x close

ลิเดีย ตรง...แต่ไม่แรง!

ลิเดีย

ลิเดีย



          3 ปีแล้วที่ชื่อของ ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา เข้ามาอยู่ในทำเนียบนักร้องชื่อดังของวงการบันเทิงไทย ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไป พร้อมกับเป็นเป้าของข่าวลือที่ทำให้เสียชื่อมากมาย จนคุณแม่ของเธอต้องเกิดวีรกรรมทำเพื่อลูกขึ้นมา กลายเป็นข่าวคราวใหญ่โต... วันนี้เรื่องร้ายผ่านไปแล้ว ลีเดีย ได้โอกาสเหมาะมาเยือน "ดาวต่างมุม" อีกครั้ง เพื่อเปิดเผยถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตของเธอกันแบบตรงๆ ไม่มีกั๊ก

เรื่องแม่นี่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์เลยนะ ?

          ลีเดีย : ตอนนี้ดังกว่าเดียแล้ว (หัวเราะ) จริงๆ แม่ก็เป็นคนลุยๆ อย่างนี้อยู่แล้ว สมัยเรียนคุณแม่ก็เรียนที่โรงเรียนทหาร และก็เรียนที่เมืองนอก ต้องช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเป็นคนที่ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่แล้ว แม่จะนิสัยแบบทอมๆ หน่อย แต่ว่าถ้าจะทะเลาะกับใครมันต้องถึงที่สุดจริงๆ ถ้าไม่ถึงเขาคงไม่ทำแบบนั้น จริงๆ เดียก็นิสัยคล้ายๆ คุณแม่ แต่จะเป็นเรื่องๆ มากกว่า ไม่ใช่ว่าอาละวาดเขาไปทั่ว ถ้าเขามารังแก มาทำเราก่อน เราก็สู้เหมือนกัน คือเราไม่ไปรังแกเขาก่อนแน่

ข่าวที่ผ่านมามีวิธีรับมือยังไง ?
 
          ลีเดีย : ที่ผ่านมาก็ทำใจแล้วก็ปล่อยให้เงียบไปเอง เพราะว่าเวลาออกมาพูดเขาก็หาว่า "กินปูนร้อนท้อง" แต่พอเรื่อยๆ มา มันชักจะเยอะไปแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่า "เฮ้ย ไม่พูดแสดงว่าจริง แสดงว่าไปทำแท้งมาแล้ว" ก็เลยคิดว่ามันไม่ไหวแล้ว เรียกว่าท้อเลย ไม่อยากอยู่เมืองไทยแล้ว เจอแต่เขาโจมตี มันแย่มาก

 รวบรวมกำลังใจกลับมายังไง ?

          ลีเดีย : ก็คิดว่า ความจริงก็เป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ ป๊าก็บอกว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เดินเชิดหน้าได้เลย เราไม่ได้โกหก เราพูดความจริงมาโดยตลอด ก็เลยไม่กลัว ก็มีกำลังใจจากครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ กำลังใจจากเพื่อนๆ และก็จากพี่แมท (แมทธิว ดีน) อีกคน คนที่อยู่รอบข้างเขาจะรู้ว่าเดียเป็นยังไง เขาจะบอกว่าเรื่องไหนไม่จริงก็ไม่ต้องไปสนใจ เรื่องไหนจริงก็ยอมรับ เราอยู่บนความจริง ที่ผ่านมาเดินไปไหนมีแต่คนมองท้องเดียอย่างเดียว ไม่มองหน้าเลย  เวลาเขาซุบซิบกันเราก็ได้ยิน เวลาไปไหนเจอคนพูดเยอะ พี่แมทเขาจะของขึ้นแล้วเดินเข้าไปบอกเลย ก็ดีที่มีพี่เขาเหมือนเป็นอีกแรง เรียกว่าเป็นกระบอกเสียงอีกอันหนึ่ง ครอบครัวเรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ข้างนอกเขาไม่รู้ ตั้งอีกกี่ล้านคนที่เห็นข่าวแล้วเชื่อเลย วันนั้นถ้าพี่แมทไปด้วยกับงานที่แม่ไปเละแน่ ดีแล้วที่ไม่ไป

 มีคติอะไรในการดำเนินชีวิต ?

