ไม่ว่าคุณจะแน่ใจว่าเขาแอบมีอะไรกับเลขาฯ สาว หรือคุณแค่อยากรู้ว่าแฟนเก่าของเขาหน้าตาเป็นยังไง ให้แน่ใจว่าคุณพร้อมที่จะรับมือกับผลที่ตามมาของการแอบดูหรือรื้อค้นข้าวของของเขา
คุณอยู่ตามลำพังในห้องนอนของแฟน และเขาก็ทิ้งโทรศัพท์มือถือเอาไว้ เขาทำตัวห่างเหินเล็กน้อยในระยะหลัง คุณเริ่มสงสัย แล้วก็มีสัญญาณว่ามีเมสเซจเข้ามาที่โทรศัพท์ของเขา นี่อาจเป็นโอกาสของคุณที่จะได้ค้นพบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า-คุณจะทำอย่างไร?
การแอบดูหรือรื้อค้นข้าวของส่วนตัวของแฟนเป็นเรื่องยั่วยวนใจอย่างมาก ส่วนใหญ่เรามักอยากรู้อยากเห็นในเรื่องความรู้สึกส่วนลึกของคู่รัก โดยเฉพาะถ้าเขาไม่ค่อยเปิดเผยความรู้สึกตัวเอง และเราก็รู้สึกไม่มั่นคง และมันยังมีหลากหลายวิธีการที่ยั่วยวนใจเรา โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ที่คุณสามารถมาร์กว่ามันยังไม่ได้เปิดอ่านได้ หลังจากที่อ่านไปแล้ว เช่นไปเดียวกับไดอารี่หรือกระเป๋าสตางค์ของเขา
การก้าวก่ายหรือลางสังหรณ์ ถ้าคุณยอดรับว่าการแอบดูเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวที่ร้ายแรงมาก แต่คุณก็สงสัยอย่างมากว่าเขาจะนอกใจคุณ คุณถามเขาตรงๆ แต่เขาก็ปฏิเสธทุกข้อหา คุณอยากได้หลักฐานที่มั่นคง แต่การแอบค้นข้าวของของเขาเป็นการกระทำที่ฉลาดหรือเปล่าที่จะยืนยันลางสังหรณ์ของคุณ? คุณจะทำอย่างไรถ้าได้พบบางอย่างที่คุณไม่อยากพบหรือบางทีถึงแม้มันจะไม่เป็นอันตรายอะไรมันก็อาจเจ็บปวดได้ เช่น การได้อ่านไดอารี่ของแฟนที่พูดถึงผู้หญิงอื่นที่เขาเคยหลงรัก บางทีการไม่รู้อะไรก็อาจเป็นความสุขก็ได้
ทำไมคุณถึงควรหยุด ความนับถือความไว้วางใจ และความใกล้ชิดสนิทสนม ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด สำหรับสัมพันธภาพที่ประสบความสำเร็จ เราต้องสร้างสมดุลระหว่างความปรารถนาของเราที่จะแบ่งปันและรู้เรื่องราวทุกอย่างด้วยความนับถือในกันและกันที่จะต้องมีความเป็นส่วนตัวบ้าง ถึงแม้บ่อยครั้งที่ความนับถือและความใกล้ชิดสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่งในการแอบสอดรู้เรื่องของเขา เช่น การที่เขาปล่อยให้คุณอยู่ในห้องนอนของเขาตามลำพัง คุณยินดีที่จะเสี่ยงกับการทำลายสิ่งเหล่านี้ในสัมพันธภาพของคุณหรือเปล่า? ลองคิดดูสิว่า คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าคุณพบว่าคู่ของคุณแอบรื้อค้นข้าวของของคุณ
รากเหง้าของปัญหา ถ้าคู่รักของคุณไม่สื่อสารกับคุณ หรือเผยเรื่องราวน้อยมากเกี่ยวกับตัวเอง คุณก็อาจอยากจะหาวิธีลับๆ ในการค้นพบเรื่องเกี่ยวกับเขาและความรู้สึกที่มีต่อคุณมากขึ้น ถึงแม้การแอบสอดรู้เรื่องของเขาอาจทำให้คุณได้รับความพึงพอใจทันที แต่มันก็เป็นทางออกในระยะสั้น และถ้าคุณชอบแอบรื้อค้นข้าวของของแฟนจนเป็นนิสัย คุณก็อาจใช้เรื่องนี้เป็นวิธีหลีกเลี่ยงการสื่อสารและพูดถึงปัญหาที่แท้จริง ดังนั้น เมื่อความยั่วยวนใจแรกโผล่เข้ามา ใช้มันเป็นสัญญาณเตือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และถามตัวเองดูว่า
ฉันไว้ใจเขาหรือเปล่า
ฉันรู้สึกปลอดภัยกับเขาหรือเปล่า
ฉันอยากแอบรื้อค้นข้าวของของเขาบ่อยๆ หรือเปล่า
ฉันรู้สึกปลอดภัยที่จะพูดคุยกับเขาในเรื่องความไม่มั่นใจของฉันหรือเปล่า
การพูดคุยในประเด็นนี้ ไม่ว่าจะกับแฟนหรือเพื่อนสนิทจะสามารถกำจัดความอยาก ที่จะสอดรู้เรื่องของเขาไปได้ ถ้าคุณไม่กล้ายกประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาพูดก็เป็นไปได้อย่างมากว่า คุณกำลังผัดผ่อนสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ด้วยความกลัวที่จะต้องเลิกรากับเขา จงกล้าถามตัวเองให้ดี และจงตอบคำถามอย่างซื่อสัตย์ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ประจำวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2551
คุณอยู่ตามลำพังในห้องนอนของแฟน และเขาก็ทิ้งโทรศัพท์มือถือเอาไว้ เขาทำตัวห่างเหินเล็กน้อยในระยะหลัง คุณเริ่มสงสัย แล้วก็มีสัญญาณว่ามีเมสเซจเข้ามาที่โทรศัพท์ของเขา นี่อาจเป็นโอกาสของคุณที่จะได้ค้นพบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า-คุณจะทำอย่างไร?
