กรณีผู้ปกครองพา ด.ช.เดช (นามสมมติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนวัดกาหลง ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางบ่อ เมื่อบ่ายวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมาให้ดำเนินคดีกับนายชลินทร์ ศิลปสมศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนข้อหาทำร้ายร่างกาย ด.ช.เดชจนได้รับบาดเจ็บ โดยนายชลินทร์จับกดศีรษะ ด.ช.เดช แล้วบังคับให้เพื่อนนักเรียนที่เล่นฟุตบอลด้วยกันรุมตบตีและซ้อมจนสะบักสะบอม เพราะไม่พอใจที่ ด.ช.เดชเตะฟุตบอลไปโดนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนายชลินทร์ เหน็บไว้ที่เอว และเดินผ่านขอบสนามฟุตบอลภายในโรงเรียนพอดี แม้เด็กจะยกมือไหว้ขอโทษ แต่ก็ไม่ได้รับการให้อภัย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 มิ.ย นายนิพนธ์ ภูรัตน์ รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการเขต 2 พร้อมด้วยคณะกรรมการสอบข้อ เท็จจริง ประกอบด้วย นายบรรหาร สวนยิ้ม ผอ.โรงเรียนวัดบางพลีน้อย และนายสมยศ บานชื่น นิติกรสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการเขต 2 เดินทางไปที่โรงเรียนวัดกาหลง สอบสวน ด.ช.เดช พร้อมผู้ปกครอง และเพื่อนนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยใช้เวลาซักถามเครียดนานร่วม 2 ชม. จึงเสร็จสิ้น หลังสอบสวนนายนิพนธ์ กล่าวว่า คำให้การของนักเรียนผู้เสียหายและพยานสอดคล้องกัน เรื่องมีมูลครบเป็นไปตามที่เป็นข่าว ซึ่งจะได้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่คณะกรรมการเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่า นายชลินทร์ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้เดินทางมาโรงเรียนแต่อย่างใด ทำให้ผู้ปกครองและชาวบ้านไม่พอใจพากันรวมตัวราว 60 คน ชุมนุมประท้วงที่หน้าโรงเรียน พร้อมปราศรัยขับไล่นายชลินทร์พ้นพื้นที่ทันที บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดตลอดเวลา ทาง พ.ต.ท.ภีมเดช สาระกูล สวญ.สภ.เปร็ง ระดมกำลังตำรวจเข้าคุมสถานการณ์พร้อมขอร้องให้ผู้ปกครองและญาติอยู่ ในความสงบ เพื่อให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้ทำงานอย่างสะดวก ซึ่งบรรดาญาติก็ยอมที่จะอยู่ในความสงบแต่โดยดี
นายสุนันท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี มีศักดิ์เป็นลุง ด.ช.เดช กล่าวว่า ตอนนี้หลานชายมีสุขภาพร่างกายดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังมีผลด้านจิตใจโดยเด็กยังคงซึมเศร้าและมีอาการเครียดอยู่ ต้องช่วยกันปลอบใจตลอดเวลา ส่วนที่ญาติรวมตัวชุมนุมกันไม่ใช่มาดักทำร้าย ผอ.โรงเรียน แต่มาติดตามความคืบหน้าของการสอบสวนเท่านั้น อยากให้ผลสรุปออกมาเร็วที่สุด โดยญาติต้องการให้ย้ายนายชลินทร์พ้นพื้นที่ เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองได้สบายใจ เนื่องจากเด็กต้องมาเรียนหนังสือทุกวัน และต้องพบหน้ากับนายชลินทร์อยู่อีก
ต่อมาสายวันเดียวกันนายนิวัฒน์ น้อยมณี ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการเขต 2 เดินทางมาที่โรงเรียนวัดกาหลง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง พร้อมเผยว่า การสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พบว่าเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงเรียนและมีมูล แต่จะรุนแรงแค่ไหน จะต้องตั้งกรรมการสอบวินัยอีกชุด เพื่อดูว่านายชลินทร์มีความผิดหรือไม่แค่ไหน เพราะจากการสอบสวนผู้ปกครองและเด็กผู้เสียหายได้ข้อมูลว่า ผอ.ตั้งใจที่จะลงโทษเด็กอย่างรุนแรง ขณะที่นายชลินทร์ชี้แจงว่าไม่มีเจตนา จึงต้องสอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง คาดว่าจะรู้ผลได้ไม่เกิน 30 วัน
นายนิวัฒน์กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายชลินทร์ไม่ได้ เดินทางมาโรงเรียนวันเดียวกันนี้ เพราะนำเอกสารชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปยื่นให้กับนิติกรของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการเขต 2 และจากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังของนายชลินทร์พบว่า มีความประพฤติดีมาตลอด แต่ที่ผ่านมานายชลินทร์เคยสอนที่โรงเรียนมัธยม เพิ่งจะย้ายมารับตำแหน่งที่โรงเรียนประถมเป็นครั้งแรก อาจไม่เข้าใจในเรื่องจิตวิทยาของเด็กเล็ก ซึ่งเรื่องนี้ทางเขตพื้นที่การศึกษาฯพยายามกำชับโรงเรียนในพื้นที่มาตลอด ให้ใช้ความระมัดระวังในการลงโทษเด็กและสั่งห้ามเฆี่ยนตีเด็ดขาด
ด้านนายชลินทร์ ศิลปสมศักดิ์ ผอ.โรงเรียนวัดกาหลง กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์เพียงสั้นๆว่า เหตุที่ไม่ได้ เข้าไปที่โรงเรียนวัดกาหลง เพราะต้องเดินทางนำเอกสารไปชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับนิติกรของสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาสมุทรปราการเขต 2 อีกทั้งยังไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยด้วย
ขณะที่ พ.ต.ท.ภีมเดช สาระกูล สวญ.สภ.เปร็ง กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจหรือทำคดีล่าช้า แต่เป็นเพราะคดีดังกล่าว ผู้เสียหายและพยานส่วนใหญ่เป็นเด็ก ทางพนักงานสอบสวนจึงต้องรอสอบพร้อมกับอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ และผู้ปกครอง โดย นัดสอบกันในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ อีกทั้งยังต้องรอผลตรวจร่างกายของเด็กจากแพทย์ รพ.บางบ่อ ถึงจะสามารถเรียกตัวนายชลินทร์มาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ข้อมูลและภาพประกอบจาก