x close

ก็แค่แตกต่าง สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข


สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข


          "เราก็มีดีตรงที่เราจริงใจ มีดีตรงที่เราพูดตรง แต่ว่าเราไม่ดีตรงที่ไม่ใช่คนน่ารัก ไม่ใช่คนหวานแหวว ไม่ได้เรียบร้อยอย่างกุลสตรี เซ็งค่ะ ท้อค่ะ" พอถาม สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข ก็ตอบทันควันถึงความรู้สึกเรื่องข่าวคราว

          ข่าวที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นถี่ๆ และไม่เป็นไปในทางที่ดีนัก ทั้งเรื่องมาสาย เบี้ยวคิว ชอบวีน และอีกสารพัดสารพัน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นเจ้าตัวว่าไม่เป็นความจริง ยกเว้นก็แต่เรื่องไปโมโหใส่พนักงานโรงหนัง ซึ่งข่าวที่ออกมานั้นบอกว่าเธอไม่พอใจที่ถูกตรวจกระเป๋าก่อนเข้าชมภาพยนตร์ จนถึงขั้นโยนกระเป๋าใส่ ในวันฉายภาพยนตร์เรื่อง "เฟรนด์ชิพ" ที่เธอนำแสดง

          "วันนั้นเป็นวันที่วุ่นวายมาก อะไรหลายๆ อย่างไม่ลงตัว และเราเองมีทั้งคุณแม่และเพื่อนเป็นสิบคนเลยที่ไปด้วย เราให้สัมภาษณ์อยู่ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ แล้วต้องวิ่งจากสยามดิสฯ ไปพารากอนเพื่อไปดูหนัง ระยะทางประมาณกิโลหนึ่ง เราก็เหนื่อย แล้วไม่รู้ว่าคุณแม่อยู่ตรงไหน ขึ้นไปชั้นโรงหนังก็โทร.หา จะถามว่าได้ตั๋วหรือยัง เพราะขนาดเราเป็นนักแสดงยังไม่ได้เลย

          ก็ยืนโทรศัพท์อยู่หน้าโรง แล้วใครไม่รู้เดินเข้ามา บอกไม่ได้นะครับ เอาโทรศัพท์เข้าโรงหนังไม่ได้ ก็โอเค เก็บใส่กระเป๋า กำลังจะเดินเข้าโรงก็มีคนมากระชากกระเป๋า บอกต้องตรวจกระเป๋าด้วย เราก็รู้สึกว่าเออ...ชักจะมากไปแล้วนะ ไม่ชอบไง มาทำแบบนี้กับเรา

          เลยพูดว่า เฮ้ย!พี่ นี่กระเป๋าของเรานะ ช่วยเงยหน้าขึ้นมาดูหน่อยได้ไหมว่าเราเป็นใคร คือเพื่อนของเราหลายคนก็โดนแบบนี้ แต่เพื่อนไม่มีสิทธิพูดไง แต่เรามีสิทธิ เราเลยต้องพูดว่า พี่ทำแบบนี้ไม่ถูกนะ เราสายป่านนะ เป็นนักแสดง แต่จริงๆ ไม่ว่าเป็นใคร เขาก็ไม่ควรทำแบบนี้นะคะ"

          ส่วนว่าทำไปแล้วใครจะมองดี-ไม่ดี อย่างไร สายป่านว่าเธอคงทำอะไรไม่ได้ "แต่ก็ไม่มีใครมองเราดีอยู่แล้วนี่คะ" เธอบอก อาจจะเพราะ "พูดตรง" แบบนี้นี่เอง จึงมีเสียงพูดกันอีกว่า เธอน่ะดังแล้วหยิ่ง ทำอะไรไม่เห็นหัวใครอื่น "จริงเหรอคะ" คนถูกว่าย้อนถาม "แต่สิ่งที่เราทำ ไม่เคยก้าวร้าวใส่คนอื่นก่อนเลยนะ จะทำกับคนที่มาทำเราก่อนเท่านั้น" เธอยืนยัน

