ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ต.ท.กิตติพงษ์ จิตรคาม สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.ต.วิบูลย์ นนทะแสง รอง สว.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ "พิรุณ" ทำการจับกุมนายโสภณ ศรีอีสาน อายุ 49 ปี อาจารย์ระดับ 7 สถาบันการพละศึกษา จังหวัดอุดรธานี อดีตนักยิมนาสติก และอดีตโค้ชยิมนาสติก เขต 4 จังหวัดอุดรธานี บนรถปิกอัพเชฟโรเล็ต สีดำ ป้ายแดง ซึ่งจอดอยู่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใจกลางเมืองอุดรธานี ในข้อหาบังคับขืนใจ ขณะนัดนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 มาพบ
นายเล็ก (นามสมมติ) อายุ 58 ปี ข้าราชการครูในจังหวัดอุดรธานี และนางสาวเอ บุตรสาว ระบุว่า เมื่อเย็นวานนี้ (18 พฤศจิกายน) นางสาวเอ และนายบี (นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ม.3 ได้นัดไปพบกันในห้องน้ำข้างอาคารอำนวยการสถาบันการพลศึกษา จังหวัดอุดรธานี และเข้าไปภายในห้องน้ำเดียวกันเพื่อพลอดรัก แต่ได้ถูกนายโสภณฯ และเพื่อนอาจารย์อีก 1 คน ซึ่งขณะนี้ไม่รู้ว่าเป็นใคร ทราบเพียงว่าเป็นอาจารย์ในสถาบัน ได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเหตุการณ์ "กอดจูบ" ในห้องน้ำไว้ แล้วเคาะประตูเรียกให้ทั้ง 2 ออกมา
นายโสภณฯ และชายอีกคน ได้ข่มขู่ให้บอกชื่อ-สกุล หมายเลขโทรศัพท์ และลงชื่อในบันทึกรับสารภาพ ก่อนจะปล่อยนางสาวเอ และนายบีฯ กลับบ้าน แต่ปรากฏว่าตลอดทั้งคืน ต่อมาถึงก่อนมีการจับกุม นางสาวเอฯ ได้รับโทรศัพท์จากนายโสภณฯ ให้มาพบเพื่อแก้ไขปัญหาลบ "คลิปวีดีโอ" กว่า 10 ครั้ง โดยมีข้อแม้ว่าต้องมาคนเดียว โดยจะนำรถมารับที่หน้าโรงเรียน ทำให้ นางสาวเอฯ ไปปรึกษาฝ่ายปกครอง นำไปสู่การการดึงเวลากับตำรวจ และสารวัตรนักเรียน วางแผนเข้าทำการจับกุม ท่ามกลางความตกใจของสารวัตรนักเรียน เพราะผู้ต้องหามาจากสถาบันเดียวกัน
นายโสภณฯ กล่าวว่า เย็นวานนี้เดินตรวจภายในบริเวณสถาบัน ถึงบริเวณห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงคนส่งเสียงครางอยู่ในห้องน้ำ จึงได้เดินเข้าไปดูก็พบว่าห้องน้ำใส่กลอนประตู ตนจึงได้เข้าไปในห้องติดกันและเหยียบฐานส้วมปีนดูก็พบ นางสาวเอ และ นายบี อยู่ภายในห้อง จึงนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายวีดีโอไว้ หลังจากสอบถามชื่อ สถาบันและอบรม ได้ปล่อยตัวกลับไป วันนี้ได้โทรศัพท์เรียกให้ นางสาวเอออกมาพบ เพื่อบอกว่าให้สบายใจจะลบคลิปออกโดยตนไม่มีเจตนาร้ายใดๆ แต่ก็มาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว
พ.ต.ท.กิตติพงษ์ เปิดเผยว่า นายโสภณ ถ่ายคลิปวีดีโอแล้วได้โทรศัพท์หานางสาวเอ ข่มขู่ ลักษณะแบล๊คเมล์ให้ออกมาพบ โดยไม่ยอมให้นำเพื่อนออกมาด้วย ถือว่าส่อเจตนาร้าย ทำตัวไม่เหมาะสมกับเป็นครู ตำรวจจึงแจ้งข้อหาบังคับขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้น จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
