x close

ลิเกเป็นดั่งลมหายใจ ของ อาร์ม…หัวหน้าวงวัย 19 ปี

อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์

อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์

อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์

อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์





สรุปข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มหาลัย'ชีวิต 


          หากจะเปรียบชีวิตคนเป็นดั่งละครที่ต้องพานพบกับความสุขสำเร็จ หรือความทุกข์ยากแล้ว ก็คงจะไม่ต่างอะไรนักกับเรื่องราวชีวิตของ "อาร์ม" ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์ หนุ่มน้อยผู้ต้องแบกรับภาระในการเป็นหัวหน้าวงลิเก ด้วยวัยเพียง 19 ปี มหรสพแห่งชีวิตที่ดูภายนอกมากล้นด้วยเครื่องประดับประดาอันแพรวพราว บนชุดที่ใช้สวมใส่ในการแสดงอันงดงามนั้นในความเป็นจริงแล้วมหรสพลิเกชีวิตจริงนี้ ไม่มีใครสามารถตอบได้ว่า จะยังคงยืนหยัดอยู่บนโลกแห่งความเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้อีกมากน้อยแค่ไหน แต่... สิ่งหนึ่งที่ชาวคณะลิเกคิดเหมือนกันทุกคนคือ ต้องการปกป้องและอนุรักษ์ศิลปะแขนงนี้ให้คงอยู่ไปตราบนานเท่านานเท่าที่จะทำได้

          ปัจจุบัน "อาร์ม" ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาธุรกิจบัณฑิต สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม ในเวลากลางวัน "อาร์ม" ก็ไม่ได้แตกต่างจากเด็กหนุ่มผู้ที่ต้องศึกษาเล่าเรียนตามปกติ แต่เมื่อเสร็จสิ้นจากภารกิจการเรียนรู้ ในช่วงเย็นของทุกวัน จากหนุ่มน้อยนักศึกษา ก็ต้องกลายมาเป็นพระเอกลิเกโรงเล็ก... จากครอบครัวที่เติบโตมาท่ามกลางเสียงวงดนตรีปี่พาทย์ ระนาดเปรียบเสมือนเพลงกล่อมนอน ในวันที่หัวหน้าครอบครัวเรี่ยวแรงเริ่มอ่อนล้า จึงไม่มีทางเลือกที่อาร์มจะต้องรับภาระในการดูแลคณะลิเกเร่ ที่ต้องระหกระเหินเปลี่ยนแปลงสถานที่ตามแต่ค่าใช้จ่าย หรือฤดูกาลทางธรรมชาติเป็นผู้กำหนด

          "มันก็เป็นภาระที่ใหญ่ครับ ต้องแบ่งหน้าที่กัน พ่อก็ดูแลเรื่องเวที แม่ดูแลด้านการเงิน ส่วนตัวผมเองต้องดูแลในส่วนของการแสดง และนักแสดงทั้งหมดเล่นลิเกมาตั้งแต่ประถม 5 อายุประมาณ 10 ขวบได้ คุณแม่เล่นลิเกมาตลอด จำเป็นที่เราต้องสานต่อให้ได้ เวลาที่ได้เล่นลิเกก็รู้สึกว่าสนุก ท้าทายดี เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก" อาร์มกล่าว

          สำหรับสถานที่ที่ใช้ในการตั้งเวทีของลิเกคณะ ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์ นั้น ส่วนมากก็ได้มาจากการแนะนำของแฟนลิเกที่ช่วยบอกต่อว่ายังมีลานตรงไหนที่ว่างอยู่บ้าง แต่ก็ต้องย้ายกันไปเรื่อยๆ ตามแต่จำนวนของคนดู และไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับนักแสดงเด็กที่ยังต้องมีภาระหน้าที่ในการศึกษาเล่าเรียน...


อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์

อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์

อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์

อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์



          "นักแสดงส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ กันแทบทั้งหมด เป็นญาติๆ กันบ้าง แนะนำกันมาบ้าง ก็มีบ้างที่เพลียแต่ก็ต้องพยายามไปเรียนทุกวัน ถ้าเหนื่อยจริงๆ ก็พักการแสดง เพราะจะไม่ทิ้งการเรียน เตรียมตัวตั้งแต่ช่วงเย็นกว่าจะได้นอนก็ราวๆ ตี 1 ตี 2 เช้าก็ต้องตื่นเพื่อไปเรียน เพื่อนๆ ก็รู้ครับว่าเราเล่นลิเก แต่ก็ไม่ได้ล้อเลียนอะไรก็มีแหย่เล่นกันบ้าง แต่ภูมิใจในสิ่งที่ได้ทำครับ ถึงเวลาถ้าเรียนจบแล้วก็คงจะทำงาน แต่ลิเกก็คงจะทิ้งไม่ได้ เพราะใจเรารักในทางนี้แล้ว" อาร์มกล่าว

          อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะสิ่งบันเทิงในยุคสมัยนี้ ทำให้คนมองว่าการแสดงลิเกนั้นน่าเบื่อเกินไปสำหรับชีวิตอันเร่งรีบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ "อาร์ม" ยอมถอดใจเลิกร้างลาไป นั่นอาจแสดงให้เห็นว่า ลิเกสำคัญขนาดไหนสำหรับเขา...

