x close

สลดชีวิต ตา-ยาย พิการทั้งคู่

ตา-ยาย


          สลดชีวิตสองผัวเมีย เคยร่ำรวยมีกิจการรถบรรทุก แต่ทั้งคู่ไม่เคยหันกลับไปดูแลพ่อ-แม่จนล้มป่วยและเสียชีวิต ทั้งฆ่าสัตว์เป็นอาจิณ หลังพ่อ-แม่ป่วยตายชีวิตเริ่มตกต่ำ สามีถูกรถเฉี่ยวชนจนเป็นอัมพาต ส่วนฝ่ายเมียเป็นโรคเบาหวานจนต้องตัดขา ส่วนลูก 3 คนก็ไม่เคยกลับมาเหลียวแล ยอมรับสำนึกและเชื่อว่าเป็นกฎแห่งกรรมที่เกิดผลในชาตินี้ วอนเป็นอุทาหรณ์ให้คนรุ่นหลังอย่าละเลยผู้ให้กำเนิด

          เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร นอภ.สัตหีบ จังหวัดชลบุรี รับการร้องเรียนจากนางประโลม ปราบศัตรู อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/5 หมู่ที่ 7 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ ว่ามีนายไพเราะ ทิมทอง อายุ 71 ปี และนางสะอาด ทิมทอง อายุ 65 ปี สองสามีภรรยาสภาพร่างกายพิการทั้งคู่ ดำรงชีวิตอยู่ได้เพราะมีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ โดยอาศัยอยู่ในกระต๊อบยกพื้นสูง ปูด้วยไม้อัดและปิดฝาผนังด้านหลังด้วยแผ่นสังกะสีเก่าๆ อยู่ในป่าละเมาะ ซอยเขาหมอน หมู่ที่ 7 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าสองสามีภรรยาเดือดร้อนหนัก หากปล่อยไว้โดยไม่มีใครดูแลอาจต้องเสียชีวิต

          ต่อมาผู้สื่อข่าวรุดไปตรวจสอบพบนางสะอาดสภาพขาซ้ายท่อนล่างขาด เหลือเพียง 3 ส่วน ส่วนนิ้วหัวแม่เท้าขวาถูกตัดขาด ขาลีบ ไม่มีแรง นั่งอยู่เคียงข้างกายนายไพเราะผู้เป็นสามีที่เป็นอัมพาต เดินไม่ได้ นอนทอดกายบนที่นอนบนแคร่ไม้อัดที่ยกพื้นสูง ภายในที่พักมีเพียงของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเท่านั้น เช่น เตาแก๊ส หม้อหุงข้าว ถ้วย ชาม ช้อน ส่วนเสื้อผ้าที่เปลี่ยนสวมใส่แทบจะไม่มี 

          นางสะอาด เปิดเผยว่า ปรับทุกข์กับสามีเป็นประจำ เพราะชีวิตที่ผ่านมาไม่น่าจะมาลำบาก เคยเป็นเจ้าของกิจการรถบรรทุก มีที่ดิน มีฐานะดี แต่จู่ๆ ชีวิตก็เริ่มเลวร้าย ทรัพย์สมบัติต้องหมดไป มีความเห็นตรงกันว่าคงเป็นเพราะกฎแห่งกรรมที่เราทั้ง 2 คนทำไว้กับพ่อแม่บังเกิดเกล้าทั้ง 2 ฝ่าย คือตั้งแต่ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านไม่เคยหวนกลับไปดูแลพ่อ แม่ แม้แต่ขณะเจ็บป่วย จนท่านเสียชีวิตไปก็ไม่มีโอกาสไปดูใจแต่อย่างใด หลังจากนั้นชีวิตเริ่มตกต่ำ โรคร้ายเข้ามาเยือน สามีถูกรถเฉี่ยวชนจนเป็นอัมพาต ส่วนตัวเองเป็นเบาหวานต้องตัดขามาหลายปี ลูก 3 คนก็ไม่เคยมาดูแล จึงเชื่อว่าเป็นกฎแห่งกรรมที่ตามมาลงโทษในชาตินี้ 

          ด้านนายไพเราะ กล่าวว่า ยอมรับว่ากฎแห่งกรรมมีจริง ตอนนี้ต้องมาชดใช้ ตอนดีๆ เอาแต่หลงระเริงเป็นนายพรานฆ่าสัตว์ป่า ยิงเก้ง กวาง กระจง มาเป็นอาหาร ไม่เกรงต่อบาป ที่สำคัญไม่เคยกลับบ้านไปดูแลพ่อ แม่ พี่น้อง และผู้มีพระคุณเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ทำให้สำนึกได้ แต่ก็สายเกินไปแล้วที่จะแก้ไข เพราะเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิตก็คือรอวันตายที่เข้ามาเยือนเท่านั้น จะสร้างบุญกุศลก็ไม่มีโอกาส ไม่มีเงิน เพียงขอฝากคนรุ่นหลังอย่าได้ละเลยต่อพ่อ แม่ ผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเรามา ถ้าผู้ใดปฏิบัติดีกับพ่อ แม่ จะไม่พบกับความลำบากอย่างนี้ และขอให้เชื่อเถิดว่ากรรมมีจริง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สลดชีวิต ตา-ยาย พิการทั้งคู่ อัปเดตล่าสุด 14 กันยายน 2551 เวลา 14:44:40 25,081 อ่าน
TOP