x close

ปีศาจคะนอง

ท่าน้ำ



ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          "ลุงเพ็ญ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากคลองบางกอกน้อย สมัยหนุ่มผมอยู่ที่คลองบางกอกน้อย...คลองที่กลายเป็นเพลงชื่อดังนั่นแหละครับ พวกเราชอบจับกลุ่มกันร้องเพลงฮิตนี่บ่อยๆ โดยเฉพาะตอนที่ฟังแล้วตลกดี แหม! พวกวัยรุ่นตะเบ็งเสียงกันคอโป่งไปเลย

          "ว่าแต่ผีแม่บัวลอยนี่ไปเกิดหรือยังวะ?"

          วันนั้น เจ้ากลมตั้งปัญหาขึ้นในร้านแป๊ะซ้งริมคลอง เป็นร้านชำประจำหมู่บ้าน รวมทั้งน้ำชากาแฟ เหล้าเบียร์มีหมด กับแกล้มง่ายๆ ก็คือ แหนมพวง ถั่วลิสงคั่ว ถั่วปากอ้าที่ใส่ถุงเป็นแผงแขวนไว้ข้างเสา...เสียงตอบดังแซดไปหมด บ้างก็ว่าไปเกิดแล้ว บ้างก็ว่ายังสิงสู่อยู่ในคลองนี่แหละจนผมต้องตัดบทว่า...เพลงเขาแต่งนะโว้ย ไม่ใช่เรื่องจริง!

          แต่เรื่องจริงที่ทำให้พวกเขามาอุดหนุนร้านนี้บ่อยๆ ก็คือม่วยกิมลั้ง ลูกสาวคนเดียวของแป๊ะซ้งน่ะซีครับ อายุอานามราว 17-18 รุ่นน้องพวกเรา แต่ขาวสวยน่าดู รูปร่างก็ไม่ใหญ่โตอะไรนัก แต่อกอวบพุ่ง เอวกิ่ว สะโพกผาย ผมยาวประบ่า หน้าตาเซ็กซี่อย่าบอกใคร

          ตอนนั้นพวกสาวๆ ชาวสวนชาวคลองยังนิยมนุ่งผ้าถุง สวมเสื้อคอกระเช้าตัวเดียว เวลายกของมาเสิร์ฟเรามักจะก้มต่ำนิดหน่อย พวกทโมนไพรก็จ้องมองร่องอกขาวๆ ของน้องม่วย จนตาลุกตาชันไปตามๆ กัน แต่เธอทำไม่รู้ไม่ชี้เหมือนจะท้าทายว่า...อยากมองก็เชิญมองให้พอ!

          โธ่! อย่าว่าแต่หนุ่มคะนองอย่างพวกเราเลยครับ ขนาดรุ่นน้ารุ่นลุงอย่างตาล้วนกับตาย่อมที่พายเรือมาเทียบท่าซื้อของ ร้องสั่งเหล้าหรือกาแฟ...ตอนที่ม่วยสาวเอาของไปส่งต้องก้มตัวลงไปน่ะ เนินอกขาวผ่องกับก้อนเนื้ออวบๆ แทบจะพลัดออกมาทั้งพวง...ถือว่าเป็นภาพสวยงาม น่าประทับใจอย่างยิ่งมาจนทุกวันนี้ก็แล้วกัน

          บางวันเราพายเรือเล่นตอนเย็นๆ ดูสาวๆ จากตีนท่าลงบันไดมาอาบน้ำ นุ่งผ้ากระโจมอกผืนเดียว เดี๋ยวๆ ก็ขยับปมผ้านุ่งเหมือนฟ้าแลบแปล่บๆ บางคนก็ขึ้นบันไดไปยกขาเลิกผ้านุ่งขึ้นมาฟอกสบู่ บางทีก็ล้วงเข้าไปฟอกถึงไหนๆ เล่นเอาจ้องมองกันนัยน์ตาขวักไขว่...ทำหน้าตาเหมือนอยากจะรากเลือดลงแดงไปตามๆ กัน

          วันหนึ่งก็เกิดเหตุร้าย กิมลั้งลงเรือข้ามฟากไปซื้อของที่ท่าพระจันทร์ ขากลับหอบของพะรุงพะรังจะลงเรือกลับบ้าน แต่ก้าวพลาดหล่นตูมลงไปในน้ำ จังหวะที่เรือถูกคลื่นซัดมาชนโป๊ะพอดี...ร่างของม่วยสาวเลยจมหายไปท่ามกลางเสียงร้องของผู้คนที่มองเห็นเหตุการณ์

          วันรุ่งขึ้น ศพของเธอก็ไปโผล่ที่ท่าเตียน!


