ไอเดียบรรเจิด กรมราชทัณฑ์เล็งหาตึกเก่าคอนโดร้างดัดแปลงเป็นเรือนจำ ใช้สำหรับตรวจพิสูจน์และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคดีเสพยาเสพติดโดยเฉพาะ หลังเกิดปัญหาเรือนจำแออัดยัดทะนาน มีผู้รอตรวจพิสูจน์ในกรุงเทพฯ กว่า 2,600 คน แต่เรือนจำรองรับได้แค่ 1,000 กว่าคน
นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมราชทัณฑ์อยู่ระหว่างการสำรวจตึกอาคารเก่า หรือคอนโดมิเนียมร้างว่างเปล่ามาปรับเป็นเรือนจำ ที่ซึ่งใช้เป็นสถานตรวจพิสูจน์และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยว่าเสพยาเสพติด ซึ่งในปัจจุบันสถานที่ในเรือนจำกลางคลองเปรมกำลังขาดแคลนอย่างหนัก โดยจำนวนผู้รับการตรวจพิสูจน์อยู่ในเขตกรุงเทพมหานครมีประมาณ 2,600 คน แต่พื้นที่ภายในเรือนจำสามารถรองรับได้ 1,000 กว่าคน ทำให้เกิดสภาพแออัดและรองรับคนได้ไม่เพียงพอ ดังนั้นกรมราชทัณฑ์จึงต้องหาแนวทาง ที่จะขยับขยายพื้นที่ดำเนินงานควบคุมตัวจากในเรือนจำเปลี่ยนมาใช้สถานที่อื่นทดแทน
สำหรับขั้นตอนการนำคอนโดมิเนียมร้างมาใช้เป็นสถานที่ตรวจพิสูจน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่า ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้และผลกระทบด้านต่างๆ เพื่อพิจารณาว่ามีความเหมาะสมและเกิดความคุ้มค่าหรือไม่ ประเด็นที่ต้องศึกษาคือ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับเรือนจำจะได้รับความเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน การจราจรมีความสะดวกหรือไม่ เป็นต้น อีกทั้งสภาพของตัวอาคารจะต้องสามารถดัดแปลงให้ใช้งานได้อย่างมั่นคง โดยอาจจะเลือกคอนโดมิเนียมที่มีรูปทรงไม่สูงมากนักเพื่อให้บริหารจัดการได้อย่างคล่องตัว
"สถานตรวจพิสูจน์แห่งนี้ไม่ใช่คุกคุมขังนักโทษ แต่เป็นสถานที่ไว้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในคดีเสพยาเสพติดเป็นเวลาชั่วคราว เพื่อรอการตรวจพิสูจน์ก่อนเข้ารับการบำบัดในสถานฟื้นฟูเพื่อบำบัดต่อไป สถานะผู้อยู่ในสถานตรวจพิสูจน์จึงไม่ใช่ผู้ต้องขังตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ระบุว่าผู้ติดยาเสพติดเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลบำบัด แต่ไม่ใช่นักโทษ"
นายนัทธี กล่าวว่า ระยะเวลาการตรวจพิสูจน์มี 45 วัน เริ่มจากการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ การสัมภาษณ์เก็บข้อมูล การทำประวัติผู้ต้องสงสัย และการวินิจฉัยจากคณะกรรมการว่าจะส่งตัวไปบำบัดฟื้นฟู หรือส่งไปคุมประพฤติตามหลักเกณฑ์ต่อไป ดังนั้น สถานตรวจพิสูจน์จึงควรมีสภาพเป็นเสมือนโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยมารอการวินิจฉัย แต่ปัจจุบันยังต้องใช้พื้นที่ดัดแปลงจากภายในเรือนจำซึ่งไม่เหมาะสม เพราะกฎหมายห้ามไม่ให้ขังผู้ต้องสงสัยคดีเสพยาเสพติดไว้ในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์จึงต้องใช้วิธีประกาศเป็นเขตตรวจพิสูจน์ ไม่ใช่เขตเรือนจำ
"แม้ว่าทางกทม.จะได้จัดสรรงบประมาณมาก่อสร้างเพิ่มเติมที่แดน 13 เรือนจำกลางคลองเปรม แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์และเพียงพอ เนื่องจากจำนวนผู้รับการตรวจพิสูจน์เพิ่มจำนวนมากขึ้นโดยตลอด ส่วนหนึ่งมาจากการที่มีผู้ถูกส่งเข้ารับการตรวจพิสูจน์มากขึ้น และขาดสถานที่รองรับการเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ทำให้ต้องมีการขยายระยะเวลาการตรวจพิสูจน์นานขึ้น" อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า หากสามารถจัดหาอาคารคอนโดมิเนียมร้างใช้เป็นสถานตรวจพิสูจน์ได้ จะทำให้ระยะเวลาการตรวจพิสูจน์สั้นลงและลดความแออัดในเรือนจำได้อย่างแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต