กรณีกลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกเข้าปล้นนางเสาวนีย์ บุญณะ เจ้าของร้านขายไข่เป็ดและเจ้าของหอพักให้เช่า เลขที่ 54/5 หมู่ 1 ตำบลโพธิแตง อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา กวาดทรัพย์สินไปได้กว่า 3 แสนบาท โดยกลุ่มคนร้ายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจค้นหายาเสพติดก่อนจะแสดงตัวเป็นคนร้ายลงมือปล้นทรัพย์ และจับนางเสาวนีย์กับลูกทั้ง 3 คนใส่กุญแจมือรุมซ้อมจนสะบักสะบอม
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมสมาชิกแก๊งปล้นดังกล่าวได้แล้ว ปรากฏว่ามีทั้งตำรวจนอกราชการและที่ยังรับราชการอยู่ร่วมขบวนการนอกรีตดังกล่าว โดยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 มกราคม พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา แถลงผลการจับกุม ส.ต.ท.ธนเดช นิยม อดีตตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายชม กัณหา ผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์นางเสาวนีย์ โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้บริเวณตลาดพระอินทร์ราชา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมทรัพย์สินของผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา โดย ส.ต.ท.ธนเดชเคยไปมาหาสู่ที่บ้านของนางเสาวนีย์หลายครั้ง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนรับสารภาพว่าได้ร่วมกับพวกอีก 5 คน บุกปล้นทรัพย์นางเสาวนีย์จริง สำหรับผู้ต้องหาอีก 5 คน ประกอบด้วย 1. ด.ต.ธีระพงษ์ วัฒนกุศล หรือดาบกล้วย 2. ด.ต.ประเสริฐ อุปถัมภ์ หรือดาบเสริฐ 3. ด.ต.สุรพล เหมจัน หรือดาบหลาน ทั้ง 3 นายเป็นตำรวจประจำฝ่าย อก.บช.ภ.1 ส่วนอีก 2 คน เป็นพลเรือนธรรมดา คือนายสมพงษ์ กลิ่นมณฑา และนายประพันธ์ ทับทิมเทศ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างใหญ่ ได้เสนอขออนุมัติศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 คนเรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการตำรวจจะมีการประสานไปทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด เพื่อให้ส่งตัวมาดำเนินคดีต่อไป ล่าสุดทราบว่าเผ่นไปกบดานอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้ง 5 คน อยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ มีรายงานว่ากลุ่มผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อเข้ามอบตัวสู้คดีใน 1-2 วันนี้
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจาก พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.พิสิทธิ์ พิสุทธิศักดิ์ ผบก.อก.บช.ภ.1 แต่ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม มีนายตำรวจระดับสูงของ บช.ภ.1 ออกมาให้ข้อมูลของคดีที่เกิดขึ้นว่า ผบช.ภ.1 และ ผบก.อก.บช.ภ.1 ยังไม่ทราบรายละเอียดของคดีดังกล่าว คาดว่าในวันที่ 14 มกราคม จะเรียกตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีมาพบ และส่งมอบตัวให้กับท้องที่รับไปดำเนินการตามกฎหมาย จะไม่มีการปกป้องอย่างเด็ดขาด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
