x close

แฉแก๊งปาหิน-ปานับสิบ โชเฟอร์ 10 ล้อใส่กันน็อก

นายอานนท์ เหยื่อปาหิน
นายอานนท์ เหยื่อปาหิน



          ตร.กรุงเก่าจับแล้ว 6 โจ๋แก๊งปาหิน ก่อคดีขว้างหินจนโชเฟอร์รถปูนตาบอดสนิทไป 1 ข้าง สารภาพปาหินรถปูนมาแล้วกว่า 10 คัน ทั้งที่สระบุรี-อยุธยา โดยไม่เลือกหน้า เพราะแค้นเคยถูกรถปูนเบียดจยย. แต่ละคนมีประวัติเป็นแก๊งลักจยย.อยู่แล้ว ส่วนโชเฟอร์เคราะห์ร้ายที่มาร่วมแถลง ยันไม่ให้อภัยผู้ต้องหา อยากเห็นศาลจำคุกตลอดชีวิต แฉคนขับรถปูนตอนนี้ใส่หมวกกันน็อกป้องกันตัวกันแล้ว 

          เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 ส.ค. พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธาตรี ตั้งโสภณ รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. พหล เหรียญทอง ผกก.สภ.นครหลวง จ.พระนคร ศรีอยุธยา พ.ต.ท.อำนาจ สุขทรัพย์ศรี รองผกก.กลุ่มงานสืบสวน พร้อมกำลังตำรวจกว่า 100 นาย ควบคุมตัว 6 คนร้าย คดีก่อเหตุปาหินใส่กระจกรถบรรทุกไปสอบสวนที่ สภ.นครหลวง จ.พระนคร ศรีอยุธยา 

          ทั้งนี้ กลุ่มคนร้าย ประกอบด้วย 1.นายยุทธพงษ์ หรืออาร์ม โสอุบล อายุ 18 ปี 2.นายเอกพงษ์หรือปู สมสาย อายุ 23 ปี 3.นายทศพล หรือเบิร์ด เพ็งเขียว อายุ 20 ปี 4.นายชาย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี 5.นายแอ๋ง (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และ 6.นายตุ้ย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี พร้อมรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 3 คัน หลังจากรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุปาหินใส่รถบรรทุกปูนซีเมนต์ที่ใกล้สี่แยกโคกมะลิ ถนนนครหลวง-บ่อโพง ต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.51 จนทำให้นายอานนท์ อินทแพทย์ อายุ 32 ปี โชเฟอร์ขับรถบรรทุกปูนดวงตาซ้ายบอด

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคนร้ายแก๊งนี้ เคยก่อเหตุปาก้อนหินใส่รถบรรทุกได้รับความเสียหายในเขต อ.แก่งคอย 7 คัน และในเขต อ.เมืองสระบุรี อีก 4 คัน จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี จับกุมได้ ก่อนจะส่งตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.คลองหลวง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครหลวง แจ้งข้อหาเพิ่มในคดีร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นและทำให้เสียทรัพย์ และให้นายอานนท์ โชเฟอร์รถบรรทุกปูน และนางวรรษมล อินทแพทย์ อายุ 29 ปี ภรรยามาชี้ตัว โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา สาเหตุเพราะโกรธแค้นที่เคยถูกรถบรรทุกปูนเฉี่ยวรถจักรยานยนต์กลุ่มของตนเองจนเกิดอุบัติเหตุ และเก็บความแค้นไว้ระบายกับรถบรรทุกปูนทั่วไป 

          หลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนจำนวนกว่า 200 คน ที่มามุงดูและต่างสาปแช่งถึงพฤติกรรมอันโหดร้าย และพยายามจะรุมประชาทัณฑ์แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้ได้ โดยการทำแผนฯ ได้เริ่มจากจุดที่คนร้ายเอาก้อนหินที่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จากนั้นขับรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 3 คัน วิ่งตรงไปแยกโคกมะลิ รถจักรยานยนต์คันที่ 2 ที่มีนายอาร์ม เป็นคนขับ นายตุ้ยและนายปูซ้อนท้ายกันมา สวนกับรถ บรรทุกปูนคันเกิดเหตุ นายตุ้ยเป็นคนที่ถือก้อนหินขว้างไปถูกกระจกหน้ารถบรรทุกแตกและถูกตาของนายอานนท์ จนได้รับบาดเจ็บและรถเสียหลักพลิกคว่ำ ทั้งหมดจึงแยกย้ายกันหลบหนีไป อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หลังการทำแผนฯ กว่า 2 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนต่อ 

          พล.ต.ต.นเรศกล่าวว่า จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่ากลุ่มแก๊งดังกล่าวอยู่ อ.แก่งคอย และมีพฤติกรรมเป็นกลุ่มโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในเขต จ.พระนคร ศรีอยุธยา และ จ.สระบุรี โดยมีการติดตามของกลางเป็นโครงรถจักรยานยนต์จำนวนกว่า 20 คัน ที่ถูกทิ้งในแม่น้ำป่าสักในเขต อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งจะมีการแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เพิ่มเติมอีก ส่วนที่แก๊งนี้เข้ามาหาก่อเหตุใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะหนึ่งในสมาชิกแก๊งและเป็นคนลงมือปาหินใส่รถบรรทุกปูน คือนายยุทธพงษ์ โสอุบล อายุ 18 ปี ซึ่งมีภรรยาอยู่ในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา

          นายอานนท์ เหยื่อปาหิน กล่าวว่า ตนเองตาซ้ายบอดตลอดชีวิต เพราะแพทย์บอกว่าเบ้าตาแตกละเอียด ดวงตาดำแตก ไม่สามารถรักษาให้กลับมามองเห็นได้ ถึงจะแค้นก็ทำได้แค่เพียงบอกคนร้ายว่า ต่อไปอย่าไปทำเช่นนี้อีก เพราะคนที่ไม่รู้เรื่องอย่างตนเองต้องมารับกรรม เมื่อคนเป็นหัวหน้าครอบครัวและมาตาบอดชีวิตก็ต้องเปลี่ยนแปลงลำบากขึ้นแน่นอน ครอบครัวก็ลำบาก เพราะตนเองกลายเป็นคนพิการแล้ว และหากเป็นไปได้อยากให้ศาลลงโทษสถานหนัก จำคุกตลอดชีวิตไปได้ยิ่งดี คนร้ายกลุ่มนี้ถือเป็นภัยเป็นอันตรายต่อสังคม และคนทั่วไปโดยเฉพาะกลุ่มขับรถบรรทุกปัจจุบันก็ต้องหาทางป้องกันชีวิตตนเอง โดยสวมหมวกกันน็อกขับรถบรรทุกกันแล้วในช่วงนี้ และก็พูดด่าว่าพวกปาหินคือสัตว์นรกชิงสุนัขเกิด แม้คนร้ายจะยกมือไหว้ขอโทษตนก็ไม่อภัยให้

          นายวัชรินทร์ โพธิ์เหลือ อายุ 42 ปี หัวหน้างาน บริษัทรถปูน เปิดเผยว่า ตนเป็นเจ้านายโดยตรงของนายอานนท์ ทางบริษัทได้ดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการรักษาตัว โดยพาคนเจ็บไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ถึง 5 แห่ง เพื่อจะให้ดวงตามองเห็นเหมือนเดิม แต่สุดความสามารถของแพทย์ และทางบริษัทยินดีให้ทำงานต่อตลอดไป ในหน้าที่เสมียนดูแลด้านงานธุรการ ต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความพยายามในการจับกุม ส่วนผู้ต้องหาอยากให้ถูกลงโทษสถานหนัก


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แฉแก๊งปาหิน-ปานับสิบ โชเฟอร์ 10 ล้อใส่กันน็อก อัปเดตล่าสุด 11 สิงหาคม 2551 เวลา 14:30:47 4,240 อ่าน
TOP