นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ประธานคณะกรรมการมารยาททนายความ สภาทนายความ กล่าววันนี้ (26 มิถุนายน) ถึงคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่ศาล 2 ล้านบาท ว่า ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติทนายความ มาตรา 69 ทนายความท่านใดถูกศาลพิพากษาจำคุก ซึ่งไม่ใช่คดีประมาทเลินเล่อ หรือคดีลหุโทษ ตามกฎหมายศาลจะแจ้งให้สภาทนายความทราบผลของคดีนั้น เมื่อได้รับหนังสือแจ้งแล้ว สภาทนายความจะเรียกประชุมคณะกรรมการมารยาท มีโทษสถานเดียวคือลบชื่อทิ้ง คดีนี้ไม่ใช่คดีลหุโทษแน่นอน
"การลบชื่อไม่ได้บอกว่าลบกี่ปี หมายความว่า ทนายความคนนั้นหมดสิทธิ์ในการเป็นทนายความต่อไป แต่มีกฎหมายบอกว่า หากพ้น 5 ปี มีสิทธิ์ร้องขอจดทะเบียนทนายความได้อีก ต้องผ่านการตรวจสอบและพิจารณาสมควรจะจดให้หรือไม่ ซึ่งในทางปฏิบัติไม่เคยมีการจดให้" นายสิทธิโชค กล่าว และว่า เรื่องสินบนเป็นเรื่องน่ากลัว ไม่เคยมีใครไปแตะต้อง เป็นเรื่องอันตราย หากให้สินบนผู้พิพากษารับโทษมาก และแรงกว่านี้
นายสิทธิโชค กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าร้ายแรง กระทบกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องอ่อนไหว ฟังแล้วตกใจเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ โดยเฉพาะเกิดกับศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลสูงสุดที่เราเคารพมาก
"เวลาเข้าไปในรั้วศาลต้องระวัง ต้องเข้าไปด้วยความเรียบร้อย ประพฤติตนเรียบร้อยในศาล ต้องให้ความเคารพ ประชาชนอาจไม่เข้าใจว่า เข้าไปศาลทำอะไรได้ คิดว่าเหมือนสถานที่ราชการ จริง ๆ นี่คือศาลสถิตยุติธรรม ปกติโทษละเมิดศาลไม่ได้มีการใช้บ่อย ต้องรุนแรงจริงๆ เป็นบทบัญญัติไว้ใช้ควบคุมความเรียบร้อยบริเวณศาล" ประธานคณะกรรมการมารยาทฯ กล่าว
นายสิทธิโชค กล่าวด้วยว่า คดีนี้เป็นบทเรียนราคาแพง ต่อไปการทำหน้าที่ทนายความ ทำหน้าที่ในศาลต้องระมัดระวังมากขึ้น การเป็นตัวแทนว่าความ กรอบการปฏิบัติหน้าที่ต้องเคร่งครัด การทำนอกกรอบต้องระวัง
เกาะติดสถานการณ์ ข่าวการเมืองทั้งหมดคลิกเลย
ข้อมูลและภาพประกอบจาก