สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก rpst-digital.org
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน นายอรุณศักดิ์ โอชารส ประธานสมัชชาประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยแกนนำสมัชชาจำนวนหนึ่ง พากันถือป้ายเดินรณรงค์ไปตามถนนทุกสายในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ป้ายระบุข้อความว่า ปี 2505 ประเทศไทยเสียปราสาทเขาพระวิหาร ปี 2551 ประเทศไทยต้องไม่เสียดินแดนอีก กัมพูชาต้องรื้อถอนร้านค้าและวัดออกไปจากเขตประเทศไทยทันที นอกจากนี้ ยังตะโกนขับไล่ชาวกัมพูชาให้รื้อถอนบ้านเรือนและวัด ออกไปจากเขตแดนประเทศไทยบริเวณเชิงเขาพระวิหารด้วย ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชน ที่พากันมาพูดคุยสอบถามข้อมูลจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายอรุณศักดิ์ กล่าวว่า ตามคำพิพากษาของศาลโลก เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 ไทยต้องเสียปราสาทเขาพระวิหารไปเป็นของประเทศกัมพูชา แต่ไม่ได้หมายความว่าเสียเขาพระวิหารทั้งลูก เนื่องจากบันไดหินทางขึ้นเขาพระวิหารขั้นที่ 162 ลงมาเป็นดินแดนของประเทศไทย แต่ปรากฏว่ามีชาวกัมพูชาประมาณ 500 คน พร้อมด้วยกำลังทหารลงมายึดครองดินแดนไทย ปลูกสร้างบ้านเรือนและร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึกมานานหลายปีแล้ว โดยที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ได้ผลักดันให้ชาวกัมพูชาเหล่านั้นออกไปจากเขตแดนไทยแต่อย่างใด
"พวกผมจึงร่วมใจกันเดินรณรงค์ เพื่อปลุกชาวศรีสะเกษให้ลุกฮือขับไล่ชาวกัมพูชา ให้รื้อบ้านเรือนร้านค้าและวัดออกไปจากเขตแดนประเทศไทยโดยด่วนที่สุด และหากจะมีการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ประเทศไทยก็จะต้องมีส่วนร่วมและมีผลประโยชน์ตรงนี้ด้วย แต่ข้อย้ำว่า ก่อนที่จะมีการเจรจาขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก จะต้องผลักดันขับไล่ชาวกัมพูชาให้ออกไปจากบริเวณเชิงเขาพระวิหารให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ผมขอฝากถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนด้วย" นายอรุณศักดิ์กล่าว
ขณะที่ นางวณีกมน นันทเสน เลขานุการสมัชชาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ไทยต้องเสียดินแดนเขาพระวิหารให้ประเทศกัมพูชาไปก่อนหน้านี้แล้ว และในปี 2551 ประเทศไทยก็กำลังจะเสียพื้นที่ให้กัมพูชาอีกครั้ง ในฐานะประชาชนชาว จ.ศรีสะเกษ และชาวไทย ขอต่อสู้ในการทวงคืนเขาพระวิหาร ขับไล่ชาวกัมพูชาให้รื้อถอนร้านค้า บ้านเรือนและวัดที่สร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ออกไปนอกเขตประเทศไทยให้ได้
ข้อมูลจาก