สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
เมื่อวานนี้ (11 มิถุนายน) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่จับปลาประหลาดลักษณะส่วนหัวเหมือนปลาช่อนแต่จะมีหนวดสั้นๆ คล้ายกับเขางอกออกมาบริเวณมุมปากทั้งสองข้าง ลักษณะโดยรอบของลำตัวจะคล้ายกับปลาดุก คือจะมีหนังสีดำหุ้มโดยรอบ ลำตัวไม่มีเกล็ด ส่วนขนาดลำตัวจะมีขนาดยาวกว่าปลาดุกทั่วไป และที่น่าแปลกใจคือปลาประหลาดชนิดนี้สามารถพองหัวได้เหมือนคางคก เวลาที่พองหัวจะมีลักษณะคล้ายกับงูเห่าแผ่แม่เบี้ย
จึงเดินทางไปถึงยังบ้านเลขที่ 2/2 ถนนราษฎร์อุทิศ ซึ่งเป็นบ้านของ นายวิทยา วงค์ชมพู อายุ 52 ปี เจ้าของปลาประหลาด พบชาวบ้านกว่า 10 รายยืนจับกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของปลาประหลาดอยู่ บ้างก็ว่าเป็นปลามังกร บ้างก็ว่าเป็นพญานาค เนื่องจากบริเวณส่วนหัวเหมือนปลาแต่มีลำตัวยาวคล้ายกับงู
นายวิทยา เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของปลาประหลาด เล่าว่า เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนได้ออกไปยกไซดักปลาบริเวณแม่น้ำปิงตามปกติ แต่ที่น่าประหลาดใจคือไซที่นำไปวางดักปลาอันหนึ่ง สามารถดักจับปลาประหลาดที่ตนเองไม่เคยพบเห็นมาก่อนได้ ซึ่งปลาประหลาดชนิดนี้จะมีลักษณะคล้ายกับปลาหลายชนิดผสมกับงูและปลาไหล ตนจึงตัดสินใจนำปลาชนิดนี้มาเลี้ยงไว้ที่บ้าน และเมื่อนำไปให้ผู้เฒ่าผู้แก่ดูก็ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ซึ่งอาจจะเป็นปลาสายพันธุ์ใหม่ หรือไม่ก็เป็นปลาสายพันธุ์หายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งการที่ตนเป็นผู้พบเจออาจจะเป็นโชคชะตาก็เป็นได้ และภายหลังจากที่ตนได้นำปลาประหลาดชนิดนี้มาเลี้ยงไว้ที่บ้าน ไม่มีเหตุการณ์ประหลาดเหนือธรรมชาติใดๆ เกิดขึ้น จะมีก็เพียงแต่ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งได้ทราบข่าวแห่มาขอชมอย่างไม่ขาดสาย
ทางด้านนายธงชัย ธรรมเสถียร ประมงจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ลักษณะของปลาประหลาดที่กล่าวมาน่าจะเป็นปลาไหลสายพันธุ์ออสเตรเลียที่เราเรียกกันว่า ปลาตูหนา หรือ ปลาตะแงะ ซึ่งปลาชนิดนี้จัดเป็นปลาทะเลแต่สามารถที่จะอาศัยอยู่ในน้ำจืดได้ โดยทั่วไปปลาชนิดนี้จะนิยมวางไข่ในทะเลพอโตกลายเป็นตัวอ่อนก็จะว่ายมาอยู่ในน้ำจืด ซึ่งในประเทศไทยสามารถพบปลาชนิดนี้ได้มากที่แม่น้ำปาย แม่น้ำสาละวินในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และแม่น้ำทางใต้ที่มีอาณาเขตเชื่อมต่อกับทะเลในแถบอันดามัน เมื่อปลาชนิดนี้โตเต็มที่จะมีความยาวตั้งแต่ 70 เซนติเมตรไปจนถึง 1.5 เมตร ไม่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศทางน้ำและไม่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังสามารถที่จะนำมาประกอบเป็นอาหารรับประทานได้
"ทั้งนี้ ทางประมงจังหวัดเตรียมที่จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพิสูจน์ให้แน่ใจอีกครั้งว่าเป็นปลาตูหนา หรือปลาตะแงะ จริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยได้ยินว่ามีการค้นพบปลาชนิดนี้ในจังหวัดเชียงใหม่เลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนข้อสันนิษฐานเบื้องต้นน่าจะมีคนน้ำไปปล่อยลงในแม่น้ำ มากกว่าที่ปลาชนิดนี้จะว่ายน้ำขึ้นมาเองเพราะระยะทางจากทะเลมาจนถึงแม่น้ำปิงมีระยะทางค่อนข้างไกล" นายธงชัย กล่าว
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
