"โทนี่ จา" นักแสดงศิลปะการต่อสู้บทบู๊แห่งยุค หายตัวลึกลับกว่า 3 เดือน ทิ้งงานกำกับการสร้าง "องค์บาก 2" ทีมงานปั่นป่วน กระทบถึง "พระนเรศวรภาค 3" ด้าน "เสี่ยเจียง" ระดมคนตามตัว แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยเจ้าตัวหันไปคร่ำเคร่งไสยศาสตร์บูชาเทพ เล่นพระเครื่อง
มีรายงานว่า นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ "เสี่ยเจียง" เจ้าของบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กำลังกลุ้มใจและประหลาดใจอย่างมาก เพราะ นายพนม ยีรัมย์ หรือ "โทนี่ จา" นักแสดงในสังกัดที่ปลุกปั้นโด่งดังหายตัวเงียบไปนานร่วม 3 เดือน ต้องหยุดงานสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ต่อภาค 2 "องค์บาก" ซึ่งทุ่มงบประมาณไปกว่า 300 ล้านบาท โดย "จา พนม" ทำหน้าที่แสดงนำและกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เอง ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จะส่งผลเสียหายต่อข้อตกลงซื้อขายล่วงหน้ากับผู้จัดจำหน่ายทั่วโลก
ด้าน นายปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้ผลักดัน "จา พนม" จากผลงาน "องค์บาก 1" และ "ต้มยำกุ้ง" เปิดเผยว่าไม่เจอหน้า"จา พนม" นานถึง 3 เดือนแล้ว และกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง "องค์บากภาค 2" ก็หยุดถ่ายทำนานถึง 2 เดือน หลังถ่ายทำไปได้แล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เสี่ยเจียงจึงขอให้เข้าไปช่วยดูแลหนังเรื่องนี้ให้มากขึ้น ทั้งนี้เขามั่นใจว่าหนังจะออกมาสมบูรณ์ เพราะได้ดูภาพบางส่วนแล้ว และจะถ่ายทำในส่วนที่เหลือให้ทันกำหนดฉายในเดือนธันวาคมนี้
แหล่งข่าวจากคนใกล้ชิด ตอบคำถามกรณีถูกตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการโปรโมทภาพยนตร์ว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะทีมงานที่ขึ้นตรงกับ "จา พนม" ต่างต้องเดือดร้อนกันทั่วหน้าหลายชีวิต เพราะเข้าเดือนที่สี่แล้วยังไม่ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้าง ยิ่งกว่านั้นเรื่องนี้ไม่เพียงกระทบ "เสี่ยเจียง" เท่านั้น ยังกระทบไปถึงการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาคจบ" ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล โดยต้องรอ "จา พนม" เข้าคิวถ่ายในบทเด่นทหาร "จาตุรงค์บาท" ดูแลช้างศึกด้วย
แหล่งข่าวยังยืนยันด้วยว่า พฤติกรรมและทัศนคติของนักแสดงบทบู๊คนดังได้เปลี่ยนไปอย่างมาก โดยหันไปศึกษาคร่ำเคร่งเรื่องพระเครื่องและการบูชาเทพ โดยที่ผ่านมาได้เปิดทำธุรกิจพระเครื่องอยู่กับพี่เขย แต่ก็ไม่ได้กลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ในระยะเดียวกันนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ "จา พนม" มีสัญญากับบริษัทสหมงคลฟิล์ม เป็นเวลา 10 ปี ขณะนี้ยังเหลืออย่างน้อย 5 ปี
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
