เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากกลุ่มผู้รักสัตว์ป่าว่า เว็บไซต์พันทิปดอทคอม (www.pantip.com) ห้อง Blueplanet มีผู้นำข้อมูลของสัตว์ป่าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่ตายลงจำนวนถึงปีละ 300 ตัว พร้อมกันนี้ยังเปิดเผยข้อมูลความขัดแย้งในองค์กรดังกล่าว ทำให้สัตว์ป่าไม่ได้รับการดูแลอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาไม่เคยส่งสัตวแพทย์เข้าไปตรวจพิสูจน์ซากสัตว์ที่ตายแล้ว ทำให้ตายซ้ำซากตลอดเวลา เนื่องจากขาดการป้องกันที่ถูกต้อง
จากการตรวจสอบของเว็บไซต์ดังกล่าว มีการเปิดเผยข้อมูลของกลุ่มงานบัญชี สำนักงานไนท์ซาฟารี ที่จัดทำสรุปรายงานสัตว์เกิด-สัตว์ตาย ประจำปีงบประมาณ 2551 มีทั้งสิ้น 300 ตัว คิดเป็นมูลค่าจำนวนเงิน 26,539,916 บาท ได้แก่ 4.1 ชนิดสัตว์ที่ตายสูงสุด 3 อันดับ คือ กวางรูซ่า (46 ตัว) กระรอกบิน (29 ตัว) และเนื้อทราย (17 ตัว) 4.2 สัตว์ตายที่มีราคาสูง 3 อันดับ คือ ม้าลายแกรนต์ (7 ตัว) รวมเป็นเงิน 2,793,000 บาท เสือชีต้า (3 ตัว) รวมเป็นเงิน 2,226,000 บาท ม้าลายเบอร์เลล์ (5 ตัว) รวมเป็นเงิน 1,655,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้สัตว์ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีตายลงจำนวนมาก เป็นเพราะไม่มีสัตวแพทย์เชี่ยวชาญคอยดูแลรักษา เมื่อเวลาเกิดเจ็บป่วย เมื่อมีสัตว์เจ็บป่วยขึ้นมาก็จะรักษาไปตามมีตามเกิด เพราะสัตวแพทย์ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่จบใหม่ ส่วนอีกประการ คือ ในช่วงที่นำสัตว์เข้ามาสู่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ไม่มีการตรวจสอบโรคของสัตว์นั้น หรือพักสัตว์ เพื่อดูอาการ ซึ่งสัตว์บางตัวมีการติดเชื้อในระยะฟักตัวจากพื้นที่อื่น เมื่อนำเข้ามาอาจจะมีการแพร่ระบาดติดต่อเชื้อไปยังสัตว์ตัวอื่นได้
นายปรีชา รัตนภรณ์ รองผอ.สำนักการจัดการสัตว์ไนท์ซาฟารี กล่าวถึงกรณีสัตว์ตายว่า เป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา แต่ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมา ในไนท์ฟารีมีสัตว์ตายจริง แต่เป็นสัตว์เล็กสัตว์น้อยซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ที่จริงแล้วที่สวนสัตว์ไนท์ซาฟารี มีเรื่องดีๆ เยอะ แต่ไม่มีใครพูดถึง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์แนวหน้า
