สัญญาณไฟฉุกเฉินมีไว้ใช้ในช่วงคับขันหรือสถานการณ์อันตราย แต่ถ้าขืนเปิดไฟพร่ำเพรื่ออาจสร้างปัญหา ทั้งยังพาอุบัติเหตุมาใกล้ตัว Lisa มีข้อแนะนำดีๆ มาฝาก
เมื่อขับข้ามสี่แยก แล้วต้องการตรงไป อาจทำให้ผู้ขับรถทางด้านซ้าย/ขวา เห็นเป็นแค่ไฟกะพริบมุมหน้ามุมเดียวเสมือนจะเลี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่ง ทั้งที่จริงกำลังจะตรงไปก่อเกิดความเข้าใจผิด จนอาจไม่ระวังหรือไม่ได้ชะลอความเร็วลง ชน ...โครมเข้ากลางลำเลยก็มี วิธีปฏิบัติที่ปลอดภัยและถูกต้องคือ ให้ชะลอความเร็วลง มองซ้าย-ขวาอย่างรอบคอบ ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินเพราะการไม่เปิดไฟเลี้ยวก็แสดงว่าต้องการตรงไปอยู่แล้ว เมื่อถนนโล่งว่างและปลอดภัยจึงตรงไป
สภาพอากาศแย่ ยามฝนตกหนัก หมอกลงจัด ทัศนวิสัยแย่มากๆ ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะผู้ขับรถ ที่ตามมาอาจคิดว่าเป็นรถยนต์ที่จอดนิ่งอยู่ เกิดเข้าใจผิดขึ้นได้ แม้ไฟฉุกเฉินอาจช่วยให้ผู้ขับคนอื่นมองเห็นได้ชัดเจน แต่ขณะที่เปิดไฟกะพริบทั้ง 4 มุม จะไม่มีไฟเลี้ยวใช้ หากอยากเปลี่ยนเลนอาจทำให้เกิดอันตรายได้ วิธีปฏิบัติ ควรเปิดไฟหน้าต่ำ พร้อมไฟตัดหมอก ขับชิดซ้ายสุด โดยไม่เปลี่ยนเลน แต่ถ้าสภาพอากาศแย่มากๆ ควรจอดหลบอย่างปลอดภัยและเปิดไฟฉุกเฉินไว้ด้วย
เหยียบเบรคกะทันหัน แล้วต้องจอดเป็นคันสุดท้าย เพราะกลัวผู้ขับคันหลังจะเหยียบไม่ทัน เลยเปิดไฟฉุกเฉินช่วย ซึ่งอาจใช้วิธีเหยียบเบรคซ้ำหลายๆ ครั้ง ให้ไฟเบรกค้างจะได้เป็นที่สังเกตแล้วค่อยเหยียบแป้นเบรกแช่ไว้ ถ้าไม่แน่ใจว่าผู้ที่ขับตามมาจะเบรกทันมั้ย ให้เปิดไฟฉุกเฉินขณะจอดนิ่ง เมื่อรถที่ขับตามมาเบรกทัน และจอดปลอดภัยแล้ว ก็ปิดไฟฉุกเฉินทันที
การลากรถยนต์ ถ้าจะเปิดไฟฉุกเฉินควรใช้ความเร็วต่ำ ขับชิดเลนซ้ายสุด หากต้องการเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว ต้องปิดไฟฉุกเฉิน และเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้า เพื่อให้สัญญาณตามปกติ แล้วค่อยเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบจาก oknation
ประจำวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2551