เกิดเหตุโรงเรียนถล่มในเฮติทำให้มีนักเรียนเสียชีวิตอย่างน้อย 50ราย คาดยังมีอีกนับร้อยติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ด้านสหรัฐฯ ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยกู้ภัยโรงเรียนถล่มในเฮติแล้ว
(8 พ.ย.) เหตุเกิดขึ้นที่โรงเรียนเลอ โพรมีส ซึ่งตั้งอยู่บนเขา ชานกรุง ปอร์โตแปรงซ์ เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 22.00 น.ของเมื่อคืนนี้ ตามเวลาในไทย เมื่ออาคารเรียนคอนกรีตสูง 3 ชั้นได้เกิดพังถล่มลงมา เบื้องต้นพบศพแล้วอย่างน้อย 50 ศพ ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน มีผู้บาดเจ็บ 85 คน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งบาดเจ็บสาหัสที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เจ้าหน้าที่วิตกว่ายอดผู้เสียชีวิตจะสูงกว่านี้เพราะยังมีนักเรียนถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกเป็นจำนวนมาก
ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและบรรดาอาสาสมัครได้ระดมกำลังกันมาช่วยค้นหาหาผู้รอดชีวิต โดยต้องใช้พลั่วและมือเปล่าขุดคุ้ยซากปรักหักพัง ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่ามีนักเรียนอยู่ในอาคารขณะเกิดเหตุจำนวนเท่าใด โดยโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนกว่า 700 คน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมปลาย
ทางด้านกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติและตำรวจเฮติเร่งเปิดเส้นทางเพื่อนำหน่วยทหารช่าง 3 กองพัน จากบราซิล ชิลี และเอกวาดอร์เข้าไปช่วยกู้ภัย ขณะที่สาธารณรัฐโดมินิกันประเทศเพื่อนบ้านได้ส่งเฮลิคอปเตอร์สองลำเข้าไปช่วยกู้ภัยด้วย และฝรั่งเศสกำลังเตรียมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปสมทบ
เจ้าหน้าที่บอกว่า ขณะเกิดเหตุกำลังมีการก่อสร้างอาคารเรียนชั้นที่ 4 เพิ่มเติม และมีนักบวชพานักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 3 - 20 ปีขึ้นไปดูงานการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าสาเหตุของการถล่มน่าจะมาจากการต่อเติมอาคาร ขณะที่ตำรวจกำลังสอบสวนเรื่องนี้
หลังเกิดเหตุบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองได้รุดไปที่เกิดเหตุเพื่อค้นหาบุตรหลานด้วยความร้อนใจ เช่นเดียวกับประธานาธิบดี เรเน เปรวอล ที่รีบเดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดเกิดเหตุด้วยตนเองทันที พร้อมกับขอร้องให้บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองและคนมุง ออกจากให้ห่างจากตัวอาคารเรียนอื่น ๆ เนื่องจากวิศวกรวิตกว่าจะถล่มลงมาอีก
ครูชาวฝรั่งเศสที่สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้บอกว่า อาคารเรียนดังกล่าวถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างหยาบ ๆ หลังบางส่วนของอาคารเคยถล่มมาแล้วเมื่อ 8 ปีก่อน ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงซึ่งเป็นบริเวณเชิงเขา พากันละทิ้งที่ดินเพราะกลัวว่าอาคารเรียนจะพังถล่มใส่บ้านเรือนของพวกเขา และเจ้าของโรงเรียนก็พยายามจะกว้านซื้อที่ดินแถบนั้น
เฮติเป็นประเทศยากจนที่สุดในกลุ่มประเทศซีกโลกตะวันตก กำลังพยายามฟื้นฟูความเสียหายจากการก่อจลาจลที่สืบเนื่องมาจากราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นและยังถูกพายุเฮอริเคนและพายุโซนร้อนถล่มอีกหลายลูกในปีนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 800 ราย
สำนักงานเพื่อการพัฒนาหรือ ยูเสด ของสหรัฐ แถลงว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ค้นหา 38 คนพร้อมกับสุนัขค้นหา 4 ตัว และอุปกรณ์กู้ภัยน้ำหนักกว่า 14 ตัน ได้ออกเดินทางไปเฮติ เพื่อช่วยปฏิบัติการกู้ภัยและค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์อาคารเรียนคอนกรีต ของโรงเรียน เลอ โพรมีส ซึ่งตั้งอยู่บนเขา ชานกรุง ปอร์โตแปรงซ์ พังถล่มเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ เวลา 22.00 น.เมื่อคืนนี้ตามเวลาในไทย ทำให้มีเด็กนักเรียนเสียชีวิตหลายสิบคน และยังติดอยู่ใต้ซากอาคารอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าเครื่องบินจะเดินทางถึงกรุงปอร์โตแปรงซ์ในเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น
ทางด้านฝรั่งเศส อดีตเจ้าอาณานิคมของเฮติ ก็เตรียมส่งทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปช่วยตามคำร้องขอของทางการเฮติด้วยเช่นกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาสมัคร กำลังเร่งทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาผู้ที่ยังรอดชีวิตที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ซึ่งล่าสุดสามารถกู้ศพออกมาได้แล้วอย่างน้อย 50 ศพ ช่วยเหลือออกมาได้ 85 คน ในจำนวนนี้กว่า 40 คนอาการสาหัส เจ้าหน้าที่ยังพบสัญญานของผู้รอดชีวิต แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ายังมีเด็กถูกฝังอยู่จำนวนเท่าใด
โศกนาฎกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ อาคารเรียนคอนกรีต สูง 3 ชั้น และกำลังต่อเติมชั้นที่ 4 ได้เกิดพังถล่มลงมาขณะที่นักเรียนกำลังเรียนอยู่ในชั้นเรียน โรงเรียนแห่งนี้ดำเนินการโดยโบสถ์ มีนักเรียนประมาณ 700 คน ที่มีตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลที่มีอายุตั้ง 3 ขวบ ไปจนถึงระดับมัธยมปลาย แต่ยังไม่ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีนักเรียนอยู่ในอาคารเรียนจำนวนเท่าใด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