          "วันธรรมดาก็คนดูน้อย แต่ก็ต้องเข้าใจ เพราะคนดูคงติดในภาระหน้าที่การงาน ถึงคนจะน้อยแค่ไหนก็แสดง เพราะถือว่าคนดูมาให้ความรักเมตตาเราแล้ว เราต้องตอบแทน 20 คนนี่ก็ถือว่ามากแล้ว สำหรับคนมาดู ก็มีแฟนประจำมาบ้าง คนในพื้นที่บ้าง ถ้าไม่กลางคนไปเลย ก็เด็กเลย วัยรุ่นไม่ค่อยเห็น บางทีก็ท้อจริงๆ แต่ก็ต้องปรับตัว เศรษฐกิจไม่ค่อยดี คนดูถ้าไม่มีจริงๆ เราก็เล่นศุกร์ – เสาร์ - อาทิตย์บ้าง สถานที่บางครั้ง ก็ให้ลองเล่นไปดูก่อน ถ้าพอจะมีคนดู ก็ค่อยจ่ายค่าเช่าทีหลังก็มีครับ" อาร์มกล่าว

          แม้แนวโน้มของคนดูจะค่อยๆ ลดถอยลงไปเรื่อยๆ อาร์มยังคนยืนยันที่จะเล่นลิเกต่อไป เพื่ออนุรักษ์การแสดงลิเกของไทยไว้...

          "ถ้าย้อนเวลากลับไปได้นั้น ผมก็คงยืนยันที่จะเล่นลิเกต่อไป ไม่เคยเสียใจแม้จะลำบากไปบ้าง อยากมีรายได้เสริม รายได้ส่วนใหญ่มาจากพวงมาลัยบ้าง ค่าเก้าอี้บ้าง บางคนเค้าก็มาดูรอบนอกฟรีเราก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็แสดงต่อไป

          ผมไม่ได้ถูกใครบังคับมาเล่น เราเป็นลิเกทั้งตระกูล บางทีฝนตกเล่นไม่ได้ไม่มีรายได้ เราก็ทนๆ กัดฟันช่วยกัน ได้มากเราก็แบ่งกัน เป็นญาติๆ กัน ถ้าไม่ได้ก็พูดคุยกัน เราไม่สามารถไปเล่นไกลๆ ได้ เพราะน้องๆ และผมก็เรียนอยู่ ก็เล่นในละแวก จ.นนทบุรี เป็นหลัก เด็กๆ 10 คนเรียนกันทุกคน"



อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์

อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์

อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์

อาร์ม ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์



          ทั้งนี้ สิ่งสุดท้ายที่หัวหน้าคณะวัย 19 อยากจะฝากถึงคนทั่วไป มีแต่เพียงคำพูดเรียบง่าย แต่ก็ออกมาจากหัวใจของคนรักลิเกอย่างแท้จริง...

          "อยากจะให้คนไทยอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยนี้ไว้ ช่วยกันสนับสนุนลิเกให้คงอยู่กับคนไทยต่อไป นับวันคนดูน้อยลงมากแล้ว ผมพยามปรับปรุงการแสดงเพื่อหวังว่าจะสามารถทำให้คนมาสนใจมากขึ้น เพราะไม่อยากให้ลิเกสูญหายไป แม้จะรายได้น้อย แต่ก็มีความสุขมากครับที่ยังได้เล่นลิเกอยู่" อาร์มกล่าวทิ้งท้าย

 



คลิปวิดีโอลิเกคณะ ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์ ตอน 1

 



คลิปวิดีโอลิเกคณะ ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์ ตอน 2

 



คลิปวิดีโอลิเกคณะ ประเสริฐศักดิ์ รักศิลป์ ตอน 3

 





คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลิเกเป็นดั่งลมหายใจ ของ อาร์ม…หัวหน้าวงวัย 19 ปี อัปเดตล่าสุด 30 ตุลาคม 2551 เวลา 14:59:50 51,384 อ่าน
TOP