x close

เปิดหมวกล้วงชีวิต...คิดแบบ โน้ส อุดม

โน้ส อุดม


          จากผู้ชายรูปร่างหน้าตาธรรมดาที่มีจมูกรูปชมพู่โดดเด่นกลายเป็นลักษณะเฉพาะตัว ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง บวกกับการสั่งสมประสบการณ์อันชาญฉลาด และนำสิ่งที่ถ่ายทอดสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบของทอล์กโชว์ ในชื่อ "เดี่ยวไมโครโฟน" ทำรายได้มหาศาล ส่งพาให้ โน้ส-อุดม แต้พานิช กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลอีกคนหนึ่งของวงการบันเทิง ที่ไม่ว่าจะหยิบจับทำอะไร ก็ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จ และเป็นที่ถูกจับตามองทุกครั้งไป

ตัวตนคนแบบ โน้ส-อุดม


 คิดว่าตัวเองเป็นคนแปลกหรือเปล่า

          โน้ส : ผมชอบคิดว่าคนอื่นแปลกมากกว่า เพราะนั่งรถตู้ไปทำงานกับคนที่ไม่รู้จัก มีบางคนคุยโทรศัพท์ในรถ เกลียดก็เกลียดแต่ก็ต้องฟังมัน แล้วพอถึงที่ทำงานต้องรอลิฟต์อีก นี่แหละประหลาด แต่ก็เคยเจอรุ่นน้องมาถามเหมือนกัน ว่าพี่โน้สคิดว่าตัวเองเป็นคนปกติเหรอ ไม่เคยคิดเหรอว่าตัวเองประหลาด ปกติผมไม่เคยมองมุมนี้มาก่อนเลย คิดแต่ว่าคนอื่นประหลาดมาตลอด สงสัยเราชินกับตัวเราที่เป็นแบบนี้มั้ง แต่ถ้าวัดจากคนใกล้ๆ ตัว ก็ไม่น่าจะปกตินะ

 แท้จริงแล้วโน้ส-อุดม เป็นคนอย่างไร

          โน้ส : ผมเป็นคนอ่อนไหวง่าย จริงจังกับเรื่องไร้สาระ และรู้ว่าตัวเองชอบอะไร แล้วก็เลือกที่จะใช้ชีวิตแบบที่เราชอบ ซึ่งจริงอยู่มันอาจสูญเสียโอกาสบางอย่าง เราอาจจะไม่มีความมั่นคงทางการเงิน ไม่มีอะไรมาการันตีเงินเดือนในแต่ละเดือน แต่เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เราเลือก ผมมีวิธีคิดง่ายๆ คือถ้าอยากมีชีวิตที่อิสระก็อย่าไปเป็นหนี้ ไม่บ้าแฟชั่น ฉะนั้นไม่ว่าปีนี้แฟชั่นอะไรมาก็ทำอะไรผมไม่ได้ ผมก็จะอยู่เชยๆ ของผมแบบนี้แหละ

 เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงหรือเปล่า

          โน้ส : เห็นเขาว่าอย่างนั้นนะ แต่ผมกลับคิดว่าเป็นโลกปกติ เพราะคนทุกคนก็ต้องมีพื้นที่ของตัวเอง แล้วค่อยมีสะพานเชื่อมหากันบ้าง แต่ไม่ต้องมาอยู่แบบเบียดๆ กัน ยอมรับเป็นคนไม่ค่อยเปิดให้ใครเข้ามาง่ายๆ ผมมีเพื่อนเยอะ แต่เพื่อนสนิทน้อยมาก เนื่องจากปิดตัวเอง กว่าจะเปิดใจให้ใครเข้ามาในเส้นรัศมีต้องใช้เวลานานเลยแหละ

 ทำไมถึงเปิดรับคนยาก

          โน้ส : ความจริงผมไม่ได้เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดหรอก แต่เป็นตอนเข้าวงการ ในชีวิตโดนคนสนิททำให้เจ็บซ้ำน้ำใจ ไม่ว่าจะเรื่องเงิน คนรัก ที่โดนทิ่มแทงข้างหลัง เลยทำให้เราเป็นคนกลัวคน ดังนั้นวิธีปลอดภัยที่สุด ในเมื่อคนเป็นตัวปัญหาก็อย่าไปยุ่งกับคน คนเยอะเรื่องเยอะ เลยทำตัวให้ห่างๆ คน แต่ทุกวันนี้ดีขึ้นเยอะ แง้มให้คนเข้ามาบ้าง แต่ไม่ได้เปิดอ้าซ่า