          พวกเรารู้ข่าวก็ใจหายไปตามๆ กัน เจ้าอู๋บ่นเสียดายไม่ขาดปาก เจ้ากลมหน้าตาไม่ค่อยดีขณะพึมพำ...ผีบัวลอยคงจะไปผุดไปเกิดแล้ว แต่ผีกิมลั้งน่ะซี จะอยู่ที่ท่าพระจันทร์หรือกลับบ้านก็ยังไม่รู้เลย?

          จนกระทั่งงานศพผ่านพ้นไป ตกค่ำบรรยากาศในละแวกนั้นดูเยือกเย็น น่าวังเวงใจอย่างบอกไม่ถูก ในเรือกสวนด้านหลังก็มืดครึ้ม เสียงลมพัดยอดไม้ซู่ซ่า ฟังเหมือนเสียงใครกำลังคร่ำครวญด้วยความทุกข์โศก...ร้านชำแป๊ะซ้งเปิดบริการลูกค้าอีกครั้ง คราวนี้มีหลานสาวชื่อลูกท้อมาช่วยขายของแทนกิมลั้ง

          ถึงแม้จะไม่สะสวยดูเซ็กซี่เหมือนกิมลั้ง แต่ลูกท้อก็หน้าตาดี ยิ้มแย้มแจ่มใสและช่างพูดช่างคุย เป็นกันเองกับลูกค้าทั่วๆ ไป ใครจะพูดจาแทะโลมหรือทะลึ่งตึงตังบ้างก็ไม่ถือสา ไม่ช้าร้านชำแป๊ะซ้งก็มีลูกค้าทั้งหนุ่มและแก่มาอุดหนุนกันคับคั่งตามเดิม

          จนกระทั่งเกิดเหตุสยองขึ้นโดยไม่มีใครคาดฝัน!

          เย็นนั้น คอเหล้านั่งกันเต็มร้าน พวกรุ่นน้ารุ่นลุงก็พายเรือมาซื้อของ กับคอยจ้องมองของสวยๆ งามๆ เพราะลูกท้อถึงจะไม่ขาวผ่องเหมือนกิมลั้ง แต่สวมเสื้อคอกระเช้าทั้งลึกและกว้างมากกว่า ...บางทีไปยืนก้มตัวเท้าแขนที่โต๊ะหลังร้าน ยังทำให้ผู้ชายครางฮือไปตามๆ กัน

          ใกล้ค่ำ ตาล้วนพายเรือมาร้องสั่งเหล้าขาว ลูกท้อก็คว้าเหล้าไปโน้มตัวลงส่งให้...ตาล้วนร้องเฮ้ย! เสียงดังลั่นจนคนอื่นๆ ในร้านหันไปมอง

          "อย่าๆ ไม่เอาแล้วโว้ย" แกร้องตะโกน คว้าพายจ้ำอ้าวไม่คิดชีวิต ลูกท้อส่ายหน้า ก้าวขึ้นบันไดมาด้วยหน้าตางุนงง แต่พวกลูกค้าในร้านผงะหน้า ร้องเฮ้ยๆๆ เสียงดังกว่าตาล้วนด้วยซ้ำไป

         
นรกเป็นพยาน! ผู้ที่ก้าวเข้ามาในร้านไม่ใช่ลูกท้อ แต่เป็นกิมลั้งผู้จมน้ำตายไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง!

          ชั่วเวลาสั้นๆ แต่ดูยาวนานเหลือหลาย ใบหน้านั้นก็กลับเป็นลูกท้อตามเดิม! เจ้าอู๋กับเจ้าล้วนขยี้ตาก่อนจะจ้องมอง ผมเองได้แต่นั่งอ้าปากค้าง...รู้สึกขนหัวลุกตั้งด้วยความกลัวสุดขีด...เสียงใครร้องว่าเมื่อตะกี้เป็นหน้ากิมลั้งนี่หว่า!

          ผีสาวปรากฏตัวให้ใครๆ เห็นบ่อยครั้งจนแป๊ะซ้งต้องปิดร้าน อพยพไปอยู่ที่อื่นตั้งแต่นั้นมา



ข้อมูลจาก
 
ใบหนาด

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปีศาจคะนอง อัปเดตล่าสุด 2 กรกฎาคม 2551 เวลา 14:44:23 20,640 อ่าน
TOP