จากการสอบสวนหญิงสาวทั้งคู่ทราบชื่อว่า น.ส. ยุวดี ขวางลำ อายุ 27 ปี และ น.ส.ประภาศิริ หินสูงเนิน อายุ 29 ปี ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านโชคชัย 4 โดยเช่าห้องพักที่เกิดเหตุร่วมกัน ส่วนสาเหตุที่ถูกทำร้าย เพราะไปร่วมกู้เงินนอกระบบจากนายพีรัชณ์ 1 แสนบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อเดือน ช่วงหลังเศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีเงินจ่าย จึงหลีกลี้หนีหน้ามาตลอด กระทั่งนายพีรัชณ์บุกมาทวงเงินที่ติดค้างชำระอยู่ถึงห้องพัก แต่พวกตนยังไม่มีให้จึงถูกนายพีรัชณ์ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้ตามร่างกาย รวมทั้งใช้กำลังเตะต่อยทุบขา และแขนจนบวมช้ำ อีกทั้งยังพยายามปลุกปล้ำข่มขืนพวกตน อ้างเป็นการขัดดอก แต่ตำรวจเข้ามาช่วยไว้ทัน
ด้านนายพีรัชณ์อ้างว่า เป็นกรรมการตัดสินฟุตบอลของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยเป็นลูกน้อง เสธ.ทหารชื่อดังผู้หนึ่ง และยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ พ.ต.ท.ภูมินทร์ สิงหสุต รอง ผกก.ป.สภ.สำโรงเหนือด้วย ทั้งนี้นายพีรัชณ์รับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายหญิงสาวทั้งคู่จริง เพราะโมโหที่คู่กรณีทั้งคู่ยืมเงินจากตนซึ่งเป็นของนายทุนผู้หนึ่งแล้วหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง บุกรุก และปล่อยเงินกู้คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด นำส่ง ร.ต.ท.สิทธิชัย บริสุทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.โชคชัย ดำเนินคดี
สำหรับนายพีรัชณ์เป็นอาจารย์ส่วนงานกีฬาและนันทนาการ ของมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต รวมทั้งเป็นผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัยด้วย ขณะที่ พ.ต.ท.ภูมินทร์ สิงหสุต รอง ผกก.ป.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวยอมรับว่ามีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายพีรัชณ์จริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการไปตามกฎหมาย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล