x close

ตลาดหุ้นป่วน ตัวแดงเถือก

หุ้น



          เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องประกาศใช้มาตรการ "เซอร์กิต เบรกเกอร์" สั่งพักการซื้อขายหุ้นทันทีที่ตลาดเปิดทำการซื้อขายในช่วงบ่ายได้เพียง 5 นาที เนื่องจากดัชนีหุ้นดิ่งลงอย่างรุนแรงจากแรงเทขายของนักลงทุนถึง 50.08 จุด และทรุดตัวลงต่ำกว่า 10.02% ไปอยู่ที่ระดับ 449.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10,500 ล้านบาท

          การถล่มขายหุ้นที่ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์จากแรงเทขายของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยทรุดตัวลงจนหลุดแนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับ 500 จุดไปอย่างไม่อาจต้านทาน ได้ ทั้งนี้เมื่อคิดมูลค่าตลาดรวมหรือมาร์เก็ตแคป ซึ่งถือเป็นความมั่งคั่งของประเทศไทยในวันที่ 6 ต.ค. ที่อยู่ที่ระดับ 4.38 ล้านล้านบาทนั้น ปรากฏว่าเพียง 5 วันที่ตลาดหุ้นเปิดทำการจนถึงวันที่ 10 ต.ค. มูลค่าตลาดรวมหายไปถึง 750,000 ล้านบาท เหลือเพียง 3.63 ล้านล้านบาทเท่านั้น

          ทั้งนี้แม้นักลงทุนประเภทสถาบันภายในประเทศจะพยายามเข้าไปซื้อหุ้นเพื่อประคองเสถียรภาพของตลาดหุ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นขานรับข่าวการจับมือกันของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอังกฤษ เพื่อปรับลดต้นทุนในการระดมเงินช่วยสภาพคล่องแก่บรรดาธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลก ด้วยการกดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.50% ก็ตาม

          อย่างไรก็ตาม เพียงชั่วข้ามคืน นักลงทุนต้องตื่นตระหนกอีกครั้งจากกระแสข่าวบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐอเมริกาคือ บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ หรือจีเอ็ม ซึ่งมียอดขายทรุดต่ำลงติดต่อกัน 3 ปี นับจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยบริษัทอาจประสบปัญหาขาดสภาพคล่องจนต้องปิดตัวเองตาม หลังจากที่ตลาดสินเชื่อในสหรัฐอเมริกาถูกปิด

          กระแสข่าวดังกล่าวทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น ร่วงลงอย่างหนักถึง 678.91 จุด หรือลดลง 7.3% หลุดระดับ 9,000 จุด ไปอยู่ที่ 8,579.19 จุด ขณะที่ยุโรปเปิดตลาดหุ้นร่วงลงตามตลาดหุ้นดาวโจนส์และเอเชีย โดยดัชนีฟุตซี่ 100 ตลาดหุ้นลอนดอน เปิดตลาดดิ่งลงทันที 7.1% ดัชนีหุ้นแดกซ์ของเยอรมนีทรุด 7.2% และ ซีเอซี 40 ของฝรั่งเศสตกไป 8.2%

          ส่วนตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีหุ้นนิเคอิ ปิดตลาดลงไป 881.06 จุด หรือลดลง 9.6% ไปอยู่ที่ระดับ 8,276.43 จุด ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แบล็กมันเดย์ในปี 1987 และเป็นระดับที่ปิดต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ค.ปี 2003 โดยระหว่างการซื้อขาย ดัชนีได้ทรุดต่ำกว่า 1,000 จุด หรือลดลงถึง 10.6% 

          ทั้งนี้ เนื่องจากความตื่นตระหนกของนักลงทุนต่อข่าวการล้มละลายของกองทุนเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของญี่ปุ่น ในขณะที่พิษจากภาวะสินเชื่อตึงตัวยังคงขยายวงกว้างออกไป ส่งผลให้ตลาดหุ้นฮั่งเส็งของฮ่องกงร่วงลง 7.19% ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงลงถึง 17% หรือ 300 จุด ทำสถิติต่ำสุดนับแต่ปี 1997

          สำหรับตลาดหุ้นไทย หลังใช้มาตรการเซอร์กิต เบรกเกอร์เพื่อหยุดการซื้อขายในภาคบ่ายชั่วคราวเป็นเวลา 30 นาที และเปิดให้มีการซื้อขายอีกครั้งจนกระทั่งปิดตลาด ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 451.96 จุด ลดลง 48.03 จุด หรือลดลง 9.61% มูลค่าการซื้อขาย 16,291.63 ล้านบาท


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตลาดหุ้นป่วน ตัวแดงเถือก อัปเดตล่าสุด 11 ตุลาคม 2551 เวลา 16:14:04 6,205 อ่าน
TOP