เลื้อยบุกเว็บ - โฉมเว็บไซต์สภาผู้แทนราษฎร ถูกมือที่มองไม่เห็นเจาะข้อมูล แถมฝากตัวเงินตัวทอง ช่วยดูแลหน้าเว็บเพจนาน 10 นาที
เมื่อเย็นวันนี้ (8 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา ได้มีแฮกเกอร์มือดีเข้าไปแฮกในเว็บไซต์ของรัฐสภา (www.parliament.go.th) ในส่วนข้อมูลประวัติของนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาและประธาน สภาผู้แทนราษฎร โดยได้เปลี่ยนรูปนายชัยเป็นรูปตัวเงินตัวทอง โดยมีการโพสต์นานประมาณ 10 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตรวจพบและแก้ไขจนเรียบร้อย
ด้าน นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ระบบคอมพิวเตอร์ของสภา ตั้งแต่เย็นวันที่ 8 กรกฎาคมจึงได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ควบคุมระบบให้แก้ไขและป้องกันแล้ว และให้ตรวจสอบต้นตอที่มาที่ไปเป็นอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่าการที่บุคคลภายนอกจะเข้ามาแฮกข้อมูลของรัฐสภานั้นทำได้ง่าย โดยป้องกันยากและไม่แน่ใจว่าจะมีวิธีป้องกันตลอดเวลาได้ แต่คงต้องหารือกับผู้เชี่ยวชาญระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ ที่มีผู้บริหารเป็นบอร์ดของรัฐสภา รวมทั้งสมาชิกที่มีความเชี่ยวชาญและศึกษาเรื่องระบบคอมพิวเตอร์โดยตรง เช่น นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย และนายอภิวัฒน์ เงินหมื่น ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อร่วมกันหาทางป้องกันแก้ไขปัญหา
ขณะที่นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า ได้รับรายงานแล้วแต่ยังไม่เห็นภาพ ยังนึกสงสัยอยู่ว่าทำไมเขาไม่เอารูปกะโหลกใส่เข้าไป ทำไมต้องเอารูปตัวเงินตัวทองมาใส่ แต่ในฐานะที่เราเป็น ส.ส. ก็ต้องคิดว่า เป็นตัวแทนของชาวบ้านก็ต้องถูกตรวจสอบได้ เมื่อถามว่าจะให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาคนทำหรือไม่ นายชัยตอบว่า ถ้าจะกรุณาก็ยินดี แต่สำหรับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ มันเป็นไปตามธรรมชาติ ดวงเมืองมาอย่างนี้มันก็ต้องเป็นไปอย่างนี้
ส่วน นายมั่น พัทธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า จากที่ได้รับทราบว่า มีคนนำตัวเงินตัวทอง ไปโพสต์บนหน้าของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร บนเว็บไซต์ของรัฐสภานั้น ได้สั่งดำเนินการลบภาพดังกล่าวทิ้งทันที โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และให้เจ้าหน้าที่มารายงานผลให้ทราบในวันเดียวกันนี้ ขณะเดียวกันกระทรวงไอซีทีก็ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ทางด้าน พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน ผบก.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงแนวทางการสืบสวนหาตัวคนร้ายว่า ขึ้นอยู่กับทางรัฐสภาว่าได้วางระบบป้องกันการแฮกเกอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ไว้อย่างไรบ้าง หากมีการวางระบบที่สามารถบันทึกข้อมูลของต้นทาง ที่เข้ามาแฮกเกอร์ระบบคอมพิวเตอร์ไว้ จะสามารถสืบสวนสอบสวนตามจับคนร้ายได้ สำหรับพฤติการณ์การเข้าไปแฮกระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเปลี่ยนรูปภาพประธานสภานั้น ทำได้ไม่ยาก คนที่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำได้ ไม่ต้องเชี่ยวชาญถึงขั้นโปรแกรมเมอร์ ส่วนการดำเนินคดีขึ้นอยู่กับเจ้าทุกข์ว่า จะแจ้งความกับดีเอสไอหรือตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับผู้ไม่หวังดีหรือไม่ สำหรับพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายความผิด มีโทษจำคุก 1-5
ศึกษาและเรียนรู้การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกวิธีได้ที่
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และมติชนออนไลน์