          ลีเดีย : ถ้าคติที่ยึดไว้ตอนนี้ก็คือ ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ มันไม่ใช่นิสัยเดียที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วจะต้องหนีไปเลย มันไม่ใช่การแก้ปัญหา เรามาแก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้าเราดีกว่า ถ้าเราหนีเขาก็จะบอกว่า "นี่ไงไปคลอดลูกแล้ว" หรือว่า "อับอายขายหน้าไปทำแท้ง จนไม่กล้าอยู่เมืองไทย" ก็เลยคิดว่า ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขากล่าวหา ทำไมเราจะต้องหนี เราก็อยู่ตรงนี้แหละ อย่างข่าวที่หาว่าเป็นเมียน้อย เดียก็คิดว่าทำไมเราจะต้องหนีด้วย ก็เราไม่ได้เป็นเมียน้อยใคร

 ความรักในมุมมองของเดียล่ะ ?

          ลีเดีย : ความรักในมุมมองของเดียเนี่ยก็เหมือนเป็นดาบสองคมนะ คือถ้าดีก็ดี ถ้าไม่ดีก็เจ็บ กับพี่แมทธิว ตอนนี้ก็ดีค่ะ เขาก็เสมอต้นเสมอปลาย ให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ดีกว่า ป๊ากับแม่ก็ไม่ได้กีดกันอะไร ก็ดูกันไปเรื่อย ๆ เวลามีปัญหาเขาก็อยู่เคียงข้างเรา ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาตลอด ส่วนอนาคตเรา ทีละก้าวดีกว่าค่ะ เรื่องแต่งงานนี่เดียยังไม่ได้นึกถึงเลย เดียอายุ 21 เอง ถ้าแต่งไปก็คิดว่ายังเด็กเกินไป ตอนนี้ก็ถือว่าความรักแฮปปี้ดี


ลิเดีย

ลิเดีย - แมทธิว



 แมทธิวถือว่าเป็นหนุ่มในสเปกไหม ?

          ลีเดีย : เดียเป็นคนที่ชอบลูกครึ่งอยู่แล้ว ชอบคนที่หน้าตาเหมือน จอร์ช ฮาร์ตเน็ตต์ เขาก็เผอิญคล้ายๆ ก็โอเค ส่วนนิสัยเนี่ยแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ก็ต้องมีการปรับตัว แต่ที่ผ่านมาทะเลาะกันนับครั้งได้ เราไม่ค่อยมีเถียงกัน อาจเป็นเพราะว่าพี่เขาโตกว่าเดียเยอะ เขาดูเหมือนคนใจร้อน แต่จริงๆ แล้วไม่ร้อนเลย เดียเป็นคนใจร้อนกว่าอีก จากที่รู้จักเขาจริงๆ เขาค่อนข้างใจเย็น เขาจะไม่โมโหกับเรื่องอะไรเลย ยกเว้นถ้าโกรธจริงๆ เขาเป็นคนที่อารมณ์ดี แต่ภาพที่ออกไปข้างนอกจะดูเหมือนว่าเขาใจร้อน เพราะว่าข่าวที่ออกไป เป็นตอนที่เขาเดือดพอดี แต่ตอนที่เขาใจเย็น ไม่มีใครมาเห็น

 เราต้องมีปรับตัวตรงจุดไหนกันบ้างไหม ? 

          ลีเดีย : ที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้ปรับอะไรมากมาย ก็อาจจะมีเรื่องข่าวของเขาที่ออกมาดูค่อนข้างแรง เขาก็ต้องวางตัวให้ดีๆ เท่านั้นเอง อย่างเรื่องที่เขาไปเปิดก้น ป๊ากับแม่ก็รับไม่ได้ เขาก็ต้องปรับ ก็รู้นะว่าเขาเป็นฝรั่ง ไปทำที่เมืองนอก มันไม่เป็นไร แต่พออยู่เมืองไทย เราก็ต้องดูนิดหนึ่งว่าวัฒนธรรมเป็นยังไง แต่เขาก็ดีขึ้น

 เขาก็ยังมีความเป็นผู้ใหญ่ที่แนะนำเราได้ ?

          ลีเดีย : ค่ะ เวลาที่เรามีอะไร ต้องการคำปรึกษา ก็คุยกับเขาได้ เขาก็แนะนำได้ดี เขาโตกว่าเดีย 9 ปี เขาผ่านอะไรมาเยอะกว่าเดีย และก็อยู่วงการบันเทิงมาเป็นสิบๆ ปี ที่ผ่านมาเดียก็โตมาในสังคมเด็กอินเตอร์ เขาก็เป็นคนเดียวที่คุยภาษาอังกฤษแล้วเข้าใจว่าเดียเป็นยังไง วัฒนธรรมที่เดียเติบโตขึ้นมาเป็นยังไง นี่เขาก็เป็นเพื่อนกับเพื่อนๆ เดียหมดเลย ก็เลยเข้าใจกัน บางคนก็คิดว่าเดียแรง แต่เดียคิดว่าเราเป็นคนที่ตรงมากกว่า ไม่พูดแบบอ้อมๆ

 ตอนนี้การเรียนของเดียเป็นไงบ้าง ? 