โน้ส อุดม



 ที่เป็นแบบนี้อยากทำตัวโดดเด่นหรือเปล่า

          โน้ส : ประการแรก ไม่ได้คิดว่าจะทำตัวแตกต่างจากคนอื่นเลย ไม่ได้อยากเป็นเด็กแนว หรือว่าต้องคิดต่างคนอื่น อันนี้ไม่มีในหัว แค่รู้ว่าตัวเองชอบแบบนี้ ชอบอิสระในการใช้ชีวิตแบบนี้ ที่ได้ทำอะไรตามใจ ซึ่งก็หานิยามไม่ได้หรอกว่ามันคืออะไร



กว่าจะมาเป็นโน้ส-อุดม


 อะไรในตัวโน้ส-อุดม ที่ทำให้คนชอบ


          โน้ส : ผมถือว่าเป็นบุญมากที่คนเกิดชอบงานของผม เคยมีคนมาพูดกับผม ว่าพี่โน้สเป็นคนโชคดีนะ ที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบแล้วได้ตังค์ด้วย รู้มั้ยมันไม่ได้เป็นกันได้ทุกคนนะ เออ...ผมก็กลับมาคิดว่าจริง เพราะงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ คือสิ่งที่ชอบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นวาดรูป เขียนหนังสือ และเดี่ยวฯ นี่รักเลย เป็นสิ่งที่ทำได้ถนัดเลย ได้เล่าเรื่องที่ไปเจอมา แล้วเห็นคนขำไปกับมุกของเรา

 ถ้าวันหนึ่งแสดงเดี่ยวฯ แล้วคนไม่ขำกับสิ่งที่เล่าจะทำอย่างไร

          โน้ส : นั่นน่ะสิ...ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่ก็คงเหมือนโดนธรณีสูบมั้ง ผมคิดว่าผมน่าจะรู้ตัวเร็วนะ เพราะถ้าคนไม่ขำกับเรื่องที่ผมเล่า ผมคงไม่ดันทุรังทำต่อไปหรอก เมื่อถึงเวลานั้นผมคงรู้ตัว คนเรามันจะมีสัญชาตญาณบางอย่างบอกอยู่ ก็คงจะกันตัวเองไปทำอย่างอื่นแทน ผมไม่อายทำกินไม่หมิ่นเงินน้อย เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ ไม่จำเป็นจะต้องทำเดี่ยวฯ อย่างเดียว แต่ก็ขอทำเดี่ยวฯ 8 อีกสักทีก่อนนะ

 ทำไมเดี่ยวไมโครโฟนต้องล้อการเมืองทุกครั้ง

          โน้ส : การเมืองสำหรับผมมันก็เหมือนมวยปล้ำ ที่ไม่ได้ต่อสู้กันจริงๆ มันเป็นละคร ต่อยไม่ถูกกันด้วยซ้ำ แต่คนดันเคลิ้มไปจริงๆ กับมัน ฉะนั้นผมจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นมากเวลาใครได้เข็มขัด

 คิดว่าที่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นเพราะพรสวรรค์หรือพรแสวง

          โน้ส : ความขยันของผมนี่แหละ ที่ได้พาสิ่งต่างๆ ให้มันเกิดขึ้นกับตัวเองจนมาถึงทุกวันนี้ ในสมัยแรกที่ทำเดี่ยวก็เคยมีไปเล่นแล้วคนไม่ขำเหมือนกัน เลยทำให้เราได้เรียนรู้ศาสตร์แขนงนี้ ได้เรียนรู้จากความผิดพลาด สิ่งเหล่านั้นมันช่วยขัดเกลา ผมไม่ได้เป็นคนเล่าอะไรแล้วตลกทุกเรื่องหรอก ไม่ได้เป็นคนมหัศจรรย์ขนาดนั้น แต่ชอบหาประสบการณ์ ซึ่งประสบการณ์ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ผิดพลาด แค่พลาดน้อยกว่าคนไม่มีก็เท่านั้นเอง

 งานเขียนหนังสือจะออกเมื่อไร

          โน้ส : อยากออกเหมือนกัน ใจน่ะอยากเขียนแต่สังขารไม่เอื้อ สายตาไม่ค่อยไหว และไม่โกรธด้วยที่ถูกเรียกว่างานเขียนของผมเป็นขยะวรรณกรรม เพราะจริงๆ ไดอารี่มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา แต่ละวันที่ผ่านมามันก็คือขยะ และผมก็เป็นคนขายขยะที่เก็บเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาใช้ใหม่ ยอมรับเมื่อ 10 ปีก่อนโดนว่าอย่างนี้แล้วมีน้อยใจเหมือนกันนะ ซึ่งตั้งใจเอาไว้ว่า งานหนังสือของผมถ้าเขียนเสร็จก็จะออกทันที เนื่องจากงานเขียนของผมมันได้เป็นต้นกำเนิดของการทำเดี่ยวไมโครโฟน

