x close

เตือนโจ๋ฮิตเจาะลิ้น - อวัยวะเพศเสี่ยงติดเอดส์

เจาะอวัยวะเพศ



สาวฮิตเจาะจิ๋มอวดแฟนพร้อมถ่ายคลิปโชว์ว่อนเน็ต

          สาวเหนือฮิต "เจาะอวัยวะเพศ" อวดแฟน เชื่อเพิ่มความสุขทางเพศ แถมถ่ายคลิปโชว์วิธีเจาะว่อนเน็ต รองเลขาฯ แพทยสภา ชี้รสนิยมสะท้อนสังคมเสื่อม แพทย์ยันไม่มีผลทางเพศ แต่เสี่ยงติดโรคถึงตาย

          (19 พฤศจิกายน) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า การเจาะอวัยวะตามร่างกายเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นมานาน ทั้ง หู จมูก สะดือ และลิ้น แต่ล่าสุดพบว่าการเจาะอวัยวะเพศกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มเด็กสาววัยรุ่นใน หลายจังหวัดของภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดลำปาง ล่าสุดยังมีการนำคลิปวีดีโอขั้นตอนการเจาะ ซึ่งถ่ายจากโทรศัพท์มือถือเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต

           ทั้งนี้การเจาะอวัยวะเพศของหญิงสาววัยรุ่น กำลังเป็นที่นิยม โดยเชื่อว่าเจาะแล้วทำให้ดูเซ็กซี่ สร้างความพึงพอใจให้กับคู่นอน รวมทั้งเพิ่มความสุขขณะมีเพศสัมพันธ์ให้มากขึ้น ขณะที่บางคนทำไปเพียงเพื่อตามกระแส โดยหลังจากแผลหายมักใส่เป็นหมุดคล้ายกับที่ใส่ในการเจาะลิ้นและสะดือ และใส่ห่วงขนาดเล็กคล้ายตุ้มหู

          ขณะที่ น.พ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ รองเลขาการแพทยสภา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การกระทำดังกล่าว แม้เป็นรสนิยมส่วนตัว แต่ถือว่าไม่เหมาะสมในทางศีลธรรม โดยเฉพาะกับสังคมไทย ขณะเดียวกันการเจาะอวัยวะเพศยังเป็นอันตราย หากอุปกรณ์ที่ใช้ไม่สะอาดมีโอกาสเป็นแผลติดเชื้อ ซึ่งอาจลุกลามเข้าไปภายในจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงฝากเตือนหญิงสาววัยรุ่นที่คิดจะทำให้ล้มเลิกความคิด เพราะจะมีผลกระทบด้านสุขภาพตามมาอีกมาก

          อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การเจาะอวัยวะเพศดังกล่าวจะไม่ทำโดยแพทย์ตามคลีนิคหรือโรงพยาบาล แต่คาดว่าจะทำในร้านเสริมสวยหรือร้านสักทั่วไปซึ่งมีบริการเจาะตามร่างกายอยู่แล้ว

          น.พ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ยอมรับว่ามีการเจาะอวัยวะเพศของเด็กสาววัยรุ่น แต่เป็นการทำเฉพาะกลุ่ม ซึ่งหากไม่มีการให้ความรู้อาจลุกลามเป็นพฤติกรรมเลียนแบบได้ ทั้งนี้ค่านิยมดังกล่าวอาจมีความเชื่อว่าหากทำแล้วจะเพิ่มความสุขในการมีเพศสัมพันธ์ แต่ความจริงแล้วยืนยันว่าไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น

          นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้ว การเจาะอวัยวะเพศยังมีความเจ็บปวด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีเส้นประสาทมาก และเป็นปลายประสาท ทั้งยังอันตราย เพราะแม้จะใช้เข็มใหม่ก็มีสิทธิ์ติดเชื้อได้ แต่หากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ใช้เข็มเก่าอาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคต่างๆ ได้ โดยเฉพาะเชื้อโรคตับอักเสบและการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสโลหิต ซึ่งจะทำให้หมดสติไปถึงขั้นเสียชีวิต รวมทั้งติดเชื้อเอชไอวีซึ่งไม่ สามารถรักษาได้ ดังนั้นจึงไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

          น.พ.ศิริชัย กล่าวว่า การเจาะอวัยวะเพศถือเป็นความสมัครใจและไม่ใช่การรักษาโรค ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดไม่มีอำนาจเข้าไปสั่งห้ามหรือควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม จะขอความร่วมมือไปยังสถานที่ที่ให้บริการในลักษณะดังกล่าว ให้งดให้บริการ เพื่อป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ

          นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีของวัยรุ่นอายุ 14 ปี ที่จังหวัดพิจิตร ที่ใช้เข็มเจาะลิ้นตามแฟชั่น จนพลาดเข็มหลุดมือฝังติดใต้โคนลิ้น อยู่ระหว่างการดูแลรักษาของทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลพิจิตร ว่า การเจาะลิ้นเป็นความนิยมส่วนบุคคล ทำกันเฉพาะกลุ่ม การเจาะลิ้นหรือเจาะอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เป็นสิ่งอันตรายมาก ประชาชนทุกคนโดยเฉพาะวัยรุ่น ไม่ควรทำตามกระแสแฟชั่น โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเลือดออกไม่หยุด หรือที่เรียกว่า ฮีโมฟีเลีย อาจทำให้เสียชีวิตได้ 

          นายแพทย์ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า วัยรุ่นไทยในปัจจุบัน ซึ่งมีประมาณ 14-15 ล้านคน ต้องการความเป็นอิสระจากครอบครัว อิสระจากพ่อแม่ ต้องการเพื่อนฝูง และการที่จะเข้ากับเพื่อนได้นั้น ต้องมีพฤติกรรมเลียนแบบกลุ่ม ให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มที่มีความชอบเหมือนกัน ดังนั้นการดูแลเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางด้านพฤติกรรมของวัยรุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามวัยและเป็นไปตามธรรมชาติ ผู้ปกครองควรปฏิบัติดังนี้ คือ

          1. ควรให้การยอมรับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นว่าเป็นธรรมชาติของเด็ก ที่ต้องการการยอมรับ ทำตามเพื่อน ชอบความเสี่ยง

          2. การเจาะตามอวัยวะต่างๆ เป็นสิ่งอันตราย ไม่แนะนำให้เจาะ แต่ถ้าจะเจาะจริงๆ ก็ควรเจาะเพียงหู 

          3. เด็กหลายคนอาจไม่ทันได้คิดถึงผลร้ายที่จะตามมาจากการทำตามกลุ่มเพื่อน ซึ่งปัญหาที่ตามมาจะแก้ยากกว่าและอาจจะเกิดปัญหาอื่นแทรกซ้อนตามมาได้

          4. วัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องการการดูแลบ้างในบางครั้ง ดังนั้นการช่วยให้วัยรุ่นได้ทำความดีและได้รับการยอมรับ จะทำให้วัยรุ่นอยู่ในกรอบและรู้สึกดีต่อสังคม ซึ่งจากการวิจัยพบว่า จะเป็นการดีถ้าผู้ใหญ่หรือผู้ใกล้ชิดให้ความใส่ใจดูแลพวกเขาบ้าง จะทำให้พวกเขาเกิดความภูมิใจ และจะเป็นเกราะคุ้มกันการเกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ รวมทั้งสังคมก็จะดีตามไปด้วย 

          ด้านนาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ลิ้นเป็นอวัยวะที่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงมาก มีเส้นประสาทและต่อมรับรส การแทงลิ้นหรือเจาะลิ้น อาจทำให้เลือดไหลไม่หยุด เสียเลือดมาจนถึงขั้นช็อค นอกจากนี้ ภายในช่องปากยังมีแบคทีเรียจำนวนมาก อาจทำให้เกิดการอักเสบ เป็นหนอง และเชื้ออาจเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้ช็อคได้เช่นกัน 

          นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวอีกว่า เข็มที่ใช้เจาะ หากเข้าสู่หลอดอาหาร เข็มอาจจะทิ่มแทงกระเพาะอาหารและลำไส้ หากหลุดลงไปที่หลอดลม อาจทิ่มแทงผนังหลอดลมและปอดได้ นอกจากนี้ ยังมีวัยรุ่นหลายรายที่ใช้ยาเสพติด การใช้เข็มที่ไม่สะอาด รวมถึงการใช้เข็มเจาะตามอวัยวะของร่างกายร่วมกัน อาจทำให้ติดเชื้อเอดส์ เชื้อไวรัสตับอักเสบ ซึ่งสามารถติดทางเลือดได้ 

          "อยากให้วัยรุ่น ตระหนักให้ดีว่าการนำวัสดุต่างๆ มาเจาะกับร่างกาย นอกจากไม่มีประโยชน์แล้ว ยังมีความเสี่ยงต่ออันตราย และความงามที่เชื่อกันอาจนำมาสู่โรคภัย ซึ่งนับว่าไม่คุ้มค่าที่จะต้องทำตามแฟชั่น" นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าว




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เตือนโจ๋ฮิตเจาะลิ้น - อวัยวะเพศเสี่ยงติดเอดส์ อัปเดตล่าสุด 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา 14:47:33 104,430 อ่าน
TOP