x close

เมนูผู้หญิง เหยื่อค้ามนุษย์




          ภายหลัง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดเวทีสัญจรเสวนา "แก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ทางทุกข์ที่ต้องร่วมกันหาทางออก" เป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย 

          เชียงรายเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการค้ามนุษย์ในจังหวัดภาคเหนือตอนบน เป็นทั้งพื้นที่ต้นทาง ทางผ่าน และปลายทางของการค้ามนุษย์ที่รุนแรง มีรูปแบบซับซ้อน ซ่อนเร้นมากขึ้น เพราะมีพื้นที่ติดพรมแดนพม่า ลาว และเป็นช่องการเดินทางจากจีนตอนใต้ผ่านพม่า ถือเป็นช่องทางลำเลียงเด็ก ผู้หญิงจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานในพื้นที่เศรษฐกิจของไทย 

          นางสาว เดือน วงษา นักกฎหมายหน่วยประสานงานเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ภาคเหนือตอนบน ประเทศไทย (TRAFCORD) กล่าวว่า จากการสำรวจสถานการณ์ค้ามนุษย์ภาคเหนือตอนบน พบว่าส่วนมากเป็นการค้าประเวณีที่แอบแฝงในร้านคาราโอเกะ บาร์เบียร์ ซุ้มขายเครื่องดื่มข้างทาง ร้านนวดแผนโบราณ ร้านสปา โดยวิธีติดต่อซื้อขายเปลี่ยนจากให้หญิงบริการอยู่ที่ร้าน มาขายผ่าน "เมนูผู้หญิง" ติดต่อผ่านเอเยนต์ เพื่อจัดส่งหญิงบริการให้ตามจุดนัดพบ เช่น โรงแรม เกสต์ เฮาส์ บังกะโล ส่วนการล่อลวงหรือบังคับเด็กและผู้หญิงมาค้าประเวณี จะมีการคุมตัว ข่มขู่ โดยการหักเงิน ผูกมัดด้วยภาระหนี้สิน ซึ่งพบว่ามีชาวพม่าเป็นเอเยนต์ เจ้าของสถานค้าประเวณี ผู้คุม รับส่งเหยื่อ มีการล่อลวงเด็กอายุ 14 ปีขึ้นไปขายบริการอย่างเปิดเผย 

          "ภาคเหนือตอนบนมี 4 จังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดง คือ มีการค้ามนุษย์ขั้นรุนแรง ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง จากการลงพื้นที่เราพบว่าเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงทั้งจากสถานบันเทิงแบบถาวร แบบเคลื่อนที่ และมีกลุ่มเป้าหมายกลุ่มเสี่ยงจำนวนมาก โดยเฉพาะเชียงใหม่ เชียงราย เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การคมนาคม และมีพรมแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มีทั้งคนบนที่สูง คนไทยใหญ่ และคนลาว พม่า เป็นเหยื่อค้ามนุษย์จำนวนมาก" 

          นักกฎหมายหน่วยประสานงานเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ภาคเหนือตอนบน ประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ออกจากโรงเรียนกลางคัน อายุ 13-16 ปี ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงสำหรับการค้ามนุษย์ โดยเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อยปละละเลย มีปัญหาครอบครัว ขาดที่พึ่งยึดเหนี่ยวและขาดทักษะชีวิตในการดูแลตัวเอง ทำให้มีพฤติกรรมคบเพื่อนเที่ยวเตร่ ชอบเที่ยวสถานบันเทิง ดื่มสุรา และตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์จากการชักชวนของเอเยนต์ บางรายก็ถูกส่งไปค้าประเวณีที่มาเลเซีย การหลอกลวงไปค้าประเวณีต่างประเทศจะหลอกเหยื่อให้ไปทำงานนวดแผนโบราณ ทำงานร้านอาหาร เช่น ประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ บาห์เรน วิธีการให้ยืมเงิน ทำสัญญาหนี้ 5 หมื่นถึงหลักแสน เป็นค่าหัว หรือแต่งงานเป็นการสมรสอำพรางกับผู้ชายต่างประเทศ เพื่อให้เข้าเมืองได้สะดวก 

          "มีหญิงไทยถูกหลอกไปค้าประเวณีที่สิงคโปร์ โดยผู้หญิงต้องให้บริการแรงงานก่อสร้างชายกลางป่า ต้องนอนรับแขกในเต็นท์หรือเพิง หรือที่ใดก็ตามที่จะหลับนอนได้ และยังพบผู้ชายไทยถูกหลอกไปขายบริการทางเพศให้ผู้หญิงในสิงคโปร์ ฮ่องกง เมื่อรู้ทีหลังก็พยายามขอความช่วยเหลือจากกระทรวงการ ต่างประเทศ ขณะนี้คนจบปริญญาตรี จบมหาวิทยาลัยดังๆ ถูกหลอกไปค้ามนุษย์จำนวนมาก เช่น กรณีตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดจับแก๊งค้ามนุษย์พบ แต่เหยื่อปริญญาตรี หรือหญิงไทยจบปริญญาตรี ทำงานบริษัทเอกชน เงินเดือนดีอยากไปทำงานต่างประเทศ เห็นเกาหลีใต้มีนวดแผนโบราณ มีคนแนะนำให้แต่งงานกับหนุ่มเกาหลี เพื่อเดินทางไปสะดวก พอไปถึงหนุ่มเกาหลีหายตัวไป นอกจากนั้น ยังมีรูปแบบค้ามนุษย์โดยเป็นบริษัทเชิญชวนไปทำงานและท่องเที่ยว หรือพาไปเทกคอร์สภาษาช่วงซัมเมอร์แล้วพาไปค้ามนุษย์"