          ลีเดีย : เรียนที่ LSE (London School of Economics and Politics) เป็นโรงเรียนที่อังกฤษ คือจะมีหนังสือเรียนมาให้เราเรียนเอง ยากมาก เดียเรียน Economic มันก็มีทั้งเลข ทั้งอะไรเต็มไปหมด วันๆ เดียก็ทำงานด้วย กว่าจะจับตัวเองมานั่งอ่านหนังสือ นั่งทำความเข้าใจอีก มันยากมาก ตอนนี้ก็เพิ่งเริ่มเรียน ยังไปไม่ถึงไหนเลย ปกติเดียเป็นคนขยันอยู่แล้ว เวลาเรียนก็จะตั้งใจเรียน แต่พอมาเรียนเองต้องบังคับตัวเอง ก็ยากแต่ถ้าตั้งใจทำจริงๆ ก็ทำได้ ที่โรงเรียนเขาก็ให้เวลาด้วย จริงๆ ก็อยากไปเรียนที่โน่นเลย แต่ว่าตอนนี้ยังรักการทำงานนี้อยู่ ค่อนข้างแฮปปี้ เพราะว่าเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบและเราก็ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยทำไปก่อน เบื่อแล้วค่อยไป

 การร้องเพลงมีเสน่ห์อะไรดึงดูดให้เดียมาทำ ?

          ลีเดีย : เดียฝึกร้องเพลงตั้งแต่ 10 ขวบ เวลาทำแล้วมีความสุข เวลาเครียดๆ นี่ร้องเพลง ก็คลายเครียด พอร้องเพลงแล้วก็มีผลงานใหม่ๆ เราเองก็ชอบลุยงานใหม่ๆ การเป็นนักร้องเดียว่าเหนื่อยเป็นบางช่วง แต่ว่าชอบ จริงๆ แล้วเดียก็ร้องเพลงได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ร็อก แจซซ์ ฮิปฮอป แต่ว่าแนวอาร์แอนด์บี อาจจะเป็นอะไรที่คนในประเทศชอบให้เดียเป็นอย่างนี้

 แล้วผลงานเพลงที่ทำอยู่ตอนนี้ ?

          ลีเดีย : เป็นอัลบั้มพิเศษค่ะ ชื่อชุด Love Maker 2 ก็จะมีเพลงเดียวที่เดียไปร้องคู่กับพี่บี (พีระพัฒน์ เถรว่อง) แต่ว่าอัลบั้มเต็มเดี๋ยวจะตามออกมา ประมาณต้นปี ตอนนี้กำลังทำอยู่ เราต้องทำไปเรื่อยๆ และหาอะไรที่มันดีที่สุด แล้วค่อยปล่อยออกมา

 วัยเด็กนี่ถูกเลี้ยงมาแบบไหน ?

          ลีเดีย : เลี้ยงเหมือนเด็กอินเตอร์เลย แต่มีความเป็นไทย อย่างเพื่อนๆ มีไปนอน ค้างที่อื่นกัน ป๊ากับแม่จะไม่ให้ไป ป๊ากับแม่ค่อนข้างดุนะ เวลาออกไปเที่ยวไหนต้องกลับบ้าน 2 ทุ่ม ห้ามสาย เขาเลี้ยงแบบมี เหตุมีผล มีอะไรก็เถียงกันได้ คุยกันด้วยเหตุ ผล ตอนนี้ถึงเดียทำงานแล้ว เขาก็ยังไม่ปล่อย ถึงแม้ตอนนี้จะบรรลุนิติภาวะแล้วก็ตาม เขาจะตีเส้นไว้ให้เรา ถึงจะมีวอกแวกออกบ้าง แต่ยังไงก็ต้องเดินไปในทางที่เขาวางไว้ แม่เลี้ยงมาแบบไม่กอด ไม่อะไรเลย พี่คนโตจะต้องแกร่ง ต้องนำน้องได้ เป็นหลักให้น้องๆ ได้ ที่บ้านไม่ค่อยหวานแหววกัน เดียคิดว่าถ้าแม่มาหวานแหววกับเดีย คงแปลกๆ ถามว่ารักกันไหม เรารักกันนะแต่ไม่แสดงออก

 วางอนาคตตัวเองไว้ว่าเป็นอย่างไร ?

