พันธมิตรปะทะ กลุ่มคนรักแท็กซี่ เจ็บ11ราย

           พันธมิตรฯ ป่วน!! สถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ วิภาวดีซอย 3 ก่อนปะทะกันเจ็บทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ตำรวจบางซื่อเผย ยอดคนเจ็บกลุ่มรักแท็กซี่ปะทะพันธมิตร 11 ราย พร้อมระดมตำรวจครึ่งร้อยดูแลเข้มหวั่นปะทะรอบ 2

          พ. ต.ท.ศุภัทร ศุภกำเนิด สารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.บางซื่อ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนับสิบนาย เข้าไประงับเหตุ หลังได้รับแจ้ง เกิดการปะทะกัน ระหว่าง กลุ่มพันธมิตรฯ และ กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถ.วิภาวดี ซ.3 ซึ่งมีการเผายางล้อรถยนต์ เบื้องต้น ทราบว่าแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ พยายามเข้าไปในซอยดังกล่าว และเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ แต่ถูกคนขับรถแท็กซี่ขัดขวาง และเกิดการกระทบกระทั่ง ปาข้าวของ ใส่กัน จนทำให้มีผู้ได้บาดเจ็บเล็กน้อยทั้งสองฝ่าย ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

         นอกจากนี้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกตำรวจตั้งด่านสกัดอยู่ด้านบนทางยกระดับ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนถึงอาคารผู้โดยสาร 1 กิโลเมตร และกลุ่มคนขับรถแท็กซี่สาธารณะที่อยู่ด้านล่างของถนนดังกล่าว วิ่งกรูเข้าหากันต่างฝ่ายต่างมีอาวุธไม้และหนังสติ๊ก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล ได้ตั้งแถวสกัดเอาไว้ตรงกลางทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้แค่ยิงหนังสติ๊กใส่กัน เป็นผลให้การ์ดของพันธมิตรถูกหนังสติ๊กยิงใส่ ที่บริเวณศีรษะล้มลงจำนวน 1 คน ซึ่งต่อมากลุ่มคนขับรถแท็กซี่สาธารณะเห็นว่า มีกำลังน้อยกว่าจึงถอยร่นกลับไปยังลานจอดรถแท็กซี่

          ทั้งนี้ พ.ต.ท.ศุภัทร ศุภกำเนิด สารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.บางซื่อ เปิดเผยความคืบหน้ากรณี กลุ่มแนวร่วมพันธมิตรฯก่อเหตุปะทะกับกลุ่ม กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถ.วิภาวดี ซ.3 ว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พร้อมทั้งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปราบปรามจลาจลชุดสืบสวน และตำรวจนอกเครื่องแบบกว่า 60 นาย ตรึงกำลังดูแลความปลอดภัย ตั้งแต่ปากซอย รวมถึงสถานีวิทยุชุมชนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการปะทะกันขึ้นอีก ซึ่งคาดว่าจะตรึงกำลังเช่นนี้ไปตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หรือ มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากผู้บังคับบัญชา

        ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 11 ราย โดยทั้งหมด มีบาดแผลถลอกตามร่างกายเล็กน้อยและฟกช้ำตามร่างกาย ขณะที่มี 2 ราย ได้รับบาดเจ็บจากการถูกอาวุธปืนยิง ซึ่งขณะนี้ผู้บาดเจ็บอยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาลเปาโล

        อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวผู้จัดรายการ ได้เรียกระดมกลุ่มคนรักแท็กซี่ให้เข้ามาร่วมชุมนุม พร้อมทั้งนำอาวุธเข้ามา เพื่อป้องกันตัวด้วย

         ด้าน พ.ต.ต.ณฐภัทร คูหาทอง สว.สส.สน.ดินแดง เปิดเผย ผลการจับกุม นายกนกพล จันทร์ประดิษฐ์ อายุ 42 ปี อาชีพขายส่งเสื้อผ้า พร้อมของกลางอาวุธปืนกลอูซี่ 1 กระบอก และพบของกลางอีกหลายรายการ อาทิ อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 10 นัด และกระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 48 นัด กระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 25 นัด นอกจากนี้ ยังพบเสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว ประทัดยักษ์ 3 ดอกผูกติดกัน วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง พร้อมเครื่องชาร์ต มีดสั้น 2 เล่ม ซองปืน 1 อัน บัตรเข้าออกทำเนียบรัฐบาล 1 ใบ ผ้าสีเหลืองกู้ชาติ 1 ผืน ผ้าพันคอสีดำเขียนว่า"นักรบศรีวิชัย" 1 ผืน หมวกไหมพรมสีดำ และบัตรการ์ดอาสาพันธมิตรฯ ระบุว่า "ตึกไทยคู่ฟ้า 51" ซุกซ่อนในรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ หมายเลขทะเบียน ปพ 3952 กทม. โดยพบขณะกำลังขับมาตามถนนประชาสงเคราะห์ โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ารถคันดังกล่าวพกพาอาวุธจึงสกัดติดตามจับกุม

        จากการสอบสวน นายกนกพล ให้การว่า เป็นการ์ดอาสาพันธมิตรฯ โดยก่อนจะถูกจับกุมได้ขับรถกระบะส่วนตัว มุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อ สมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ สำหรับอาวุธปืนที่พบและของกลางอื่นๆ ไม่ทราบว่าเป็นของใคร แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้นำรถคันดังกล่าวไปใช้ในทำเนียบรัฐบาล

        เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า อาวุธปืนที่พบน่าจะเป็นอาวุธปืนที่หายไป จากกองร้อยรักษาการภายในทำเนียบ รัฐบาลระหว่างที่กลุ่มพันธมิตรฯบุกเข้ายึด ทั้งนี้ ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่คลังของทำเนียบรัฐบาล มาตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืน กระบอกเดียวกับที่หายไปหรือไม่ พร้อมกันนั้นได้แจ้งข้อหา 1.มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 3.มีเสื้อเกราะกันกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต

         แผนกเวชระเบียน โรงพยาบาลเปาโลฯ แจ้งการรับผู้บาดเจ็บ จากเหตุปะทะที่ถนนวิภาวดี ซอย 3 รวมทั้งสิ้น 11 คน โดยมีรายชื่อ ดังนี้
     1.นายสมคิด พิศนอบ อายุ 28 ปี
     2.นายนนท์ ทิพนันท์ อายุ 49 ปี
     3.นายคมสัน วงศ์สุข อายุ 34 ปี
     4.นายสำรวย ขันฝา อายุ 24 ปี
     5.นายจันดา คชชมพู อายุ 27 ปี
     6.นายวิรัตน์ เอี่ยมระหงษ์ อายุ 50 ปี
     7.น.ส.ศิริประภา วงศ์ลีลากรณ์ อายุ 19 ปี
     8.นายศุปมิตร จันทพันธ์ อายุ 42 ปี
     9.นายเรืองยศ ชูเดช อายุ 39 ปี
     10.นายสุชาติ ช้างเนียม อายุ 50 ปี
     11.นายชัยนรินทร์ กุหลาบอ่ำ อายุ 31


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์