 อาชีพจริงๆ ของโน้ส-อุดม คืออะไร

          โน้ส : ไม่รู้เหมือนกัน แต่เวลาไปต่างประเทศ ไปโรงพยาบาลแล้วโดนให้กรอกอาชีพ ก็จะบอกไปว่าขายบริการ นักวางแผนการตลาดให้ตัวเอง เป็นคนสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเองเก่ง มีคนเขาวิจารณ์มาเหมือนกันว่า พี่โน้สเก่งการตลาดหายไปแล้ว รู้จังหวะการปรากฏตัว มีหมอดูหรือเปล่า ผมไม่เคยมีอะไรเลย และไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งขนาดนั้นหรอก ใช้สัญชาตญาณล้วนๆ เราไม่เคยเรียนการตลาดมา ไม่ได้วางแผนอะไรเลย ก็ทำกันแบบบ้านๆ นี่แหละ

          อย่างเดี่ยวฯ คิดอยากทำตอนไหนมีเรื่องเล่าอยากเล่าแล้วก็ทำเลย และไม่เคยไปเรียนที่โรงเรียนทำเดี่ยวไมโครโฟนที่ไหนเลย อยากเรียนเหมือนกันนะ แต่ไม่มีโรงเรียนสอนจะไปเรียนต่างประเทศ ภาษาอังกฤษก็ไม่เก่ง ทุกวันนี้เรียนรู้จากความผิดพลาด โดยใช้ปัญญามากำกับ อย่างตอนที่ออกจากยุทธการขยับเหงือกใหม่ๆ แล้วมาทำเดี่ยวฯ ก็ล้มลุกคุกคลานเหมือนกัน แต่จะถอยหลังก็ไม่ได้ เพราะทุบหม้อข้าวตัวเองมาแล้ว ช่วงแรกๆ เคยมีขึ้นไปเล่าอะไรแล้วคนไม่ขำเหมือนกัน ความเจ็บปวดมันมีนะ ซึ่งเราก็ต้องรับหมดแหละ

 ไม่หล่อแต่ได้เป็นพระเอก

          โน้ส : หัวเราะ...นั่นน่ะสิ ทุกวันนี้ดูโปสเตอร์รูปตัวเองติดข้างหลังบ้าน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพระเอกได้ยังไงเหมือนกัน ส่วนประเด็นการเลือกบทหนังนั้น ใครก็ต้องเลือกบท ผมไม่ได้เป็นนักแสดงฮอลลีวู้ดที่จะเล่นได้ทุกบทบาท

 ความฝันสูงสุดอยากทำอะไร

          โน้ส : อยากเห็นตัวเองนั่งอยู่บ้านที่เชียงใหม่อากาศโปร่งๆ แล้วผมนั่งวาดรูปอยู่ มีหมาสักตัวหนึ่ง มีเสียงเพลงวิทยุเอเอ็ม หรือเอฟเอ็มก็ได้ ส่วนเหตุผลที่ชอบที่นั่นเป็นเพราะจังหวะชีวิตมันตรงกับผมดี ผมไม่รู้หรอกนะว่า เรียกจังหวะอะไรเป็นจังหวะอะไร เป็นจังหวะต๊ะต๊อนง้อนมั้ง อยู่กรุงเทพฯ มันก็เร็วไป อุปมาถ้าเป็นคู่เต้นรำเขาก็เต้นเหยียบเท้าผม แต่เชียงใหม่เข้ากันได้พอดี และไม่ว่าที่กรุงเทพฯ มีอะไรเชียงใหม่ก็มีอย่างนั้น แต่ที่เข้ามากรุงเทพฯ เนื่องจากงานมันอยู่ที่นี่ และแม่ก็อยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วย เลยไปๆ มาๆ แต่สุดท้ายบั้นปลายผมก็อยากไปใช้ชีวิต และไปตายที่เชียงใหม่แน่ๆ เคยชวนให้แม่ไปอยู่ที่นั่นเหมือนกัน แต่ท่านไม่ไปบอกว่าเพื่อนอยู่ที่นี่ ก็เลยตามใจเพราะแม่ทั้งคน



โน้ส อุดม



 ทุกวันนี้มองว่าตัวเองดังหรือเปล่า

          โน้ส : จะไปกล้าตอบได้ไง ผมรู้สึกว่าตัวเองดังตอนอยู่ยุทธการขยับเหงือก จากเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง เป็นตัวประกอบ แล้วมาทำพิธีกรก็กลายเป็นที่รู้จักมีคนทัก ส่วนทุกวันนี้ที่เป็นอยู่มันเป็นอะไรที่เกินคาดคิดเยอะ

