ยกย่องแท็กซี่ ช่วยลูกตามหาพ่อ ตาบอด จนเจอ

ยกย่องแท็กซี่ คนดีศรีสังคม ช่วยลูกตามหาพ่อตาบอดจนเจอ

         ใครต่อใครจะมองว่าสังคมเลวร้ายและเสื่อมลง ผู้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น ต่างคนต่างอยู่ หาคนมีน้ำใจยาก โดยเฉพาะในชุมนุมเมืองที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ทั้งหมดนี้คือ "สำนึก" ที่สังคมเรียกร้องและต้องการ แต่จะมีสักกี่คนที่ลงมือทำถึงอย่างไรสังคมยังไม่สิ้นไร้คนดี

         เหตุการณ์ความวุ่นวายของสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น แทบจะไม่มีใครสนใจใคร ทุกคนดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ทว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่กระจายอยู่ทั่วไปตามชุมชนเมือง ที่คอยให้บริการรับส่งลูกค้าอยู่เป็นประจำ "แท็กซี่" อาชีพที่ได้รับการยกย่องว่ายังมี "คนดีเหลืออยู่"

         จากเหตุการณ์ที่ได้รับการยกย่องเพื่อส่งเสริมให้คนทำดี จากกรณีที่ นายสุทัศน์ สุขมั่น อายุ 34 ปี โชว์เฟอร์แท็กซี่ ที่ช่วยติดตามหาพ่อที่ตาด้านขวาเป็นต้อและมีอาการหลงๆ ลืมๆ จนได้พบลูกชาย หลังจากที่ได้ฟังวิทยุ สวพ.เอฟเอ็ม 91 ประกาศขอความช่วยเหลือและบังเอิญไปเจอ จึงได้ช่วยเหลือ จนได้รับโล่เชิดชูเกียรติแท็กซี่ ใจงาม จาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกองทัพบก 

         นายสุทัศน์ เล่าถึงเหตุการณ์ช่วยเหลือพ่อจนเจอลูกว่า หลังจากที่ได้รับทราบข้อมูลจากนายโอภาส เอี่ยมวัฒน์ ว่า นายเอนก เอี่ยมวัฒน์ อายุ 80 ปี ดวงตาด้านขวาเป็นต้อ มองเห็นข้างเดียว มีอาการหลงๆ ลืมๆ เกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างนายโอภาสและนายเอนก โดยพ่อนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างออกจากหมู่บ้านแล้วหายไปเลย พยายามติดตามหลายแห่งแล้วแต่ไม่พบ พร้อมทั้งบอกรูปพรรณสันฐาน

         ขณะนั้นชายคนดังกล่าวก็ปรากฎขึ้นตรงหน้ากำลังรอรถประจำทาง จึงได้ลงไปคุยด้วยและต่อสายโทรศัพท์ให้คุยกับลูกชาย แต่นายเอนกกลับเดินขึ้นรถประจำทางสาย 19 ไป 

         นายสุทัศน์ ได้ขับรถตามรถประจำทางไปและเรียกให้ลงจากรถประจำทางพร้อมทั้งประสานไปยัง สวพ.เอฟเอ็ม 91 กับ สน.จร.บางกอกใหญ่ พาไปพักที่โรงพัก จนกระทั่งนายโอภาสผู้เป็นลูกเดินทางมารับพ่อด้วยตัวเอง 

         นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่คนขับแท็กซี่กลายเป็นอัศวิน เช่นเหตุการณ์ช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกกระชากกระเป๋า เก็บของมีค่าแล้วนำคืนเจ้าของ มีทั้ง เงินสด เช็ค สิ่งของมีค่ามูลค่ารวมกันนับล้านบาท 

         ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรับมนตรี ร่วมกับคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ที่จัดโครงการ "ส่งเสริมคนดีศรีสังคม" แก่ผู้กระทำความดีเป็นครั้งที่ 2 โดยมอบรางวัล "คนดีศรีสังคม" ในด้านต่างๆ ดังนี้ 

 1) ความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากด้วยการอุทิศตนช่วยเหลืออย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน ผู้ที่ได้รับรางวัล ได้แก่

         1. นายสุทัศน์  สุขมั่น อายุ 34 ปี คนขับแท็กซี่ซึ่งช่วยติดตามหาพ่อที่ตาขวาเป็นต้อและมีอาการหลงๆ ลืมๆ จนได้พบลูกชาย

         2. นายเสนอ  อินทะรังสี อายุ 47 ปี ผู้ช่วยเหลือคนขับรถยนต์ที่เสียหลักพุ่งชนกำแพงบนทางด่วน จนตนเองถูกรถยนต์คันอื่นชนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนพิการเป็นอัมพาตช่วงหน้าอกลงมา

         3. นายธเนตร  สุทธิวงศ์ อายุ 38 ปี พนักงานบริษัทช่วยเหลือเด็กหญิงป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโครมตามหาพ่อจนพบ 

 2) ผู้ที่แสดงออกซึ่งการปกป้องพิทักษ์สังคมด้วยความกล้าหาญเสียสละ โดยไม่เกรงกลัวต่อภยันตราย มี 3 คน คือ

         1.นายประสิทธิ์  ช้างพุก อายุ 33 ปี คนขับแท็กซี่ที่ช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกกระชากสร้อยโดยกระโดดถีบรถยนต์คนร้ายจนล้มทำให้จับคนร้ายได้

         2. นายโสภณ  จินดาทิพย์ อายุ 33 ปี

         3. นายสุพจน์ พุ่มประเสริฐ อายุ 32 ปี ได้ช่วยกันติดตามจับผู้ร้ายที่กระชากกระเป๋าผู้หญิง

 3) ผู้ที่แสดงออกถึงความซื่อสัตย์ สุจริต เช่น ไม่ยักยอกหรือนำเอาทรัพย์สินซึ่งมีค่าของผู้อื่นมาเป็นของตน ทั้งๆที่มีโอกาสจะกระทำได้ มี 10 คน คือ 

         1. นายมานิต  วงศ์บุญธรรม อายุ 48 ปี 

         2. นายจอเบ๊ะวา  จรัสศรีสุข อายุ 48 ปี 

         3. น.ส.บวร  ปะชาติ อายุ 35 ปี 

         4. นายอำนาจ  เกือมรัมย์ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่รับบริจาคของวัดสวนแก้วได้นำเงินสดจำนวนกว่า 1 ล้านบาท ทองรูปพรรณ พระเลี่ยมทอง ที่ซุกไว้ใต้เตียงผู้บริจาคมอบให้กับพระพยอมเพื่อตามหาเจ้าของ 

         5. นายจำเริญ  ลุนทอ อาบุ 55 ปี คนขับแท็กซี่เก็บโทรศัพท์มือถือเกือบ 50 เครื่อง มูลค่ากว่า 2.3 ล้านบาทคืนเจ้าของ  

         6. นายตุ๋ย  คำโน่นม่วง อายุ 45 ปี คนขับแท็กซี่เก็บเพชรมูลค่ารวมกว่า  2 แสนบาท คืนเจ้าของชาวต่างชาติ 

         7. นายธธนันท์ชัย กีรติพัฒนวงศ์ อายุ 54 ปี คนขับแท็กซี่เก็บเงินสดนักธุรกิจชาวกาน่าได้จำนวนกว่า 2 แสนบาท (รวมเช็คประมาณ 10 ล้านบาท) ที่ลืมไว้ในปั้มน้ำมันเจ็ทคืนเจ้าของ  

         8. นางมังกร  ยัดไธสง อายุ 46 ปี คนขับแท็กซี่เก็บเงินสดกว่า 3 หมื่นบาทพร้อมเหรียญที่ระลึกขุนพันธรักษ์ราชเดชจตุคามรามเทพที่ลืมไว้บนรถส่งคืนเจ้าของ  

         9. เด็กหญิงบุลพร วงศ์ภาณุวัฒน์ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 เก็บเงินสดตำนวนกว่า 1 แสนบาทคืนเจ้าของ  

         10. นายหรั่ง วัง ทุมมา อายุ 34 ปี คนขับแท็กซี่เก็บเงินสดจำนวนกว่า 4 แสนบาท ที่ลืมไว้บนรถส่งคืนเจ้าของชาวญี่ปุ่น

         ทีมงานกระปุกดอทคอมขอเป็นกำลังใจให้คนทำดีต่อไปค่ะ



ข้อมูลจาก
 
ภาพประกอบจาก ladinaclub.com