สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
หลังจากที่รัฐบาลหาทางลดกระแสกดดันทางการเมือง ด้วยการยอมให้มีการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านเข้าสู่วาระการประชุมสภาฯ ในวันที่ 24 มิ.ย. ล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดทีม 50 ขุนพลฝีปากเอกไว้ขึ้นเวทีอภิปรายแล้ว ขณะที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แสดงความมั่นใจในเสียงสนับสนุนของพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง
โดยเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ซึ่งเป็นที่จับตาของคนทั่วประเทศว่า นายสมัครจะพูดถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในช่วงเปราะบางอย่างไร หลังถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมข้างทำเนียบรัฐบาล ในขณะที่รัฐบาลก็ไฟเขียวให้มีการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ท่ามกลางกระแสข่าวคนในพรรคพลังประชาชนกดดันให้นายสมัครลาออก รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการปฏิวัติ
ทั้งนี้ นายสมัครกล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 ก็เป็นการตกลงกันแบบที่ชาวโลกรู้กันทั่วโลก พรรคพลังประชาชนได้ 233 เสียง มี 5 พรรคการเมืองมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล รวมกันได้ 316 เสียง ส่วนอีกพรรคหนึ่งเหลือ 164 เสียง ก็เป็นฝ่ายค้าน ถือเป็นมาตรฐานสากล และข้อสำคัญใน เรื่องรัฐธรรมนูญบอกถึงวิธีการแก้ไข หากมีข้อบกพร่องก็ต้องแก้ แต่กลับมีคนบอกว่าไม่ได้ ไม่ให้แก้ เกิดความเคียดแค้นชิงชัง การไล่นายกฯ คนเก่ายังไม่จบ พอนายกฯ คนเก่ากลับมาขึ้นศาล ก็มานั่งจ้องหาเหตุกัน เอาเหตุตรงไหน พอจะยื่นแก้รัฐธรรมนูญก็โดดลงมาทันที ถัดมาอีกหน่อยก็เริ่มเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งตอนนี้ลาออกไปแล้ว เลยเปลี่ยนมาขับไล่รัฐบาลแทน แรกๆ ก็ด่าอดีตนายกฯ สุดท้ายก็เอาตนเข้าไปพ่วงด้วย กล่าวหาเป็นนอมินี ทั้งที่ กกต.บอกไม่เป็นนอมินี จะทำอย่างไรก็บอกว่าไม่ใช่ แต่ยังจ้องทุกวิถีทางจะเอาออกให้ได้ จุดหมายปลายทางอยู่ตรงไหน
"ผมจะถามว่าถ้าสมมติว่าผมเลวทรามต่ำช้าจริง ฝ่ายค้านด่าทอว่าเสร็จเรียบร้อย ลงคะแนน และคณะ 5 พรรคเขาบอกว่าเห็นว่าเลวจริง ไปลงคะแนนโหวตไม่ไว้ วางใจ ได้ไป 247 ไม่ไว้วางใจ แล้วผมแพ้ ผมถอยออกไป แล้วไง ก็ได้รัฐบาลใหม่ คุณอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) มาเป็นนายกฯ 5 พรรคไปร่วม ถ้าคณะผมมีคนที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เยอะนะครับ ถ้าผมอยู่ข้างหลัง ผมชักใยว่าเอามาเลย ล่อทุกวัน ตั้งเป็นแก๊ง ทำอย่างเดียวกันนะ ยึดถนนโน้นถนนนี้ ทำแล้ว 5-6 กอง ล่อทั้งเมืองเลย คนที่ชอบผมก็มี แล้วอะไรจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้
...ที่ล่อกันทุกวันนี้ไม่ถูกต้อง แต่ก็กลั้นใจไม่อยากให้เกิดจลาจล เพราะเขาหวังจะให้ ปะทะ หรือมีเสียงปืนดังสักนัดหนึ่ง เพื่อบอกเราชนะแล้ว ผมถามว่ามันแพ้ชนะตรงไหน เคลื่อนจากสะพานมัฆวานฯ มายึดตรงนี้ได้ เราชนะ บ้านเมืองนี้มี 63 ล้านคน ผมไม่อยากใช้คำว่าคนหยิบมือหนึ่ง เอามาจากไหนไม่อยากวิจารณ์ให้เสียปาก ก็เอาสิ อยากทำก็ลองทำดู แปลว่าคน 5 คนตั้งคณะขึ้นมาแล้วเล่นกันข้างถนน แล้วนายกฯ ต้องพ้นไปแล้วบ้านเมืองนี้มันจะอยู่ได้อย่างไร บ้านเมืองมีหลักเกณฑ์ จึงได้ร้องถามว่าคุณมาจากไหน 5 คน คุณเลือกตั้ง เมื่อไร มีสถานะอย่างไรทางกฎหมาย" นายสมัครกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายสมัครตอบข้อซักถามเพียงสั้นๆ ภายหลังจัดรายการสนทนาประสาสมัคร ถึงความชัดเจนว่าจะตัดสินใจยุบสภา หรือลาออก หรือไม่ว่า "ไม่ออก"
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า กรณีมีการปล่อยข่าวว่าพรรคพลังประชาชนกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ขอยืนยันว่าในพรรคเห็นตรงกันว่าการคงอยู่ของนายสมัครเป็นความจำเป็นของพรรคและของประเทศ ถ้าลาออกจะเข้าทางกลุ่มพันธมิตรฯ และทำให้ประเทศเสียหาย
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าการกำหนดให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจแค่ 1 วันครึ่งไม่เพียงพอนั้น เป็นเหมือนการชี้นิ้วบงการเหมือนกลุ่มพันธมิตรฯไม่มีผิด หากพรรคประชาธิปัตย์มีข้อมูลจริง เวลาอภิปรายแค่ชั่วโมงเดียวก็พอ สามารถทำให้รัฐบาลเกิดแผลเหวอะหวะได้แล้ว แต่ถ้าไม่มีข้อมูล แม้ใช้เวลาอภิปรายเป็นเดือนเหมือนที่กลุ่มพันธมิตรฯทำอยู่ก็ล้มรัฐบาลไม่ได้
ข้อมูลจาก