 กับหนังเรื่องล่าสุด "อีติ๋มตายแน่" นอกจากแสดงแล้ว ได้ข่าวว่าเขียนบทเอง

          โน้ส : เป็นการเขียนบทหนังครั้งแรก ความจริงแล้วจะทำหนังร่วมกับต้อม (ยุทธเลิศ สิปปภาค) ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว แต่จังหวะเวลาไม่ตรงกัน ตอนนี้ว่าง ต้อมก็เลยมาชวน ตอนแรกก็งงจะทำดีหรือไม่ สุดท้ายทำก็ได้ ยอมรับว่ายากกว่าการทำเดี่ยวฯ เนื่องจากหนังจะต้องมีระบบของนายทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เดี่ยวฯ ทำอิสระ ตามใจเรา

 พอจะมีเดี่ยวทีไรจะต้องมีงานหนังควบคู่กันมาทุกครั้ง

          โน้ส : ไม่เคยสังเกตตัวเองนะ อาจเป็นช่วงจังหวะเวลาพอดี งงเหมือนกัน ก็มีคนบอกแบบนี้ แต่ผมก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้นะ ไม่เคยแพลน ว่ามีเดี่ยวฯ แล้วจะต้องเล่นหรือทำหนัง


"โน้ส" กับความรัก


 จะแต่งงานกับ ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ เจ้าของร้านไอศกรีม "iberry" เมื่อไร


          โน้ส : กับปลาก็ดี ถ้าขืนตอบว่าคนนี้ไม่ใช่เขาต้องมาตีกบาลแน่ๆ ส่วนเรื่องแต่งงานเราค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้คบกันมา 3 ปีแล้ว มันได้ผ่านช่วงโปรโมชั่นมาแล้ว คราวนี้เป็นช่วงโทรจริง ก็ต้องดูกันว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น เนื่องจากมันเป็นช่วงที่ตัวจริงของแต่ละคนออกมาทั้งเราและเขา อันนี้แหละชีวิตจริง ก็ต้องดูกันยาวๆ ไม่เชื่อเสียงเชียร์ให้รีบเเต่ง เพราะคนที่อยู่คือผม ตอนนี้เราดูเขา เขาดูเราไปก่อน

 มีภาพหลุดอี๋อ๋อกับสาวอื่นที่ไม่ใช่ "ปลา"

          โน้ส : อันนั้นอย่าไปถือสาเลย ถ่ายกันเล่นๆ ถ้าจะเอารูปพวกนั้นมาพูดมีเยอะ เป็นพันๆ รูป แทบทุกวันนี้ไม่ต้องเดือดร้อน ผมเป็นคนเจ้าชู้นะ ไม่ได้หยุด แต่มันจะช้าไปเองเป็นช่วงของผู้ชาย ที่ตอนเริ่มแตกหนุ่ม มันก็จะมีดีกรีของมัน แต่ถึงทุกวันนี้อยากเจ้าชู้ สังขารก็ไม่เอื้อ สามทุ่มก็ง่วงแล้ว จะไปเต้นหลีสาว เพลงก็คนละรุ่น สภาพแวดล้อมจะเป็นตัวขัดเกลาเราไปเอง ตอนนี้จะให้ผมไปมีแฟนเด็ก เราจะคุยกันคนละภาษาโต้ตอบกันไม่รู้เรื่อง

 น้อยใจหรือเปล่าโดนว่าขี้เหร่แต่ชอบมีแฟนสวย

          โน้ส : (หัวเราะ)...ไม่เลย จะไปรู้สึกอะไร ก็จริงอย่างที่เขาพูด ก็เขาพูดถูกแล้ว ทุกวันนี้ส่องกระจกก็รู้ตัวเองดี ว่าตัวเองเป็นยังไง


 เขาแหละ..."โน้ส" อุดม

          วัน เดือน ปีเกิด...1 กันยายน 2511

          พี่น้อง...3 คน

          บ้านเกิด...จังหวัดชลบุรี

          งานแรก...เป็นคนเขียนการ์ตูนที่ชัยพฤกษ์

          ผลงานสร้างชื่อเสียง...ยุทธการขยับเหงือก เดี่ยวไมโครโฟน

          รางวัล...ได้รางวัล "คม ชัด ลึกอวอร์ด" ปี 2549 นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากหนังโคตรรักเอ็งเลย



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดหมวกล้วงชีวิต...คิดแบบ โน้ส อุดม อัปเดตล่าสุด 4 ตุลาคม 2551 เวลา 21:09:36 19,842 อ่าน
TOP