สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
จากการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางไปเยือนประเทศจีนและบรูไนว่าจะถูกจับกุมตัวทันทีที่ลงจากเครื่องบิน เรื่องนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ (4 กรกฎาคม) ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางกลับถึงประเทศไทยด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ นายสมัครได้กล่าวถึงกรณีที่พูดว่าจะมีการจับตัวนายกรัฐมนตรีทันทีที่ลงจากเครื่องว่า ไม่ปล่อยข่าวหรอก แต่ผมอยู่ทางโน้นมีคนโทรศัพท์ไปบอก เล่าให้ฟัง มีคนไปแสดงความหวาดวิตก ผมไม่กลัวจะถูกจับกุมตัว ก็เลยบอกว่าไม่มีเหตุผลเท่านั้นเอง กรุณาฟังให้ดีก่อนไปเขียนข่าว เขาบอกว่าผมจะถูกศาลออกหมายจับแล้วศาลจะตัดสินคดีความ ผมเลยบอกว่าถ้าจะเอาข่าวนี้มาปล่อยกับผม ผมป่วนดีกว่า
"ผมจึงบอกว่าจะแจ้งข่าวลือก็ให้แนบเนียนหน่อย ทางศาลต้องแจ้งผมก่อนจะอ่านความ จะอ่านคดี ถ้าไปก็ไปนั่งฟังธรรมดา ถ้าผมไม่ไป 2-3 ครั้ง ศาลออกหมายจับ ศาลอ่านลับหลัง แต่นี่ออกข่าวไปว่าศาลจะอ่านแล้ว จัดการแล้ว แล้วจับจะไม่ให้เป็นนายกฯต่อไป คิดอะไรกันอย่างนี้ จึงคิดดังๆ ย้อนกลับมาเท่านั้นเอง จะได้ไม่ต้องมีอะไรกัน ให้มันจบม้วนเดียวกัน" นายสมัคร กล่าว
นอกจากนี้ นายสมัครยังกล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เวลานี้รัฐมนตรีขาด 1 คน (ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯที่ว่างลง เนื่องจากนายจักรภพ เพ็ญแข ลาออก) ส่วนวันไหนจะปรับ ต้องเอาเติมเข้ามาและยังมีรัฐมนตรี 2 คน จะถูกศาลพิจารณา เมื่อไหร่พิจารณาเสร็จก็ต้องปรับ ครม. การเขียนบทความว่าใครกันแน่ ใครจะดำน้ำอึด มันไม่อึดหรอก แต่บอกเลยว่าจะไม่ปรับ ครม.ตามหนังสือพิมพ์สั่งแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคพลังประชาชน (พปช.) เปิดเผยว่า แกนนำพรรคและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประสานงานกันในช่วงหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อจัดให้ ส.ส.พรรคซึ่งได้แบ่งเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละ 20-22 คน ได้เข้าพบและรับประทานอาหารร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อาคารชินวัตร 3 ในช่วงวันที่ 1-5 กรกฎาคม แบบทยอยเข้าพบทีละกลุ่ม โดยมีรัฐมนตรี 2 คนซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มเป็นผู้พาเข้าไป
ซึ่งในวันที่ 4 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. เป็นช่วงที่ ส.ส.หมวด ส.เสือ 21 คน มี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นแกนนำกลุ่ม เข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อหารือและรับประทานอาหารร่วมกันเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง การพูดคุยส่วนใหญ่เป็นการไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกัน พ.ต.ท.ทักษิณกำชับให้ ส.ส.ลงพื้นที่พบปะประชาชนให้มากที่สุด และอย่าทิ้งพื้นที่ และขอให้ ส.ส.ทุกคนที่อยู่ร่วมกันในพรรคสามัคคีกันไว้
"พ.ต.ท.ทักษิณได้เน้นย้ำให้ ส.ส.สามัคคีและลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องไปวิตกกังวลความปั่นป่วนผันผวนทางการเมือง ขอให้ยึดการทำงานให้ประชาชน รับรองว่าเลือกตั้งทุกครั้ง ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ แม้วันนี้จะยังทำอะไรมากไม่ได้ แต่ถ้าทำให้ประชาชนรับรู้ว่าเราเริ่มทำงาน แก้ไขปัญหาให้ เขาก็ดีใจแล้ว ส่วนจะทำสำเร็จเมื่อไหร่และมากเท่าใด ชาวบ้านก็เข้าใจ" แหล่งข่าวกล่าวอ้างคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณ
แหล่งข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังได้กำชับให้รัฐมนตรีควรดูแล ส.ส.อย่างใกล้ชิด และให้ ส.ส.ในพรรคมีความสามัคคีกัน เพราะวันนี้เท่าที่ดูคนในพรรคไม่ค่อยรักกัน ชอบออกมาให้สัมภาษณ์ว่ากัน นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังได้กล่าวกับ นพ.สุรพงษ์และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่าขอให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ช่วยกันทำงาน เพราะนพ.สุรพงษ์เก่งอย่างอื่น แต่ก็พอรู้การเมืองอยู่บ้าง ส่วนนายมิ่งขวัญเก่งเรื่องอื่น แต่ไม่เก่งการเมือง ดังนั้น ต้องช่วยกันดู ช่วยกันทำงานเพราะประชาชนคาดหวัง
ข้อมูลจาก