การแอบดูหรือรื้อค้นข้าวของส่วนตัวของแฟนเป็นเรื่องยั่วยวนใจอย่างมาก ส่วนใหญ่เรามักอยากรู้อยากเห็นในเรื่องความรู้สึกส่วนลึกของคู่รัก โดยเฉพาะถ้าเขาไม่ค่อยเปิดเผยความรู้สึกตัวเอง และเราก็รู้สึกไม่มั่นคง และมันยังมีหลากหลายวิธีการที่ยั่วยวนใจเรา โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ที่คุณสามารถมาร์กว่ามันยังไม่ได้เปิดอ่านได้ หลังจากที่อ่านไปแล้ว เช่นไปเดียวกับไดอารี่หรือกระเป๋าสตางค์ของเขา
การก้าวก่ายหรือลางสังหรณ์ ถ้าคุณยอดรับว่าการแอบดูเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวที่ร้ายแรงมาก แต่คุณก็สงสัยอย่างมากว่าเขาจะนอกใจคุณ คุณถามเขาตรงๆ แต่เขาก็ปฏิเสธทุกข้อหา คุณอยากได้หลักฐานที่มั่นคง แต่การแอบค้นข้าวของของเขาเป็นการกระทำที่ฉลาดหรือเปล่าที่จะยืนยันลางสังหรณ์ของคุณ? คุณจะทำอย่างไรถ้าได้พบบางอย่างที่คุณไม่อยากพบหรือบางทีถึงแม้มันจะไม่เป็นอันตรายอะไรมันก็อาจเจ็บปวดได้ เช่น การได้อ่านไดอารี่ของแฟนที่พูดถึงผู้หญิงอื่นที่เขาเคยหลงรัก บางทีการไม่รู้อะไรก็อาจเป็นความสุขก็ได้ทำไมคุณถึงควรหยุด ความนับถือความไว้วางใจ และความใกล้ชิดสนิทสนม ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด สำหรับสัมพันธภาพที่ประสบความสำเร็จ เราต้องสร้างสมดุลระหว่างความปรารถนาของเราที่จะแบ่งปันและรู้เรื่องราวทุกอย่างด้วยความนับถือในกันและกันที่จะต้องมีความเป็นส่วนตัวบ้าง ถึงแม้บ่อยครั้งที่ความนับถือและความใกล้ชิดสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่งในการแอบสอดรู้เรื่องของเขา เช่น การที่เขาปล่อยให้คุณอยู่ในห้องนอนของเขาตามลำพัง คุณยินดีที่จะเสี่ยงกับการทำลายสิ่งเหล่านี้ในสัมพันธภาพของคุณหรือเปล่า? ลองคิดดูสิว่า คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าคุณพบว่าคู่ของคุณแอบรื้อค้นข้าวของของคุณรากเหง้าของปัญหา ถ้าคู่รักของคุณไม่สื่อสารกับคุณ หรือเผยเรื่องราวน้อยมากเกี่ยวกับตัวเอง คุณก็อาจอยากจะหาวิธีลับๆ ในการค้นพบเรื่องเกี่ยวกับเขาและความรู้สึกที่มีต่อคุณมากขึ้น ถึงแม้การแอบสอดรู้เรื่องของเขาอาจทำให้คุณได้รับความพึงพอใจทันที แต่มันก็เป็นทางออกในระยะสั้น และถ้าคุณชอบแอบรื้อค้นข้าวของของแฟนจนเป็นนิสัย คุณก็อาจใช้เรื่องนี้เป็นวิธีหลีกเลี่ยงการสื่อสารและพูดถึงปัญหาที่แท้จริง ดังนั้น เมื่อความยั่วยวนใจแรกโผล่เข้ามา ใช้มันเป็นสัญญาณเตือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และถามตัวเองดูว่า
ฉันไว้ใจเขาหรือเปล่า ฉันรู้สึกปลอดภัยกับเขาหรือเปล่า ฉันอยากแอบรื้อค้นข้าวของของเขาบ่อยๆ หรือเปล่า ฉันรู้สึกปลอดภัยที่จะพูดคุยกับเขาในเรื่องความไม่มั่นใจของฉันหรือเปล่าการพูดคุยในประเด็นนี้ ไม่ว่าจะกับแฟนหรือเพื่อนสนิทจะสามารถกำจัดความอยาก ที่จะสอดรู้เรื่องของเขาไปได้ ถ้าคุณไม่กล้ายกประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาพูดก็เป็นไปได้อย่างมากว่า คุณกำลังผัดผ่อนสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ด้วยความกลัวที่จะต้องเลิกรากับเขา จงกล้าถามตัวเองให้ดี และจงตอบคำถามอย่างซื่อสัตย์ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ประจำวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2551