          ลีเดีย : ก็ต้องดูว่าแฟนเพลงยังตอบรับอยู่ไหม และเมื่อไหร่ที่เดียเบื่อก็อาจจะเลิกทำตรงนี้ ในอนาคตที่ไกล ๆ เดียอาจจะทำธุรกิจ คงไม่ได้มาอยู่ในวงการตลอด วงการบันเทิงเป็นอะไรที่เราชอบ   ทำจริง แต่คิดว่ามันมาเร็วไปเร็ว ก็ต้องมีอะไรมารองรับไว้ วงการบันเทิงเป็นโลกมายา บางทีเราเจอดาราหลายๆ คน เราไม่รู้หรอกว่าข้างในแล้วแต่ละคนเป็นยังไง เหมือนใส่หน้ากากหากัน คือเราต้องเป็นตัวของเราเอง คนที่จะรู้จักเราจริง ๆ ก็เป็นคนที่อยู่รอบข้างเราและเป็นเพื่อนเรานอกวงการ เพราะเขาเห็นเดียเป็นเดีย ไม่ใช่ลีเดีย นักร้องอาร์แอนด์บี เดียถึงมีเพื่อนไม่กี่คนในวงการที่เดียสนิทจริงๆ ส่วนงานอย่างอื่นในวงการก็อยากลองทุกอย่าง อย่างงานแสดงถ้ามีมาเดียก็คงต้องไปเรียนแอ๊คติ้งเพิ่ม ถ้ามีโปรเจคท์พิเศษก็ลองดูได้


ลิเดีย



 ได้ข่าวว่าไปศัลยกรรมจมูกมา ?

          ลีเดีย : ค่ะ ที่ไปทำเพราะว่าเมื่อก่อนเวลาที่ถ่ายรูปแล้ว เดียจะกังวลมากว่าหน้าจะดูอ้วน ก็เลยมีคนแนะนำว่าถ้าทำแล้วหน้าดูเล็กและเรียวขึ้น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เดียต้องการ ก็เลยปรึกษากับครอบครัว ปรึกษาคุณหมอ พอทำออกมาก็รู้สึกโอเค มั่นใจมากขึ้น อันนี้เป็นแบบทดลองทำดูก่อนทำจริง เป็นการฉีดสารตัวหนึ่งเข้าไปที่จมูก เพื่อให้ส่วนที่เนื้อมันขาดไปเต็มขึ้นมา แต่ว่าจะอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน คิดว่าคงจะไปทำจริง ๆ เลย เดียว่าเรื่องทำศัลยกรรมมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลนะ มันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน อะไรที่ทำแล้วดีกับตัวเดียก็คิดว่าไม่น่าจะผิดอะไร หลังจากที่ทำมาส่วนมากก็จะ ชอบกัน บอกว่าดูดีขึ้น เราทำงานตรงนี้เรื่องรูปร่างหน้าตาเป็นสิ่งสำคัญ และอีกอย่างก็ต้องโดนถ่ายรูปบ่อย ซึ่งบางทีเห็นรูปแล้วจะไม่ค่อยสวย เดียต้องลดความอ้วนเพื่อให้หน้ามันเล็กลง แต่บางทีลดจนตัวเล็กมาก หน้าก็ไม่ค่อยลง เลยกลายเป็นว่า ตัวเล็กเกินถ่ายรูปก็ไม่สวยอีก ไม่ลงตัวสักที

 อยากฝากอะไรไปถึงแฟนๆ ? 

          ลีเดีย : ที่ผ่านมาก็ต้องขอบคุณแฟนคลับ แฟนเพลง ที่คอยสนับสนุนเดียมาโดยตลอด บางทีอาจจะเอนเอียงไปกับข่าวบ้าง แต่ก็อยากจะบอกว่าช่วยฟังหูไว้หู เพราะว่าบางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นความจริง 100% ก็ขอบคุณที่เป็นกำลังใจ ให้ ที่ผ่านมาก็หนักหนาสาหัสมากๆ ที่ยืนอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะแฟนคลับ

            ต้องบอกว่า "ชัดแจ้ง แถลงไขทุกประเด็น" เลยจ้า สมกับฉายาใหม่ที่สมาคมนักข่าวบันเทิง ยกให้เธอซะเลย "มาม้า...คอนเฟิร์ม! (ไม่ท้อง)" จ้า



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่อง : คนกลาง / ภาพ : สุรเชษฎ์ วัขรวิศิษฎ์
ภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และทางอินเทอร์เน็ต
 

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลิเดีย ตรง...แต่ไม่แรง! อัปเดตล่าสุด 28 ธันวาคม 2551 เวลา 17:38:14 27,022 อ่าน
TOP