          นางสาว เดือนกล่าวด้วยว่า "มีปัญหาน่าห่วงคือปัญหาเด็กนักเรียนนักศึกษา ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด มีการค้าประเวณีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างสมัครใจ โดยเพื่อนชวน หรือเพื่อนรุ่นพี่เป็นเอเยนต์ติดต่อลูกค้า หาแขกให้แล้วหักเงิน โดยเด็กที่ค้าบริการสุดท้ายจะผันตัวเองเป็นเอเยนต์ชวนเพื่อน รุ่นน้องต่อๆ ไปอีก เพราะกลุ่มเด็กนักเรียนนักศึกษาเป็นที่นิยมมาก ค่าบริการชั่วโมงละ 1,500-2,500 บาท หรือค้างคืน 5,000-6,000 บาท ส่วนคนหาลูกค้าให้จะได้ค่าหัวคิว 500-1,000 บาท โดยใช้หอพักหรือบ้านเช่าที่พักอาศัยเป็นสถานที่ให้บริการ ขณะนี้มีเด็กต่างอำเภอหรือต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาพักอาศัยกับเพื่อนในเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย เพื่อรวมกลุ่มกันแล้วใช้อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อหาลูกค้า เช่น โปรแกรม MSN โปรแกรม QQ โปรแกรม PIRCH หรือโปรแกรมแช็ตอื่นๆ โดยคนที่อยากออกจากวงการนี้ต้องหาเหยื่อมาเป็นตัวแทนค้าบริการก่อนจึงจะเลิกได้" นางสาว เดือน กล่าว

          นางสาว วาสนา เก้านพรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิเด็ก มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวว่า ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายใหม่ และกฎหมายยังกำหนดโทษรุนแรงกับคนทำผิดจำคุกตั้งแต่ 4-15 ปี ปรับตั้งแต่ 8 หมื่นถึง 1 ล้านบาท แต่หากเป็นข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐหรือนักการเมืองต้องรับโทษเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว นอกจากนั้นกฎหมายยังให้อำนาจตำรวจตรวจค้นโดยไม่ต้องขอหมายศาล ทำให้เกิดความรวดเร็วในการจับกุมดำเนินคดี ทั้งนี้ ประเทศไทยมีมาตรการทำงานเรื่องค้ามนุษย์หลายมาตรการค่อนข้างครอบคลุมแล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้ เรารอเวลาให้มีการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ โดยปัญหาค้ามนุษย์มีผลกระทบระดับประเทศ
          
          จากรายงาน Trafficking in Persons Report 2008 สหรัฐอเมริกาจัดระดับประเทศที่ดำเนินการป้องกัน แก้ไข ปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็น 3 ระดับ เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ประเทศไทยยังคงอยู่ระดับ 2 คือ มาตรการดี แต่การบังคับใช้ยังไม่ดีพอ 

          นายสัมพันธ์ สุวรรณทับ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า เทคนิคล่อลวงเหยื่อ พบว่ากลุ่มที่ไม่มีความรู้ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 จบระดับประถมมากที่สุด อายุ 14-19 ปี จะถูกหลอกว่าจะให้ทุนการศึกษาแล้วพาไปค้ามนุษย์ อีกกลุ่มที่สมัครใจไปส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 100 เป็นกลุ่มมีการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือกลุ่มที่ชอบเที่ยวเตร่ เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว แต่ถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศอย่างเอารัดเอาเปรียบ จากการสุ่ม 3 อำเภอ คือ อำเภอพาน อำเภอเมือง และ อำเภอแม่จัน 6 ตำบล พบคนออกนอกหมู่บ้าน 890 คน เดินทางไปอย่างถูกต้องกับฝ่ายจัดหาแรงงาน 161 คน ขณะที่ 576 คน เดินทางไปอย่างไม่ถูกต้อง เป็นผู้หญิงถึงร้อยละ 47 บ่งชี้ถึงคนที่ถูกหลอกไปค้ามนุษย์จำนวนมาก

          ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญมากในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ โดยออก พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่มีโครงสร้างคณะกรรมการระดับชาติ จังหวัด ระดับพื้นที่ มีชุดเฉพาะกิจปฏิบัติงานทำงานร่วมกันหลายฝ่าย ทั้งตำรวจ ภาครัฐ เอกชน เป้าหมายสูงสุดคือผู้เสียหาย โดยมีกองทุนดูแลเหยื่อ และให้หน่วยงานทำงานได้คล่องตัว โดยรัฐบาลให้งบประจำทุกปี หรือรับบริจาคจากเอกชน ประชาชนทั่วไป เพื่อช่วยเหลือสร้างอาชีพดูแลผู้เสียหายไม่ให้กลับเข้าสู่วังวนเดิมอีก


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมนูผู้หญิง เหยื่อค้ามนุษย์ โพสต์เมื่อ 2 กรกฎาคม 2551 เวลา 12:04:21 16,062 อ่าน
TOP