          ขณะที่เรื่องท้าทายประเภทเป็นพรีเซ็นเตอร์รณรงค์งดสูบบุหรี่ แต่ยังกล้าสูบบุหรี่ในชุดนักเรียนนั้น สายป่านปฏิเสธอย่างจริงจังว่าไม่ใช่ ไม่จริง แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้ "ข่าวอย่างนี้มีมาตั้งนานแล้วนะคะ แล้วเราก็ทำอะไรไม่ได้ เราอยู่ตรงนี้ เรารู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ แต่คงต้องแล้วแต่ว่าใครจะเอาอะไรไปเขียนยังไง"

          เธอบอกด้วยว่าจริงๆ แล้ว ที่ผ่านมาเธอปรับเปลี่ยนตัวเองเยอะพอสมควร เพื่อให้เหมาะกับการทำงานในวงการนี้ "แต่ก็อยากให้ใครหลายคนยอมรับในสิ่งที่เราเป็น เลยไม่อยากเปลี่ยนอะไรให้มากมาย เราไม่อยากใส่หน้ากาก ทำต่อหน้าอย่าง ลับหลังอีกอย่าง เรายอมรับว่าเราเป็นคนแปลก แต่จะให้ทำยังไงล่ะ ก็อยากทำงานที่รักนะ แต่ก็อยากเป็นตัวของเราเองด้วย เราเป็นคนตรง เป็นคนพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วก็เป็นคนพูดจาห้าวๆ โวยวาย แต่เราไม่ได้เหวี่ยงนะ มีเหตุมีผลน่ะ"

          หากก็ยังเจอข่าวต่างๆ นานา ซึ่งสายป่านว่า "บั่นทอน" เธอมาก "แต่สิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้ คือเวลาไปทำงานแล้วผู้ใหญ่เอ็นดูเรา รักเรา ชมเรา เพราะเราตั้งใจและขยันทำงาน ส่วนเรื่องข่าว เราพยายามปลง" สำหรับเรื่องงานนั้น สายป่านว่าระยะหลังมานี้เริ่มมีการเลือกงานมากขึ้น ไม่ใช่เรื่องมาก หากแต่อยากรับงานให้เหมาะกับตัว อย่างล่าสุดในงานแสดงภาพยนตร์ของเยอรมนี บทที่เธอเล่นก็น่าสนใจ

          "ตอนแรกคนจะตั้งความหวังว่า เราจะต้องเป็นเด็กแบบพ่อคนดีฝังในน่ะ นึกออกป่ะ โฆษณาของแฮปปี้ที่เคยถ่ายเป็นชิ้นแรกๆ ทำให้คนมองว่าเราต้องเป็นเด็กหวาน คิกขุ ตอนนี้เลยพยายามรับงานที่ตรงกับตัวเอง และก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับบทที่เขาส่งมา ก็คนละครึ่งทางกันไป

          สำหรับคนที่มาคาดหวังกับเรา อยากจะบอกว่าตัวจริงๆ เราไม่ใช่คนหวานอย่างที่รู้สึกกันไปอย่างนั้น ก็อยากเปิดใจให้กว้างขึ้น เพราะจริงๆ แล้วในสังคมที่เราอยู่ การที่จะมีคนเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างนี่ค่อนข้างยาก ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนไม่ดี เราก็มีดีตรงที่เราจริงใจ มีดีตรงที่เราพูดตรง แต่ว่าเราไม่ดีตรงที่ไม่ใช่คนน่ารัก ไม่ใช่คนหวานแหวว ไม่ได้เรียบร้อยอย่างกุลสตรี แค่นั้นเอง"


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ภาพประกอบโดย Kapook.com


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ก็แค่แตกต่าง สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข โพสต์เมื่อ 18 สิงหาคม 2551 เวลา 10:57:12 19,264 อ่าน
TOP