมายนั้นทางตำรวจก็ได้แปลไว้ชุดหนึ่งแล้ว และสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดบรรยายในวันนั้นไว้บ้างแล้ว ขณะนี้นายจักรภพกำลังอยู่ระหว่างการพักงานตามที่ได้ยื่นใบลาไว้กับนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 2 มิถุนายน หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงเช่น มีภารกิจเร่งด่วนก็อาจจะขอยกเลิกวันลาและกลับมาทำงานตามปกติก่อน หรืออาจจะเห็นว่าผ่านไป 7 วัน ยังมีข้อกังขาอยู่หรือทางเจ้าหน้าที่ยังดำเนินงานอยู่ก็อาจจะขอขยายเวลาการลาอีก
ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พปช. ในฐานะอดีตแกนนำ นปก. กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. แถลงตอบโต้นายจักรภพโดยยืนยันว่ามีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่า หาก ปชป.และนายอภิสิทธิ์เห็นว่านายจักรภพทำผิดกฎหมายก็ควรแจ้งความดำเนินคดี ส่วนที่ระบุว่านายจักรภพมีทัศนคติที่เป็นอันตรายนั้น ถือว่านายอภิสิทธิ์กล่าวหาโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม
"การที่ ปชป.เรียกร้องความรับผิดชอบนั้น เห็นว่าที่ผ่านมา ปชป.ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรต่อสังคมเลย ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ดิน ส.ป.ก.4-01 หรือการขอนายกฯตามมาตรา 7 ที่ถือว่ามีทัศนคติที่อันตรายมากกว่า ฉะนั้นอย่ามาเรียกร้องมาตรฐานทางการเมืองเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ถ้าตัวเองไม่มีมาตรฐานเช่นนี้" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพรกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตกลงกันว่านายจักรภพจะไม่มีการพูดอะไรในระยะเวลา 7 วันที่ขอลาพักเป็นช่วงของการตั้งหลัก เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแสนสาหัสในชีวิต ข้อกล่าวหาเช่นนี้คนไทยถ้าใครโดนไม่มีความสุขหรอก แต่นายจักรภพก็มีฝ่ายกฎหมายที่จะคอยมอนิเตอร์ติดตามข่าวตลอดเพื่อที่จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่หมิ่นประมาท เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของตัวเอง แต่หากครบกำหนด 7 วัน จะเข้าทำงานตามปกติและจะมีการแถลงอนาคตทางการเมืองอีกครั้ง
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค ปชป. กล่าวถึงกระแสข่าวนายทหารชั้นผู้ใหญ่มีความคิดเห็นต่อกรณีการพูดหมิ่นเหม่ต่อสถาบันของนายจักรภพว่ารู้สึกไม่ดีและไม่อยากร่วมสังฆกรรมด้วย ว่า ชัดเจนแล้วว่าทหารที่เป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ย่อมมีความรู้สึกรับไม่ได้กับบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวล่วงสถาบัน ซึ่งแน่นอนว่าประชาชนคนทั่วไปก็คงรับไม่ได้ ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้นายจักรภพคงทนกระแสสังคมไม่ได้ และลาออกในที่สุด เพราะแม้แต่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ปล่อยวาง ไม่สนใจ จึงไม่อยากให้นายจักรภพซื้อเวลา เพราะอย่างไรก็ตาม กระแสสังคมคงไม่ลดไปกว่านี้
นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีพรรคชาติไทยทำจดหมายเปิดผนึกให้นายจักรภพลาออกว่า ขอให้ทำด้วยความจริงใจ ไม่ใช่การสร้างภาพ หรือตีกันทางการเมือง และพรรคชาติไทยควรจะออกมาระบุว่า หากนายจักรภพไม่แสดงความรับผิดชอบ พรรคชาติไทยจะทำอย่างไร จะยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เช่นเดียวกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่มักแสดงตัวเป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง แต่ไม่บอกว่าถ้าไม่ทำตามแล้วจะทำอย่างไร
รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยแจ้งว่า เหตุผลที่นายณัฐวุฒิออกมาเคลื่อนไหวยื่นหนังสือเปิดผนึกกดดันให้นายจักรภพลาออก และการแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยให้มีการทำประชามติ คู่ขนานกับการเร่งร้อนแก้รัฐธรรมนูญนั้น เป็นเพราะได้รับสัญญาณไฟเขียวจากนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ลอยตัวจากเงื่อนไขของห้วงเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะขั้นตอนต่างๆ ของพรรคชาติไทย ขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
"อีกทั้งเป็นการแสดงการตอบโต้จากกรณีที่พรรคชาติไทยไม่ได้รับความสำคัญ และมีบทบาทจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ใน 2 กรณีคือ การประสานการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และกรณีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีปัญหาในพรรคกับนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย ซึ่งรายงานข่าวระบุด้วยว่าเงื่อนไขดังกล่าวนี้มีผลต่อการต่อรองขอเสียงสนับสนุน 315 เสียง ในส่วนของพรรคชาติไทย ตามขั้นตอนขอเสียงการแก้รัฐธรรมนูญในการรับวาระหลักการแรก ตามมาตรา 291" แหล่งข่าวระบุ
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ได้รับสำนวนการยื่นถอดถอนนายจักรภพออกจากตำแหน่งแล้ว โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ส่งเอกสารมาให้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวบรรจุระเบียบวาระการประชุม ป.ป.ช. ในวันที่ 5 มิถุนายน เพื่อเสนอให้ที่ประชุมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ไม่รู้สึกหนักใจอะไร แม้จะเป็นคดีของนักการเมืองดังก็ตาม
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณเคยบอกว่า หากนายจักรภพไม่สามารถชี้แจงเรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาตัวเอง ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
