x close

ผบ.ทบ.โต้ไม่ได้เป็นพวก ทักษิณ แจง ปฏิวัติ ไม่เกิดประโยชน์


ผบ.ทบ.โต้ไม่ได้เป็นพวก"ทักษิณ" แจง"ปฏิวัติ"ไม่เกิดประโยชน์ จี้รัฐบาลรับผิดชอบเหตุสลายม็อบ 

          พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดาผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ ผ่านรายการเจาะข่าวเด่น ซึ่งออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3   เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 10 ต.ค. ถึงกรณีเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากกว่า ต้องยอมรับว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐได้สร้างความสูญเสียให้กับชีวิตประชาชนเป็นอย่างมาก โดยกองทัพได้ขอให้รัฐบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยต้องระบุให้ได้ว่า ใครเป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง  

          "เมื่อสั่งการแล้ว เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามกฎหมายได้กระทำการถูกต้องกรอบกฎหมายหรือไม่ เจ้าหน้าที่มีความรู้หรือไม่ ว่า อาวุธจะมีอานุภาพร้ายแรง  ทั้งนี้ ตนไม่ได้กดดันว่า รัฐบาลผิดหรือไม่ แต่รัฐบาลต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้พิจารณาว่าแสดงความรับผิดชอบอย่างไร "

          ส่วนการที่หลายฝ่าย หลายองค์กรออกมาเรียกร้องให้ทหารออกมาทำอะไรสักอย่างท่ามกลางวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้น  โดยมีนัยยะทำนองให้ทหารกระทำการปฏิวัตินั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนรู้จุดประสงค์ของคนที่ออกมาเรียกร้องต่างๆ อยู่แล้วว่า ต้องการให้ทหารปฏิวัติ  เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ  แต่จากการประเมินประสบการณ์ในอดีตมาแล้วนั้น อยากจะขอชี้แจงว่า 

          "การปฏิวัติไม่ได้เป็นทางออก ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ  เนื่องจากหากปฏิวัติไปแล้วก็ยืนยันไม่ได้ว่า จะไม่เกิดการชุมนุมขึ้นมาอีก รวมถึงอาจมีการก่อวินาศกรรม เกิดขึ้นอีกเหมือนเมื่อครั้งยุคที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติหรือคมช. เคยประสบมา ก็เห็นว่า ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เศรษฐกิจก็เสียหาย รวมถึงหากมีการเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ หรือแก้รัฐธรรมนูญไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่  กลุ่มนักการเมืองเก่าก็จะกลับมาเหมือนเดิมอยู่ดี  ทั้งนี้ก็ไม่เห็นความเหมาะสมที่จะต้องมีการปฏิวัติ  แต่ตนเชื่อว่า ยังมีวิธีอื่นที่น่าจะทำได้  เพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งพลัง ถ้าทำได้ในขณะนี้ ก็อาจจะช่วยให้วิกฤตการเมืองคลี่คลายได้" 

          เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ โดยระบุว่า การยุบสภา  แก้ปัญหาวิกฤตการเมืองไม่ได้ แต่การยึดอำนาจด้วยการปฏิวัติ คือ คำตอบ  พร้อมฝากบอกให้ ผู้บัญชาการทหารบก อย่ากลัวที่จะทำการปฏิวัติ ว่า ไม่มีความกลัวที่จะกระทำการดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะผ่านเรื่องพวกนี้มามาก จนเข้าใจดี  พร้อมย้อนถาม พล.อ.ชวลิตว่า เข้าใจอะไรผิด หรือไม่   ไม่ต้องห่วง ตนสามารถทำอะไรได้เอง  แต่ให้พล.อ.ชวลิตกลับไปจัดการ กรณีเหตุการณ์คืนวันที่ 6 ต.ค. ต่อเนื่องมาถึงวันที่ 7 ตุลาคม ในเหตุการณ์สลายผู้ชุมนุมจะดีกว่า เพราะตอนแรกพล.อ.ชวลิต รับปากจะเป็นฝ่ายเจรจากับทั้ง 2 ฝ่าย แต่สุดท้ายกลับเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงได้อย่างไร ทั้งนี้ อย่าให้ปัญหาบ้านเมืองมากดดันทั้งที่ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะแก้ไขได้หรือไม่   อย่างไรก็ตาม ยืนยัน กองทัพไม่มีส่วนรู้เห็นจากการเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 7 ต.ค. อย่างแน่นนอน 

          ส่วนการที่มีการตั้งคำถามว่า เหตุใดทหารถึงออกไม่ออกมาช่วยเหลือประชาชน จากเหตุการณ์สลายกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้บัญชาการทหารบกกกล่าวว่า การที่ทหารไม่ออกไปสลายการชุมนุมเพราะกลไกของประเทศไม่ได้ให้อำนาจไว้ ถ้าตามกฎหมายไม่สามารถกระทำได้  ถ้าจะให้ทหารออกไปจัดการกับตำรวจก็เป็นเรื่องยาก  หากทหารออกไปแล้วต้องปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถามว่าใครเดือดร้อน คนที่เดือดร้อนก็คือประชาชนที่จะถูกลูกหลง ไม่ใช่ให้ทหารออกไปแล้วไปจัดการตำรวจ ในอดีตที่ผ่านมาก็ทำอย่างนี้มาตลอด เพราะหากจะให้ทหารนำอาวุธออกไปก็เท่ากับเป็นการปฏิวัติ   ซึ่งเป็นอีกกรณีหนึ่ง จะเกิดหรือไม่เกิดก็ไม่ต้องพูดกัน ในอนาคต  ขณะนี้ทหารก็ทำได้แค่รักษาสถานการณ์ และยืนยันว่าจะไม่มีการปฏิวัติ   ในตอนนี้ และทุกคนในเหล่าทัพก็ยังยืนยันอยู่  

          พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ในคืนวันที่ 7 ตุลาคม ตำรวจได้ประสานขอกำลังเสริมจากทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ มาช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยที่กรุงเทพฯ หลังสถานการณ์วุ่นวายที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถรับมือไว้ได้ ซึ่งทางกองทัพหก็ได้ จัดกำลังไปรักษาความสงบเรียบร้อยให้  

          อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ทหารไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายม็อบ เป็นรัฐบาลสั่งการตำรวจ และไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้น   แต่ก็มีคนนำไปตีความว่า การที่ทหารไม่ปฏิวัติเพราะเป็นพวกรัฐบาล ซึ่งเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  เป็นคนละฝ่ายกับประชาชน ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ใช่ ทหารเป็นทหารของประชาชนทุกฝ่าย และยืนยันว่าไม่ไดทำอะไให้ประเทศชาติเสียหาย แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่มีการปฏิบัติการและทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ และมีการสูญเสีย 

          เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า  หลังเกิดเหตุการณ์ได้คุยกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันในเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่สั่งการ  แต่ทั้งนี้ เชื่อว่า นายกฯ ได้บอกให้คณะกรรมการติดตามสถาการณ์ดูแลเรื่องนี้มากกว่า 

          เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วคาดการณ์ว่าสถานการณ์ดังกล่าวนี้จะยุติอย่างไร เพราะขณะนี้มีกลุ่มก้อนต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวมากมาย ผบ.ทบ.กล่าวว่า  อยากให้รัฐบาลต้องค่อยๆ คิด เพราะสถานการณ์ขณะนี้เป็นอย่างไร  ขึ้นอยู่กับการกระทำของรัฐบาลเองที่จะทำให้เหตุการณ์สงบลงได้  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากเรื่องเดิมคือ ความไม่พอใจ ส่วนที่เกิดขึ้น คือเกิดจากส่วนปฏิบัติที่ตามมา ต้องเคลียร์ตรงนี้ให้ได้ ทำอย่างไรให้บ้านเมืองดีขึ้นได้

          เมื่อถามว่ากดดันแค่ไหน ผบ.ทบ.กล่าวว่า ตนไม่ค่อยอะไร แต่ก็เหมือนกับทุกคนที่รู้สึกท้อแท้ เหนื่อยหน่าย หดหู่ และการที่ออกมาพูดในฐานะกองทัพในวันนี้ก็ถือว่า พูดเกินเลยขอบเขตบทบาทของหน้าที่แล้ว แต่ถ้าไม่พูดก็ไม่ได้ ก็กลายเป็นประเด็นที่มีคนนำไปพูดและทำให้คนไม่เข้าใจ ว่าเมื่อไม่ออกมาก็ต้องเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ บ้านเมืองแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายก็ไม่มีสงบได้

โฆษก ทบ.จี้ "รบ." รับผิดชอบ

          3 เหล่าทัพประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหยุดใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ กรณีสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เคลื่อนขบวนไปปิดล้อมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อกดดันไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบาย 

          ทั้งนี้ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวในรายการ "รู้รักสามัคคี ทำความดีเพื่อแผ่นดิน" ออกอากาศทางสถานีวิทยุกองทัพบก 126 สถานีทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม เกี่ยวกับจุดยืนของกองทัพกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ว่าทหารที่ออกปฏิบัติภารกิจในวันที่ 7 ตุลาคมนั้น จุดประสงค์หลักคือ ออกไปดูแลทรัพย์สินประชาชน ป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีฉกฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้น ไม่ได้ออกไปช่วยตำรวจสลายการชุมนุม หรือทำร้ายประชาชน 

          พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีคำถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดระเบียบผู้ชุมนุมเป็นเรื่องที่ตำรวจทำรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ หรือเป็นการก่อความวุ่นวายของมือที่ 3 ที่ไม่หวังดีแทรกตัวอยู่ หรือกลุ่มพันธมิตรมีส่วนทำให้เกิดความรุนแรงนั้น จุดเริ่มต้นมาจากการสั่งการของรัฐบาล ซึ่งกองทัพมองว่ารัฐบาลควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบ 

3เหล่าทัพประสานตร.ยุติรุนแรง

          เมื่อถามว่า จะให้รัฐบาลรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือยุบสภา พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า "ความรับผิดชอบในขั้นต้นคือ การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งต้องรวดเร็ว โปร่งใส และชี้แจงให้สังคมยอมรับได้ หรือจะรับผิดชอบด้วยวิธีอื่นใด แล้วแต่รัฐบาลเห็นว่าเหมาะสม วันนั้นกองทัพไทยทั้ง 3 เหล่าทัพ ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้หยุดการใช้ความรุนแรงกับประชาชน " 

          พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวว่า กอ.รมน.ได้ตั้งวอร์รูม เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุม ซึ่งทุกวันจะรายงานสถานการณ์เข้ามายังห้องติดตามสถานการณ์ โดยจะเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น โดยด้านการข่าวได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และหน่วยงานที่อยู่ในกองทัพ ขณะนี้ทำงานได้เพียงประสานเพื่อให้ข้อมูล ยังไม่ปฏิบัติการ เพราะยังไม่ประกาศพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อย




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผบ.ทบ.โต้ไม่ได้เป็นพวก ทักษิณ แจง ปฏิวัติ ไม่เกิดประโยชน์ อัปเดตล่าสุด 11 ตุลาคม 2551 เวลา 17:07:10 8,118 อ่าน
TOP