คนโดยสารอ่วม! รถ บขส. - เครื่องบิน พร้อมใจขึ้นราคา

         หลังจากที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2550 ให้ระงับมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ที่ให้มีการปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียม และค่าบริการของรถบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) และรถร่วม บขส. เป็นการชั่วคราวนั้น

         ล่าสุดเมื่อวานนี้(11 มิ.ย.) ที่ศาลปกครอง ถนนสาทรใต้ ศาลปกครองสูงสุดโดยนายธงชัย ลำดับวงศ์ ตุลาการปกครองสูงสุดเจ้าของสำนวน มีคำสั่งยกคำขอคุ้มครองชั่วคราว คดีดำหมายเลขที่ 1934/2550 ที่นายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ ยื่นฟ้องคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง และ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 ออกคำสั่งโดยมิชอบกรณีที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ควบคุมการขนส่งทางบกกลาง มีมติวันที่ 9 ตุลาคม 2550 เห็นชอบให้ขึ้นค่าโดยสารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) - รถร่วม ขสมก. ที่เป็นรถมินิบัสเมล์ร้อน 50 สตางค์ต่อเที่ยว รถปรับอากาศระยะทางละ 1 บาทต่อเที่ยว, รถบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) - รถร่วม บขส. กิโลเมตรละ 3 สตางค์ ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวการบังคับมติของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง

         ทั้งนี้ ผู้ถูกฟ้องได้ยื่นอุทธรณ์โดยอ้างค่าธรรมเนียมโดยสภาพของรถปรับอากาศ ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายในเชิงบริการแก่ประชาชนเท่านั้น แต่เป็นต้นทุนการเดินรถ ซึ่งเมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจึงกระทบต้นทุนค่าโดยสารและค่าธรรมเนียมด้วย ศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้ว เบื้องต้นยังไม่มีเหตุอันควรเชื่อว่ามติของผู้ถูกฟ้องที่ 1 น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีจึงไม่เข้าองค์ประกอบที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับมติขึ้นค่าโดยสาร จึงมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น โดยให้ยกคำขอทุเลาการบังคับมติขึ้นค่าโดยสารในส่วนเป็นค่าธรรมเนียมและค่าบริการ

         ด้านนายวิโรจน์ วงศ์ธีเรศ เลขาธิการสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย กล่าวว่า ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้จะเข้าพบนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เพื่อแจ้งคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คาดว่าจะสามารถปรับขึ้นค่าธรรมเนียมรถร่วม บขส.ได้วันที่ 12 หรือ 13 มิถุนายนนี้ สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมรถร่วมปรับอากาศ บขส.มีตั้งแต่อัตราร้อยละ 40-180 ของค่าโดยสารตามประเภทของรถ

         ขณะที่นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายนเป็นต้นไป การบินไทยจะปรับค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเส้นทางบินในประเทศ และเส้นทางบินต่างประเทศ เพิ่มขึ้นกว่า 70% เนื่องจากไม่สามารถทนแบกรับภาระต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ โดยเส้นทางบินในประเทศจะปรับค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 100 บาท/เส้นทาง/เที่ยว/คน จากเดิม 750 บาท เป็น 850 บาท ยกเว้นเส้นทางเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน จะเรียกเก็บในอัตราเดิมคือ 600 บาท

         ส่วนเส้นทางระหว่างประเทศปรับขึ้นหมด เช่น เส้นทางระหว่างไป-กลับ ฮ่องกง-ไทเป เส้นทางระหว่างไป-กลับ ฮ่องกง-ไทเป จะเรียกเก็บ 60 เหรียญสหรัฐต่อเที่ยวบิน หรือประมาณ 1,980 บาท กรุงเทพฯ-สิงคโปร์, กัวลาลัมเปอร์ เรียกเก็บ 75 เหรียญสหรัฐต่อเที่ยวบิน หรือประมาณ 2,475 บาท เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ- โตเกียว, โอซาก้า, นาโกยา,  ฟูกูโอกะ, โซล, ปูซาน เรียกเก็บ 152 เหรียญสหรัฐต่อเที่ยวบิน หรือประมาณ 5,016 บาท เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ลอนดอน, ปารีส, มาดริด เรียกเก็บ 230 เหรียญสหรัฐต่อเที่ยวบิน หรือประมาณ 7,590 บาท และเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-นิวยอร์ก และลอสแองเจลิส เรียกเก็บ 281 เหรียญสหรัฐต่อเที่ยวบิน หรือประมาณ 9,273 บาท





ข้อมูลจาก

ภาพประกอบจาก เว็บไซต์กรุงปุ่น