x close

จับอดีต อส. กู้ภัยฉกทรัพย์เหยื่อ หลังหนีกบดาน 6 เดือน

กุญแจมือ



          รวบอดีตกู้ภัย ฉกทรัพย์สินมีค่าเหยื่อไฟไหม้คอนโดหรูฯ หลังหนีกบดานขับแท๊กซี่พรางตัว ตร.เจอพิรุธส่งแฟนสาวหมอชิต 2 เจ้าตัวรับสารภาพ ทำมาแล้วหลายครั้ง ตร.พบประวัติหมายจับอื้อ

          ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 สามารถจับกุม นายเอกอัมรินทร์ อุราเลิศ อายุ 26 ปี อดีตอาสาสมัครกู้ภัยศูนย์พญาอินทรี รหัส อีเกิ้ล 119 อยู่บ้านเลขที่ 734/11 ซ.วัดจันทร์ใน แขวงและเขตบางคอแหลม กทม. ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในที่หรือบริเวณที่มีเหตุเพลิงไหม้หรืออาศัยโอกาสที่ประชานชนกำลังตื่นกลัวในภยันตรายใดๆ และข้อหาใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์(บัตรเครดิต)ของผู้อื่นโดยมิชอบ ตามหมายจับคดีอาญาที่ จ.725/2551 ได้หลังจากหลบหนีไปกบดานตามสถานที่ต่างๆ นานถึง 6 เดือน

          เมื่อเวลา 01.00 น.  พ.ต.ต.สุรวิทย์ โยนจอหอ สารวัตรสืบสวน สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมด้วย ร.ต.ท.อลงกรณ์ ชุ่มวงศ์ ร.ต.ท.อุปดิศย์ ราชกิจเจริญ รองสารวัตรสืบสวน  และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พลับพลาไชย 2 ได้เข้าจับกุม นายเอกอัมรินทร์  ได้ที่ข้างสถานีขนส่งหมอชิต 2 ถ.กำแพงเพชร 6 แขวงและเขตจตุจักร กทม.

          พ.ต.ต.สุรวิทย์ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากได้มีผู้เสียหายจากเหตุเพลิงไหม้อาคารสี่พระยา ริเวอร์วิว คอนโดมิเนียม ตั้งอยู่เลขที่ 108 ถ.เจริญกรุง แขวงบางรัก เขตสัมพันธ์วงศ์ กทม. ได้เข้าแจ้งความว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยจากมูลนิธิต่าง ๆเข้าไปทำการดับเพลิง ขณะเกิดเพลิงไหม้เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าจากการตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินมีค่าหลายรายการ  รวมถึงบัตรเครดิตจำนวนหลายได้สูญหายไป และยังมีใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตส่งมาเรียกเก็บเงินระบุว่า มีการนำบัตรไปใช้ซื้อสินค้าหลายประเภทในห้างต่างๆ

          พ.ต.ต.สุรวิทย์ กล่าวอีกว่า หลังรับแจ้งเรื่อง  พ.ต.อ.ธีรพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 ได้สั่งการให้ทางฝ่ายสืบสวนทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งจากกล้องวงจรปิดโดยประสานกับทางห้างสรรพสินค้าที่ผู้ต้องหานำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปรูดซื้อสินค้า และหลักฐานที่ผู้ต้องหานำบัตรเครดิตไปใช้จ่าย นอกจากนี้ยังได้นำภาพของผู้ต้องหาไปให้กับทางพนักงานของทางห้างชี้ตัวยืนยันได้อย่างถูกต้อง รวมถึงยังมีการตรวจสอบตารางเวรการทำงานในคืนวันเกิดเหตุพบมีชื่อของผู้ต้องหาเข้าทำงานกู้ภัยด้วย จึงได้ส่งสายสืบออกติดตามหาเบาะแสอย่างใกล้ชิด

          "ในที่สุดได้เบาะแสว่าผู้ต้องหารายนี้ หนีไปกบดานที่ต่างจังหวัด ก่อนที่จะเข้ามาขับรถแท๊กซี่ในกทม. และซ่อนตัวตามสถานที่ต่าง ๆในกรุงเทพฯ จึงได้ส่งสายสืบวางกำลังเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าจะมีบรรดารถแท๊กซี่ไปรวมตัวจำนวนมาก เพราะเป็นจุดที่สามารถอำพรางตัวได้ง่าย ยากต่อการติดตาม ตำรวจเน้นไปที่ขนส่งหมอชิต 2 เนื่องจากมีรถแท๊กซี่จำนวนมาก"  พ.ต.ต.สุรวิทย์ กล่าว

          พ.ต.ต.สุรวิทย์ กล่าวอีกว่า ตำรวจใช้วิธีการเดินเท้าคอยดูตามจุดใหญ่ที่มีรถแท๊กซี่จำนวนมาก จนกระทั่งพบรถแท๊กซี่ต้องสงสัยที่เข้ามาจอดที่ข้างสถานีขนส่งหมอชิต 2 โดยแต่ละที่เข้ามาจอดจะมีหญิงสาวลงมาจากรถ พร้อมกับมีการหอมแก้มกับผู้ขับขี่รถแท๊กซี่ จึงทำให้คาดเดาว่า น่าจะไม่ใช่ผู้โดยสาร ลักษณะเป็นสามีภรรยามากกว่า ดังนั้นทางฝ่ายสืบสวนจึงวางแผนดักซุ่มดู พร้อมกับเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดพบรูปพรรณสัณฐานตรงกับผู้ต้องหาจึงทำการจับกุม

          พ.ต.ต.สุรวิทย์ เปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า กระทำการดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง สำหรับผู้ต้องหารายนี้มีหลักฐานชี้ชัดในการกระทำความผิด และจากประวัติมีถูกออกหมายจับทั้งศาลอาญา และศาลธนบุรี อีก 3 คดีด้วยกัน ส่วนจะมีใครร่วมขบวนการอีกหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จับอดีต อส. กู้ภัยฉกทรัพย์เหยื่อ หลังหนีกบดาน 6 เดือน อัปเดตล่าสุด 17 ธันวาคม 2551 เวลา 11:18:14 4,967 อ่าน
TOP