สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ในโอกาสเทศกาลเข้าพรรษาเวียนมาถึงอีกครั้ง และเนื่องในวันอาสาฬบูชาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา และมีพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบ 3 องค์ และพระพุทธองค์ทรงเทศนาเป็นกัณฑ์แรก ที่เรียกเทศนากัณฑ์นี้ว่า "ปฐมเทศนา" พุทธศาสนิกชนชาวไทยจำนวนมากต่างพร้อมใจร่วมทำบุญตักบาตร และถือศีลสมาทาน เพื่อเป็นกุศลต่อตนเองและครอบครัวอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ที่เทศบาลนครนครราชสีมาจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2551 ชื่อ "แห่เทียนพรรษา พุทธบูชา สืบสานวัฒนธรรมโคราช" ระหว่างวันที่ 17-18 กรกฎาคมนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป และให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความสมานฉันท์ในชุมชน บรรยากาศการจัดขบวนเทียนจากวัดต่างๆ เริ่มทยอยเดินทางมาจอดแสดงโชว์ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้ชมความงาม โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจร่วมกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจำนวนมาก
นอกจากนี้เทศบาลนครนครราชสีมายังจัดให้ขบวนเทียนพรรษาจากวัดต่างๆ จอดแสดงโชว์ขบวนเทียนบนถนนราชดำเนิน หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และถนนชุมพล (หลังอนุสาวรีย์ย่าโม) ตลอดทั้งสาย
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดธรรมมาภิรตาราม หรือวัดน้ำไหล ต.พระพุทธ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ช่างแกะสลักเทียนที่เคยแกะสลักเทียนล้อการเมืองจนโด่งดัง ได้ร่วมกันประดิษฐ์ขบวนเทียนชื่อ "เรือเมืองไทย" โดยปั้นรูปบุคคลที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยนั่งอยู่บนเรือเมืองไทย อาทิ นายสมัคร สุนทรเวช นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ปู่เย็น ผู้ทระนง ฯลฯ นอกจากนี้ช่างแกะสลักเทียนยังปั้นรูปเทียนล้อการเมืองกรณีเขาพระวิหารอีก 2 คน นั่งอยู่นอกเรือเมืองไทย คือ นายนพดล ปัทมะ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา